เปลว สีเงิน
เคยได้ยินคำว่า “เจอ-จ่าย-จบ” กันใช่มั้ย?
คือ ตอนโควิดระบาดปีที่แล้ว
“บริษัทประกันภัย” หลายแห่ง แปลงโควิดเป็น “เกมประกัน” โดยออกโปรแกรม “เจอ-จ่าย-จบ” แข่งกัน
ลูกค้าซื้อกรมธรรม์กันเพียบ มากกว่า ๑๐ ล้านราย!
บริษัทประกันภัยลูบพุง “โควิดให้ลาภเว้ย” ดีดยี่ต๊อกแล้ว ยังไงๆ ก็ จบแบบ “เจี๊ยะมากกว่าจ่าย”
แต่ที่ไหนได้ เจ้า “เดลตา” สัญชาติอินเดีย ที่นึกว่าไม่เท่าไหร่ ดันกลายเป็นเดลตา “ฮัดเช้ย….” จ่ายรอบวง “ซะนี่!
ไม่ต้องพูดถึงตาย
เอาแค่เจอว่าติดก็วันละเป็นหมื่นๆ ราย “แจ็กพอท” ก็แตกไปเท่านั้น ที่นึกว่าจะเจี๊ยะ กลายเป็นต้องจ่าย จนเจ๊งเป็นรายๆและบางรายออกลูกเบี้ยว จนผู้ซื้อกรมธรรม์เจี๊ยวอย่างที่เป็นข่าวไปแล้ว
ก็ยังโชคดีของระบบประกัน….
ที่มี “คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย” ที่รู้จักและเรียกกันว่า “คปภ.” เข้มแข็ง
และการที่มี “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” ทำหน้าที่เป็นเลขาธิการคปภ.นับเป็น “โชคดี” ขั้นที่สองของระบบประกัน
เพราะท่าน “แข็งสู้” สิบทิศ
เพื่อผู้ซื้อกรมธรรม์และเพื่อพิทักษ์เครดิตระบบประกัน
คปภ.มีหน้าที่อย่างไร?
๑.มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ผู้เอาประกัน ๒.ต้องทำให้ระบบประกันมันคง คู่คำว่า “ศรัทธา-เชื่อถือ”!
ดร.สุทธพล ทำได้ และทำให้เห็นมาตลอด!
ไม่เสียทีนิติธรรมศาสตร์, มหาบัณฑิตฮาร์วาร์ด, ดุษฎีบัณฑิตเพนซิลเวเนีย อดีตผู้พิพากษา และฯลฯ
ดีกรีก็ไม่ได้เป็นตรารับประกันคนเสมอไปหรอกนะ
แต่กับดร.สุทธิพล งานที่เขาทำ คำว่า “สัตย์-สุจริต” เพื่อผลประโยชน์ประชาชน ผมเห็นเขายืนตรงอย่างนั้นมาเป็นสิบๆปี
ดังนั้น เมื่อบริษัทประกันภัย ที่ขายกรมธรรม์ “เจอ-จ่าย-จบ” ถูกลูกค้าจำนวนมากที่ “ติดโควิด” เคลมประกันทำท่า “เจอ-ไม่จ่าย-แต่จะตัดจบ” เอาดื้อๆ
“หัวเด็ด-ตีนขาด” ดร.สุรพลไม่ยอม
เมื่อยังอยู่ในสัญญาประกัน ยังไงๆ เจอก็ต้องจ่ายเขา
ขนาด “เจ้ามือหวยใต้ดิน” เจอเลขเด็ดคนแทง เขายังไม่เบี้ยว มาก-น้อยก็จ่าย เพื่อรักษาเครดิต “มาตรฐานเถื่อน”
แล้วนี่ “บริษัทประกันภัย” จดทะเบียนตามกฎหมายแท้ๆ แถมเป็นบริษัทมาตรฐานมหาชน “ได้เอา…เสียไม่จ่าย”
แบบนี้ เสียมาตรฐาน “บริษัทมหาชน” หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
แต่ที่แน่ๆ ประกันภัย “ทั้งระบบ” ของประเทศ
ล้มละลายทางมาตรฐานและความเชื่อถือฉิบหายหมด ทั้งระดับประเทศและระดับสากล!
ที่ผมปรารภความมาทั้งหมดนั่น ก็สืบเนื่องจากกรณี บริษัทประกันภัย ๒ แห่ง
“บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด(มหาชน)” และ “บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)”
เขาฟ้องดร.สุทธพิล เลขาฯ คปภ.ต่อศาลปกครอง
ว่าดร.สุทธิพล ในฐานะนายทะเบียน………
ออกคำสั่งห้ามบริษัทประกันภัยบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด “เจอ-จ่าย-จบ” ถือเป็นการออกคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง และในระหว่างที่กำลังพิจารณาคดี ขอให้ศาลมีคำสั่ง “คุ้มครองชั่วคราว” หรือทุเลาการบังคับใช้คำสั่งนายทะเบียนนั้น
ครับ….
