คุณูปการของ “ชัชชาติ” – เปลว สีเงิน

www.plewseengern.com

เปลว สีเงิน

ช่วงนี้ ฝนตกเอาจริง-เอาจังดีนะ
จาก “เย็นเป็นตก”
พัฒนาการขึ้นเป็น ตกทั้งเช้า-ทั้งเย็น จนวัน-สองวันนี้ ตกแบบ “ออลเดย์-ออลไนท์” กันเลย
นี่ ถ้าผมเป็นนายกฯ ละก็นะ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือส่งหนังสือขอบคุณไปถึงผู้ว่าฯ กทม.ที่ชื่อชัชชาติ
ชัชชาติแก้ท่วมกทม.ไม่ได้ก็จริง

แต่ชัชชาติทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่เคยเกลียดน้ำท่วม หันมาเป็นคนรักน้ำท่วม เป็นคนมีความเข้าใจสภาพเมืองดีขึ้น
และมีความเห็นอก-เห็นใจ ด้วยเข้าใจธรรมชาติของชัชชาติว่า “งานเป็นรอง-ท่องน้ำเซลฟี่เป็นหลัก”

จึงไม่ว่ากัน เปลี่ยนจาก “สวด” ในยุคอัศวิน มาเป็น “อวย” ในยุคชัชชาติแทน!
ท่วมปีนี้ ก็เลยได้ดูข่าวโทรทัศน์ ดูข่าวโซเชียล ค่อยสบายหู-สบายตา ขึ้นหน่อย

เพราะที่ “ชังชาติ” กลับเห็นใจ-เข้าใจ “ชัชชาติ” ไปหมดแล้ว!
ผิดกับตอน พล.ต.อ.อัศวินเป็นผู้ว่าฯ…….

ถ้าฝนตก-น้ำท่วม-น้ำขัง “ข้ามคืน” อย่างนี้น่ะเรอะ ถูกด่าป่นเป็นแป้งไปแล้ว แถมโยงไปด่าถึงรัฐบาล และนายกฯ โน่นเลย

ก็ถือเป็นคุณูปการอย่างหนึ่งของชัชชาติ….
ใครก็อย่าไปเอาคำโม้ตอนหาเสียงของท่านมาย้อนให้ท่านต้องเขินสะเทิ้นอายเลย

แค่นี้ ถ้าแหวกแม่พระคงคาได้ ท่านคงแหวกดำลงไปกบดาน “ซ่อนอาย” อยู่ก้นบาดาลโน่นแล้ว!
ผมไม่โทษท่านเลย โดยสัตย์จริง

ผมไม่ใช่คนกทม.โดยกำเนิดก็จริง แต่อยู่มา ๖๐ ปีแล้ว พอรู้-พอเข้าใจ “กายภาพ” เมืองของ “พระแม่ธรณีบีบมวยผม”

“กรุงเทพฯคู่กับน้ำ”

พอได้ยินท่านหาเสียง แก้น้ำท่วม-รถติดได้ ผมก็ปิดสวิตช์ทันที
เพราะนั่น…โม้เต็มๆ

ไม่ต่างทักษิณ ตอนเข้าการเมืองทีแรก ประกาศเปรี้ยง “จะแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯให้สำเร็จใน ๖ เดือน”

นี่ก็เกือบ ๓๖๐ เดือนแล้วที่โม้ไว้ ตั้งแต่ตอนอยู่พรรคพลังธรรม เพิ่งเห็นผลเอาตอนนี้เอง

ตอนน้ำท่วมนี่ไง “รถหายติด” จริงๆ
แต่เปลี่ยนเป็น “จอดนิ่ง” อยู่ในน้ำเป็นกิโลๆ!

ก็เป็นมรณานุสติทางการเมืองอย่างหนึ่งที่ควรจำ
“ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ใกลต้น” ฉันใด
“เกิดจากโม้” ก็จะต้อง “ตายด้วยโม้” ฉันนั้น!

