ผักกาดหอม
ขนลุก!!!!
“จตุพร พรหมพันธุ์” ต้อนรับน้องใหม่ “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” ซะแทบหงายหลังทั้งยืน
ช่วงหลังๆ มานี้ “ทักษิณ” ทำเรื่องให้ประหลาดใจอยู่บ่อยครั้ง
ตั้งแต่สร้างครอบครัวเพื่อไทยขึ้นมา จับลูกสาวตัวเองไปนั่งเป็นหัวหน้า
ล่าสุดมาอีกตำแหน่ง “ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
ตกเป็นของ “เศรษฐา ทวีสิน”
แต่ไฮไลต์ของเรื่อง อยู่ที่ “จตุพร” พูดถึง “เศรษฐา”
…คุณเศรษฐา มาก็จะมีแผลอีก แผลใหม่เยอะแยะมากมาย จะเป็นสตอรีเรื่องราวที่นายเศรษฐา ก็ไม่คาดคิด ว่าในชีวิตตัวเองมันมีประวัติบัดซบได้ขนาดนั้น…
…ก็แล้วแต่ใครจะคิด เพราะว่าเมื่อเอาตรงไหนมาไม่ได้ ก็ต้องเอาของตาย ซึ่งในพรรคเพื่อไทยที่เอ่ยชื่อมานั้น ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาเขา (ทักษิณ) เอาคนอื่นมา
อย่างไรก็ตามกระแสนายเศรษฐา เริ่มจางหายเสียงก็เริ่มแผ่วเบา เพราะว่านักธุรกิจ เขาก็ต้องชั่งน้ำหนัก เข้ามาแล้วได้กับเสียมันคืออะไร เพราะนักธุรกิจ คือได้กับเสียเท่านั้น ถ้าเสียมากกว่าได้ อยู่กันดีๆ มีแต่เสีย หลากหลายเรื่องราวที่ใครไม่เคยรับรู้ ทันทีที่เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประวัติจะพรั่งพรูออกมา สตอรีเรื่องราวต่างๆ จะออกมาชนิดที่จะรับกันไม่ไหว
ผมไม่ได้รู้จักคุณเศรษฐา แต่ที่ได้ฟังมา ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ซึ่งไม่ได้ออกมาจากปากผมแน่นอน เพราะผมไม่รู้จักคุณเศรษฐา รู้จักเพียงแค่บางบริบทที่เกี่ยวข้องสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์เท่านั้น
แต่บริบทเฉพาะตัวของคุณเศรษฐานั้น ในแวดวงนักธุรกิจที่รู้จักกันดี ดังนั้นให้คุณเศรษฐา เชื่อตัวเองว่าในชีวิตนี้ทำอะไรมาบ้างที่คนทั่วไปไม่รับรู้ ก็จะเป็นประเด็นที่สังคมไทยได้รับรู้ขจรขจาย ก็จะเป็นเศรษฐาอีกคนหนึ่ง เป็นเศรษฐาอีกบริบทหนึ่ง…
ก็ไม่รู้ซิครับ เราคนนอก ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีด้วย เลยไม่รู้ว่า ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน นั้น มันขนาดไหน
ที่จริงชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” มิใช่อื่นไกล โด่งดัง เป็นที่รู้จักของคอการเมือง มาตั้งแต่ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว
แต่ไม่ดุเดือดเท่าที่ “จตุพร” เล่ามา
ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเขามีอะไรกัน ถึงได้จั่วหัวไว้ล่วงหน้าว่า ประวัติจะพรั่งพรูออกมา สตอรีเรื่องราวต่างๆ จะออกมาชนิดที่จะรับกันไม่ไหว
เท่าที่รู้ตอนนี้ “เสี่ยนิด” เป็น CEO บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เจ้าของอาณาจักรธุรกิจมูลค่านับหมื่นล้านบาท
ไม่อาจทราบได้ว่าสาเหตุแท้จริง ที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน ถึงตัดสินใจเล่นการเมืองในนามพรรคเพื่อไทย คืออะไร
รู้แต่ว่า รู้จักมักคุ้นกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นอย่างดี
แต่นั่นไม่สำคัญเท่า ทำไมต้องเป็น “เศรษฐา ทวีสิน”
พรรคเพื่อไทยขาดอะไร?
ผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี
หรือหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
เริ่มมีเสียงบ่นในพรรคเพื่อไทยว่า หากจับ “เสี่ยนิด” ใส่ในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เกรงว่าจะมีปัญหา เพราะประชาชนไม่รู้จัก
ฐานเสียงของพรรคยังติดแบรนด์ ชินวัตร อยู่
ส่วนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็ไม่ขาด
สุทิน คลังแสง, พิชัย นริพทะพันธุ์ เก่งๆ ทั้งนั้น แล้ว “เสี่ยนิด” จะไปแทรกตรงไหน
ก็ว่ากันไปครับ อย่างน้อยมีนักธุรกิจหมื่นล้านเล่นการเมืองอีกคน การเลือกตั้งก็น่าจะคึกคักขึ้น
แต่ทำไมนึกถึง “เอกยุทธ อัญชันบุตร” ขึ้นมาก็ไม่รู้
“เอกยุทธ” ถูกอุ้มหายไปช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลังออกมาพูดเรื่องที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
จากอุ้มหาย กลายเป็นอุ้มฆ่า ในตอนท้าย
แม้คดีนี้จะจบที่ คนขับรถเป็นคนฆ่า แต่เบื้องลึกเบื้องหลังยังเป็นที่สงสัย เพราะพยานวัตถุในคดีถูกทำลายไปพอสมควร
โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด!
ครับ…นักข่าวไปถาม “ลุงตู่” เรื่องที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว “เศรษฐา ทวีสิน”
คำตอบฟังแล้วสะดุ้งไปเหมือนกัน
“…แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ…”
“…จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่เป็นของประเทศ ฉะนั้นต้องหาคนที่เหมาะสม และการทำงานก็มีระบบและขั้นตอนมากมายไปหมด ต้องมีคณะกรรมการ มีคนที่เก่งเศรษฐกิจ ด้านการเงิน ด้านการธนาคาร การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และทั้งหมดต้องมาคุยด้วยกัน
ไม่ว่าใครจะเก่งด้านใด เมื่อสั่งแล้วไปไม่ได้ หรือติดกฎหมายก็ไปไม่ได้อีกอยู่ดี เราก็ต้องแก้ไขตรงนี้ แล้วรัฐบาลชุดหน้าจะต้องทำแบบนี้ เข้าใจหรือยัง เลิกถามเสียทีเถอะถึงหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเนี่ย…”
“เศรษฐา” เด่นเรื่องขายบ้านเก่ง
เก่งกว่า “ลุงตู่” แน่นอน เพราะ “ลุงตู่” ไม่เคยขายบ้าน
จะบริหารประเทศเก่งหรือไม่ คำตอบคือไม่รู้ เพราะยังไม่เคยทำ
แต่มีการเปรียบเทียบว่า “เศรษฐา” มีส่วนคล้าย “ทักษิณ”
บริหารธุรกิจแบบกล้าได้กล้าเสีย
จุดเด่นคล้ายกัน จุดอ่อนก็ไม่ต่างกัน หากเอาเศรษฐกิจชาติไปพันกับธุรกิจครอบครัว จุดจบก็ไม่ต่างกันนัก
ที่จริงทุกสาขาอาชีพ สามารถเข้าสู่การเมืองได้หมด
ทหารยังเป็นนายกฯ ได้ แล้วทำไมนักธุรกิจจะเป็นไม่ได้
เพียงแต่ในอดีตเราเคยมีนักธุรกิจระดับแสนล้าน ผันตัวเองมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะผันตัวเองไปเป็นนักโทษหนีคุก เพราะคอร์รัปชัน
“ทักษิณ” สร้างอาณาจักรธุรกิจแสนล้านของตัวเองก่อนเข้าสู่การเมือง แล้วใช้การเมืองต่อยอดธุรกิจในเครือ
ยังมีคดีที่เกิดจากผลประโยชน์ทับซ้อน และการทุจริตเชิงนโยบายอยู่ในศาลอีกหลายคดี
แค่รอวัน “ทักษิณ” กลับมา
แต่เชื่อเถอะครับ “ทักษิณ” ไม่กลับ
กดรีโมต บงการพรรคเพื่อไทยจากดูไบ คือสิ่งที่กำลังเกิด และจะดำเนินต่อไป
นึกภาพหาก “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็นนายกฯ ขึ้นมาจริงๆ ก็หนีไม่พ้นถูกครอบงำจากคนแดนไกล
บริบทของ “เศรษฐา ทวีสิน” อาจมีประเด็นเพิ่มเติมจากที่ “จตุพร” พูดถึง
ขจรขจาย
