รถกลุ่มเอสยูวี หรือที่เรียกว่ารถยนต์นั่งอเนกประสงค์เป็นที่นิยมสำหรับคนไทย เพราะเรียกได้ว่าขับคันเดียวตอบโจทย์การใช้งานได้ครบครัน ค่ายเอ็มจี เองก็รุกตลาด ส่ง MG HS ซึ่งเป็นรถที่มีฟังก์ชั่นครบครัน พร้อมยังทำราคาเปิดตัวแบบเอื้อมถึงด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 9.19 แสนบาท
สำหรับ MG HS รถยนต์กลุ่มเอสยูวีจากค่าย MG เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นและสร้างความประทับใจ ด้วยความพิถีพิถันที่ซ่อนอยู่ภายในที่มาพร้อมกับสมรรถนะอันทรงพลังภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งสมรรถนะ ,การควบคุม , การออกแบบ และความปลอดภัย ทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน MG HS ซึ่งการออกแบบผสมผสานระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ต เส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG จากแนวคิด “Stella Magnetic Field” ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน ส่วนไฟหน้าเป็นแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ Space Light Field ขณะที่ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังเป็นแบบแสดงผลไล่ระดับ Sequential ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น D และ X และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น C
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความโค้งรับสรีระ ตกแต่งด้วยวัสดุภายในให้สัมผัสนุ่ม ทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดง เบาะหลังปรับพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่ ไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light สามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร
MG HS ใช้เครื่องยนต์แบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 162 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร รองรับ E85 ขับเคลื่อนกับชุดเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission 7 สปีด หรือเรียกว่า Dual Clutch Transmission หรือ DCT ทำให้ผู้ที่ได้สัมผัสต้องยอมรับว่า MG HA เป็น SUV ที่ทรงพลัง เร่งได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังมั่นใจ กับช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ที่มีให้มากถึง 25 ระบบที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
จากการทดลองขับเครื่องยนต์และระบบเกียร์ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม จังหวะเร่งแซงทำได้ดี พละกำลังมีให้อย่างเหลือๆ การทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ คันเร่ง ตอบสนองตามโหมดการขับขี่ทั้งหมด 4 โหมดได้แก่ Eco เพื่อการประหยัดน้ำมันโหมด , Normal คือการขับขี่แบบทั่วไป , Sport เพิ่มความสนุกในการขับขี่ หรือจะใช้โหมด Custom ที่ปรับการตอบสนองต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์ พวงมาลัยและอื่นๆ ได้ต้องการ และยังมีปุ่ม Super Sport เพียงแค่กดปุ่มบนพวงมาลัย ทำให้รถมีการตอบสนองแบบเร้าใจ สำหรับโหมด Eco และ Normal ให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่นุ่มนวลต้องรอรอบสักหน่อยพอพละกำลังมาก็เร่งแซงด้วยแรงแบบเหลือเฟือ ส่วนในโหมด Sport และ Super Sport กดคันเร่งแล้วพุ่งทันใจจนน่าตกใจ ในส่วนของช่วงล่าง MG HS แบบ Euro Tuning Suspension โดยใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-Link ช่วงความเร็วต่ำให้ความนุ่มนวลซับแรงกระแทกได้ดี พอช่วงความเร็วสูงรู้สึกว่าจะมีแรงกระเทือนขึ้นมาบ้างเมื่อขับผ่านรอยต่อถนน หรือหลุมบนถนน แต่ความเฟิร์มและหนึบของช่วงล่างทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ส่วนน้ำหนักของพวงมาลัยเบา ควบคุมง่าย พอความเร็วสูงหรือปรับโหมดสปอร์ตน้ำหนักพวงมาลัยจะปรับหน่วงขึ้น
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกมีหน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function Display ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาดใหญ่มากถึง 10 นิ้ว ที่ตอบสนองการใช้งานได้ดี พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมกุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start และยังมีฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
MG HS เป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ด้วยฟังก์ชั่นอัดแน่นด้วยเทคโนโยลีอันทันสมัย ความสวยงามหรูหรา ที่แฝงความสปอร์ตที่ออกแบบมาอย่างลงตัว รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ทำได้ดีให้ความมั่นใจและความสนุกในการขับขี่ โดยมีราคาเริ่มต้นรุ่น C เพียง 919,000 บาท ส่วนรุ่น D ราคา 1,019,000 บาท และรุ่น x ราคา 1,119,000 บาท โดยผู้สนใจไปทดลองขับด้วยตัวคุณเองได้ที่โชว์รูมทั่วประเทศ