ถ้า “กุมภกรรณ” กลับชาติมาเกิดเป็น “ชัชชาติ” ผมจะเชื่อว่าแก้ปัญหาน้ำท่วม-รถติดได้

แต่ดูหุ่นทรงแล้ว “ชัชชาติ” ไม่น่าใช่กุมภกรรณกลับชาติ ถ้าบอกว่า มีความสนิทสนมกับกลุ่ม “ชังชาติ”
เออ…ค่อยน่าเชื่อ!

เราเรียนมัธยมกันมาแล้วทั้งนั้น คงรู้น่า ว่า “กุมภกรรณ” คือน้องชายทศกัณฐ์ มีวิชา “ทดน้ำ” เป็นเลิศ
ทดปุ๊บ-แห้งปั๊บ!

ตอนช่วยพี่ชายทำศึก “รบพระราม” หวังให้กองทัพพระรามอดน้ำตาย
กุมภกรรณ ก็ทำพิธีทดน้ำให้แห้ง คือไม่ให้มีน้ำไหลไปทางพระรามเลยซักหยด

พระรามต้องส่ง “หนุมาน” เหาะไปทำลายพิธี
กุมภกรรณนี่ มี “หอกโมกขศักดิ์” เป็นอาวุธวิเศษ เคยพุ่งใส่ “พระลักษณ์” จนหงายท้องแทบแดดิ้นสิ้นชีวามาแล้ว

เมื่อถูกหนุมานทำลายพิธีทดน้ำ กุมภกรรณก็ไล่ราวีหนุมาน จนไปเจอพระราม
“หอกโมกขศักดิ์” หรือจะมาสู้ “ศรพระราม”!

ก็เลยถูกพระราม “แผลงศร” ใส่ ดอกเดียว…กุมภกรรณก็ดับดิ้นสิ้นชีวาไปเลย!

ขนาดกุมภกรรณ “ทดน้ำ” ได้ แต่ก็ยังต้องตายเพราะ “เรื่องน้ำ”

แล้วชัชชาติ มีแต่วิชา “ท่องน้ำ” ยิ่งเห็นแม่หมอฟองสนาน จามรจันทร์ บอกว่า ฝนตกตอนนี้ แค่แซมเปิล
“ตุลา-พฤศจิกา” จะมาห่าใหญ่ในจักรวาลหนักกว่านี้ แล้วคุณพี่ชัชชาติจะท่องน้ำไหวหรือ?
มันอาจ “มิดหัว” เลยนะ

ที่น่าห่วงคือ แล้วท่านจะไลฟ์สดได้ไง หรือจะดำไปไลฟ์ใต้บาดาล ไงก็…ถ้าเจอนางเงือก ต้องเซลฟี่มาให้แฟนๆ ดูด้วย ห้ามอุบอิบ-มุมมิบ ไว้ดูคนเดียวเชียว!

เรื่อง “ฝนตก-น้ำท่วม-รถติด” สำหรับกรุงเทพฯ บริหารในทางผ่อนคลายหนักเป็นเบาได้ในแต่ละสถานการณ์
นักการเมืองคนไหน ใครก็อย่าเสือกโม้ว่า…เลือกผมซิครับ ผมแก้ “รถติด-น้ำท่วม” ได้เป็นอันขาด

เพราะนั่น เท่ากับ “ฆ่าตัวตาย” ชัดๆ ต่อให้เทวดาลงมาแก้ ก็แก้ให้หายขาดไม่ได้ เพราะนี่เป็น “ธรรมชาติเมือง” ลุ่มน้ำ ที่มีพื้นที่ ๑,๕๘๖ ตารางกิโลเมตร
แต่มีสารพัดมนุษย์รวมอยู่ไม่ต่ำกว่า ๑๒ ล้านคน!

