GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทย พบจุดความร้อนวานนี้ (15 ก.พ. 2566) 1,005 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อน บ้านอย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังคงอันดับหนึ่งอยู่ที่ 3,168 จุด, สปป.ลาว 542 จุด, กัมพูชา 200 จุด, เวียดนาม 62 จุด และมาเลเซีย 8 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่สูงสุดยังคงพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 501 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 361 จุด พื้นที่เขต สปก. 55 จุด พื้นที่เกษตร 45 จุด ชุมชนและอื่นๆ 42 จุด และริมทางหลวง 1 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือเชียงใหม่ 205 จุด ตาก 156 จุด และแม่ฮ่องสอน 146 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่าภาคเหนือมีปริมาณจุดความร้อนมากกว่าภาคอื่นๆ คาดว่าน่าจะเกิดจากการเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร หรือการเข้าไปหาของป่า เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ คือค่าฝุ่น PM 2.5 ซึ่งจากการตรวจวัดด้วยแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ล่าสุดเช้าวันนี้ (16 ก.พ. 2566) เมื่อเวลา 11.00 น. พบว่าหลายจังหวัดทางภาคเหนือมีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานกว่า 100 ไมครอน ซึ่งอยู่ในภาวะที่มีผลต่อสุขภาพ อาทิ แม่ฮ่อนสอน เชียงใหม่ ตาก เชียงราย ลำพูน น่าน พะเยา ลำปาง และแพร่ เป็นต้น รวมถึงอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง
ทั้งนี้ สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น หรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่ม เติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th