เรื่องนี้ ควรต้องสนใจกันไว้หน่อย เพราะในวงจรชีวิตคนในปัจจุบัน ร้อยละ ๘๐-๙๐ ด้วยสมัครใจหรือด้วยกลไกธุรกิจบังคับก็ตาม
ตกอยู่ในระบบ “ประกันภัย-ประกันชีวิต” กันแทบทั้งนั้น
นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้…….
ที่บริษัทประกัน “เสียแล้วจะบอกยกเลิกกรมธรรม์”!
ครั้นผู้ควบคุมกฎกติกา คือคปภ.ไม่ยอม ทำหน้าที่ปกป้องผู้ซื้อกรมธรรม์
กลับถูก “บริษัทประกันภัย” ฟ้อง…….
ฐาน “ออกคำสั่งห้ามบอกยกเลิกกรมธรรม์”!
อาจมีคนสงสัย ฟ้องได้หรือ ตอบว่า “ฟ้องได้” และเขามีสิทธิ์
ใครที่เคยซื้อกรมธรรม์ประกัน หรือไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร กระทั่งการเปิดแอปมือถือ จะเห็นว่าเขามีเงื่อนไขเป็นร้อยข้อให้อ่านเพื่อเซ็นให้ความยินยอม
ร้อยละ๙๙.๙๙ ไม่ได้อ่านหรอก ตัวเท่ารูทวารมด เป็นสิบ-เป็นร้อยข้อ ใครจะไปอ่าน เซ็นเลย!
นั่นแหละ เป็นช่องที่พวกบริษัทได้เปรียบ ซึ่งเรื่องนี้ เป็นกรณีศึกษาที่ควรติดตามยิ่ง
เมื่อศุกร์ ๑๔ มกรา.ที่ผ่านมา “ศาลให้ ๒ บริษัทประกันและเลขาฯ คปภ.ไปชี้แจงและยื่นเอกสารประกอบ และยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา
สรุปชัดๆ คือ…
ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าศาลจะรับพิจารณาคดีนี้ หรือไม่รับ!
เพื่อคลายข้อสงสัยผู้ซื้อประกัน อ่านที่ดร.สุทธิพลบอกอย่างนี้นะครับ…….
“ต้องรอฟังคำสั่งของศาลต่อไป หากศาลรับฟ้องคดีนี้ ก็อาจจะนัดคู่ความมาไต่สวน ส่วนผลคดีจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่ทราบ
ในระหว่างที่ศาลยังไม่ได้รับฟ้องและมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวฯ
กรมธรรม์ประกันภัยโควิด แบบ “เจอ-จ่าย- จบ” ยังคงมีผลใช้บังคับและให้ความคุ้มครองตามปกติ
กรณีผู้เอาประกันภัยติดเชื้อและมีหลักฐานยืนยัน ก็สามารถเคลมกับบริษัทประกันภัยที่ฟ้องคดีได้ต่อไป
หากต่อมา….
“ศาลฯ รับฟ้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว บริษัทฯจะนำคำสั่งศาลมาเป็นเครื่องมือ และอ้างในการนำมายกเลิกสัญญากับผู้เอาประกันภัย จะทำให้ผู้เอาประกันภัยโควิดทั้งหมดกว่า ๑๐ ล้านคนถูกลอยแพแน่นอน”
แต่ดร.สุทธิพลให้คำมั่นว่า……
“ไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างใด คปภ.พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชน จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด
เพื่อคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชนและผู้เอาประกันภัย
และเพื่อไม่ให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ ที่ให้บริษัทประกันจะใช้เป็นเหตุในการบิดเบือน นำเหตุที่เกิดจากการบริหารความเสี่ยงที่ผิดพลาดของตนเอง แล้วผลักภาระกลับไปให้ประชาชนและผู้เอาประกัน
เพราะนั่น จะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นและความเชื่อถือที่ประชาชนมอบให้บริษัทประกันภัยในการบริหารจัดการความเสี่ยง”
ในสัปดาห์หน้า จะเชิญบริษัทประกันภัยทั้ง ๑๔ บริษัท ที่ขายประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ มาประชุมเพื่อทำความเข้าใจ
ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นใจว่า….
ระหว่างที่ศาลปกครองกลาง ยังไม่มีคำวินิจฉัยอะไรในเรื่องนี้ออกมา บริษัทประกันภัยทุกบริษัท จะต้องดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยโควิด แบบเจอ จ่าย จบ ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย
เพราะถือว่า “คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564” ยังมีผลตามกฎหมายอยู่
อีกทั้งบริษัทประกันภัย ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
“ถ้าเมื่อใดที่ความเสี่ยงภัยเปลี่ยนไป แล้วบริษัทประกันภัยสามารถอ้างเหตุนี้มา “ยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย” ได้แบบเหมาเข่ง
ก็ย่อมจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ ที่ไม่เคยปรากฏในระบบประกันภัยของโลก จนลุกลามกระทบต่อความเชื่อถือไว้วางใจของประชาชน แล้วเช่นนี้ประชาชนจะซื้อประกันภัยไปทำไม”
ครับ….
ทั้งหมดนี้ ก็ต้องรอดู “ศาลปกครอง” ว่าจะออกมาแบบไหน คดีนี้ ถ้าพลิกทั้ง “ประกันภัย” ทั้งความเชื่อมั่นระบบ”
พลิกหมด!