โดยสภาพเมือง ไม่ได้ออกแบบสร้างเพื่อรองรับสารพัดมนุษย์ให้มาอยู่กันมากมายขนาดนี้
เหมือนปลูกบ้าน ๒ คนผัวเมีย กับลูก ๑ คนอยู่ ในพื้นที่ ๕๐ ตารางวา นานไป มีหลาน มีญาติพี่น้องมาอยู่ด้วยเป็นสิบ-เป็นร้อยคน
เนื้อที่ ๕๐ ตารางวา จะออกแบบ-ออกผังให้ถูกส่วนสำหรับคนเป็นร้อย มันไม่มีทางทำได้

แล้วจะทำไง ก็ทำแบบกรุงเทพฯ ทุกวันนี้แหละ
ต่อกันไป-เติมกันมาตามใจชอบ โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมรวม

“มือใครยาว สาวได้-สาวเอา” และกทม.แต่ละเขตนั่นแหละ ที่เละทะหมักหมมเกินแก้
ก็เพราะ “พวกท่าน” นั่นแหละ….

โดยเฉพาะเรื่องอนุญาตก่อสร้าง กฎหมายมี แต่เงินมา กฎหมายก็เมิน กลางเมืองหลวง เมื่อฝนตก น้ำจึง “หลงทาง”

ซอยแคบนิดเดียว คอนโดฯ เป็นสิบแห่ง นอกจากปิดกั้นทางน้ำแล้ว ชาวคอนโดฯ เป็นพันๆคน รถก็ต้องมีเป็นพันๆ คัน ยังไม่ต้องพูดถึงรถของคนที่ต้องใช้ร่วมซอย
แล้วจะแก้ไงไหว ไม่ให้รถติด ไม่ให้น้ำท่วม เมื่อฝนตกติดต่อกันนานๆ?

เมื่อคนชั้นในล้น ก็ทะลักไปชานเมือง ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีการวางผังเมืองรองรับความเติบโตในอนาคต ไม่ต้องมาก ไปดูได้เลย ไปแถวเมืองนนท์ ปทุม

ถนน ๖ เลน ๘ เลน ก็จริง แต่มีท่อระบายน้ำมั้ย มีทางเท้ามั้ย มีแผนรองรับเอาสายไฟ-สายสื่อสารลงดินมั้ย?
ก็ไม่มี บ้านจัดสรร ใหม่ๆเป็น “ถนนส่วนบุคคล” พอขายหมด ก็ถลกตูดไป เมื่อพัง ใครละรับผิดชอบ?

ชาวบ้านไปด่า เจ้าของโครงการหรือเปล่า…
ก็เปล่า…ด่ารัฐบาล ให้ไปแก้ไข ทางการก็บอกเป็นถนนส่วนบุคคคล อ้าว…ไอ้เจ้าของโครงการขายหมดแล้ว มันถลกตูดไปนานแล้ว

ก็ผลักภาระส่วนนี้มาเป็นปัญหาของรัฐบาล ของกทม.ของเขตปกครองนั้นๆ

ถามว่า ปัญหาซ้ำซากอย่างนี้ ทางเขต ทางผู้ออกใบอนุญาต ไม่มีบทเรียนเป็นประสบการณ์ที่ต้องป้องกันล่วงหน้าเลยหรือ?

มี…ทำไมจะไม่มี แต่หมาน่ะ มันกินทั้งขี้-ทั้งข้าว ดั้งนั้น “ฝนตก-น้ำท่วม-รถติด” อย่าไปคิดแก้ที่น้ำ-ที่รถเลย
มันเป็นผลที่เกิดจากเหตุตะหาก

เหตุอยู่ที่ไหน…ก็อยู่ที่คน ที่เรียก “เจ้าหน้าที่” นั่นแหละ!
ตำแหน่งหัวหน้าเขตของกทม.กับตำแหน่งผู้กำกับแต่ละโรงพัก มันต้องประเมินค่าด้วย “ตัน” ของทองคำ

เขตที่มีสถานบริการ มีการก่อสร้างมากๆ มีโรงงาน ร้านรวงมากๆ ยิ่งเขตที่สร้างคอนโดฯ มากๆ ด้วยแล้ว
ต้องประมูลกัน “รายปี” เชียวแหละ!

