ปัญหาขยะล้นเมืองเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีขยะมากถึง 10,706 ตันต่อวัน เทียบเท่ากับคนกรุงเทพฯ สร้างขยะมากถึงคนละ 2-3 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งขยะจำนวนมากเหล่านี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมแล้ว ยังส่งผลร้ายสะท้อนกลับประชาชนอีกต่อหนึ่ง
ขยะล้นเมืองจัดการได้ “เริ่มจากตัวคุณ”
หนทางแก้ปัญหาขยะล้นเมือง เริ่มต้นได้ด้วย “การแยกขยะ” โดยการคัดแยกขยะอินทรีย์ จำพวกเศษอาหาร ขยะที่เน่าเสียง่าย เพื่อนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพสำหรับใส่ต้นไม้ หรือแปลงผักสวนครัวได้ ขยะจำพวกขวดพลาสติก แก้ว กระป๋อง เศษกระดาษ สามารถนำมารีไซเคิล รียูส เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เกิดประโยชน์ได้อีกครั้ง หรือคัดแยกขยะอันตราย วัตถุปนเปื้อนต่างๆ เพื่อนำไปกำจัดขยะอย่างถูกวิธี โดยไม่มีสารพิษ หรือสารเคมีรั่วไหลเป็นอันตรายต่อชุมชน ซึ่งการคัดแยกขยะเหล่านี้ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ แต่กลับช่วยลดจำนวนขยะได้มหาศาล ประหยัดงบในการกำจัดทำลายขยะ ลดการสิ้นเปลืองพลังงานและทรัพยากรจากการใช้เพียงครั้งเดียว ช่วยลดการสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
ไทวัสดุ มีแนวทางการดำเนินธุรกิจตอบแทนสังคมควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ CSR ต่างๆ มากมาย ตั้งเป้าหมายการเป็นผู้นำค้าปลีกธุรกิจวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านหัวใจสีเขียว ตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะ ผ่านแคมเปญ “ไทวัสดุ : ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรให้ถูกถัง” เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกการแยกขยะในกลุ่มเยาวชนซึ่งถือเป็นฐานรากที่สำคัญของประเทศ แคมเปญดังกล่าว ไทวัสดุ ได้ไปให้ความรู้เรื่องการแยกขยะกับนักเรียนชั้นประถมในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดไผ่ตัน และโรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์ เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้เกิดความตระหนักรู้ บ่มเพาะนิสัยการแยกขยะ และสร้างพฤติกรรมการใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“โรงเรียนของเราให้ความสำคัญกับการจัดการขยะ ซึ่งในโรงเรียนมีขยะหลายประเภท เช่น กระดาษ ขวดน้ำต่างๆ เด็กนักเรียนบางคนยังทิ้งขยะลงถังไม่ถูกประเภท ทางโรงเรียนจึงมีแนวทางที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกประเภทของขยะได้อย่างถูกต้อง ซึ่งแคมเปญ “ไทวัสดุ : ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรให้ถูกถัง” ที่ทางไทวัสดุได้จัดกิจกรรมมาให้ความรู้กับเด็กนักเรียน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้เด็กนักเรียนได้รู้จักการแยกขยะประเภทต่างๆ และได้ลงมือปฏิบัติจริงในการคัดแยกขยะด้วยตนเอง โดยคาดหวังว่าการปลูกฝังในวันนี้จะส่งผลให้กลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเด็กๆ ในระยะยาว” ดร.เพ็ญศรี วงศ์ไวโรจน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
“การร่วมกิจกรรม “ไทวัสดุ : ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรให้ถูกถัง” ในครั้งนี้ทำให้หนูได้รู้ถึงความสำคัญของการแยกขยะ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แต่ทุกคนอาจจะมองข้ามไป แต่ก่อนหนูก็เป็นคนหนึ่งที่ทิ้งขยะโดยไม่ได้แยกประเภท แต่หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้หนูจะแยกประเภทของขยะและทิ้งให้ถูกถังทุกครั้ง เพราะตอนนี้หนูสามารถคัดแยกประเภทของถังขยะได้ด้วยตัวเอง โดยประเภทของถังขยะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก คือ ถังสีเหลืองเป็นขยะรีไซเคิล เป็นสิ่งของพวกขวดพลาสติก ถุงพลาสติก กระป๋อง กล่องกระดาษ กระดาษ ถังขยะสีน้ำเงินเป็นประเภทขยะทั่วไป จะเป็นของเช่น ซองขนม ถุงพลาสติก ถังขยะสีเขียวเป็นขยะประเภทขยะอินทรีย์ ขยะเปียก พวกเศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เนื้อสัตว์ เศษใบไม้แห้ง” เด็กหญิงปัณฑารีย์ สาลีคงประยูร นักเรียนโรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์
นอกจากนี้ ทางไทวัสดุได้มอบถังขยะแยกประเภทให้แก่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบาย #ไม่เทรวม เพื่อนำไปกระจายต่อให้กับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 50 แห่ง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาการจัดการขยะ และบ่มเพาะการใช้สิ่งของให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เยาวชนของชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมเติบโตเคียงข้างสังคมและสิ่งแวดล้อมของทางไทวัสดุ
ช้อปสินค้าคุณภาพ แบรนด์ชั้นนำ “ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี” ได้แล้ววันนี้ ที่ไทวัสดุทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือ ช้อปออนไลน์ได้ที่ www.thaiwatsadu.com ติดตามข้อมูลข่าวสาร พร้อมรายละเอียดโปรโมชัน เพิ่มเติม ได้ที่ www.thaiwatsadu.com Facebook Fanpage: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร 1308