เพราะอย่างนี้ ฝนตก-น้ำท่วม-รถติด ผมจึงไม่อยากโทษใคร มันเกิดจาก “กังฉิน-กินใต้โต๊ะ” ในระบบราชการเป็นมรดกตกทอดกันมาจนเป็นวัฒนธรรมประจำชาติไปแล้วขณะนี้

แต่ที่พูด-ที่ว่า ใช่ว่า “ชังชัชชาติ”
ไม่ได้ชังท่าน แต่ไม่ชอบตรงที่ “วิดวะ” ระดับท่าน แถมคุยศึกษางานกทม.มา ๒ ปี ก่อนที่จะสมัครเป็นผู้ว่าฯ

แล้วท่านไม่รู้เลยหรือว่า เรื่องจราจร เรื่องฝนตก-รถติด ในกรุงเทพฯนั้น มันเป็น “ภาวะล้นเกิน” ที่จะไปคุย ไปโฆษณาหาเสียง เที่ยวสัญญิง-สัญญา ผมแก้ได้แค่ “ลอกท่อ-น้ำไม่ท่วม” แบบนั้นน่ะ

แถมพูดคำใหญ่-คำโต “ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ไม่ควรมาเป็น”
แล้วท่านล่ะ….ควรเป็นมั้ย?

เนี่ย…….
เพราะเที่ยวคุยโว โอ้อวดคุณวิเศษในตัวอันไม่มีอยู่จริง ในตัว อาศัยพวกเกาะกินงบทางสังคม ช่วยกันอวย-ช่วยกันเชียร์ ตามโซเชียล จนคน ๑ ล้าน ๓ แสนคน หลงเชื่อ อย่างนี้แหละ

ผมจึงไม่ชอบพวก “คนหลอกคน” ถ้าระดับท่าน หาเสียงแสดงวิสัยทัศน์ว่า
“กรุงเทพฯ โตถึงขั้นชรา สารพัดโรครุมเร้าแล้ว….

เราต้องให้กรุงเทพฯ ได้พักผ่อน เราต้องวางแผนขยับขยายเมืองหลวง “จากกทม.” ไปตรงไหนสักแห่ง ในอนาคตแล้ว”

แบบนี้ ค่อยสมกับระดับชั้นวิศวะ ที่เคยผ่านงานระดับรัฐมนตรีคมนาคม
หนีน้ำไปอยู่ปักหลักแถวๆ ปากช่อง-เขาใหญ่โน่น

แล้ววางผัง-วางแผนเมือง เหมือนอย่างที่ EEC เขาทำ รองรับอนาคตไปถึงศตวรรษหน้าๆโน้น อย่างน้อยค่อยเห็นแววขึ้นที่วงหางหน่อย

เอ้า…..
ว่าจะคุยเรื่องศาลรัฐธรรมนูญที่ประชุมกันเมื่อวาน กรณี ๘ ปีนายกฯ มัวโม้เรื่องน้ำจนไม่ได้คุยเรื่องเนื้อ

เห็นว่า ศาลฯสั่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรธ.ครั้งที่ ๕๐๑ วันอังคารที่ ๑๑ กย.๖๑

ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ ๕๐๐ วันศุกร์ที่ ๗ กย.๖๑ ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ไปให้ศาล
ภายในอังคารที่ ๑๓ กย.นี้

และศาลท่านนัดพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ ๑๔ กย.
อดใจรอ ไงก็ “เดือนนี้” แหละ รู้กัน!

เปลว สีเงิน

๙ กันยายน ๒๕๖๕



Written By
More from plew
เรื่องของคน “บ้าชุด” แห่งปี
ใครไม่ชอบ แต่ผมชอบแฮะ “ธนาธร-พรรณิการ์” นั่นน่ะ! กวนสะดือดี ตำรวจนัดให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา จัดแฟล็ชม็อบ ฝ่าฝืนพรบ.ชุมนุม เมื่อ ๑๔ ธันวา. ทอนบอกไม่ว่าง...
Read More
0 replies on “คุณูปการของ “ชัชชาติ” – เปลว สีเงิน”