เอกอัครราชทูตจีนเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกฯ ประวิตร พร้อมยืนยันกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด-19

12 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย โดยไทยและจีนมีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ มาโดยตลอด

ทั้งเรื่องการเมือง การค้าและการลงทุน ความร่วมมือในลุ่มน้ำโขง และความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นต้น เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตฯ จะมีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด รวมทั้งช่วยพัฒนา “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” ระหว่างไทยกับจีนให้ก้าวหน้าต่อไป โดยฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ด้านเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดยไทยและจีนเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดยาวนาน การหารือในวันนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้กระชับความร่วมมือจีน-ไทย ในด้านต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ความร่วมมือด้านสาธารณสุข และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น เอกอัครราชทูตฯ ยังรู้สึกยินดีที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย และยืนยันสานต่อความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือให้เข็มแข็ง

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตฯ ยังหารือถึงความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด-19 โดยรองนายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่า รัฐบาลจีนมีแผนดำเนินมาตรการนำร่องให้นักศึกษาต่างชาติ รวมถึงนักศึกษาไทยเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่จีน และกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องดังกล่าว

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังยินดีที่มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีนเพิ่มสูงขึ้น รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณจีนที่ให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลไม้ไทย พร้อมยืนยันให้จีนมั่นใจว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ดำเนินการตรวจสินค้าผลไม้ไทยตามมาตรฐานสุขอนามัยพืชและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมการปนเปื้อนเชื้อที่จีนแนะนำ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล

เรื่องความร่วมมือด้านดิจิทัล รองนายกรัฐมนตรีในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวยินดีสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยี 5G และ AI ที่เป็นประโยชน์ร่วมของทั้งสองฝ่าย ด้านเอกอัครราชทูตฯ ชื่นชมประเทศไทยที่เป้นประเทศแนวหน้าของภูมิภาคในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและ 5G โดยจีนยินดีสนับสนุนและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านดังกล่าวกับไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

เรื่องการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญกับประเด็นการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง – แม่น้ำล้านช้าง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนของทุกประเทศที่ใช้น้ำร่วมกัน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมคณะมนตรีกรอบคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission – MRC) ครั้งที่ 28

โดยที่ประชุมได้ย้ำความสำคัญของการขยายความร่วมมือกับจีนและเมียนมาในฐานะประเทศคู่เจรจา และหุ้นส่วนการพัฒนา ในการบริหารจัดการลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และวิถีชีวิตของประชาชนริมฝั่งโขง ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ พร้อมร่วมมือกับไทย และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลและบุคลากร เพื่อนำไปสู่การบริหารน้ำในแม่น้ำโขงที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความร่วมมือพหุภาคี โดยไทยและจีนต่างมีท่าทีร่วมกันในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ทุกประเทศที่ดำเนินนโยบายพัฒนาประเทศอย่างสันติ โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณที่จีนสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ เพื่อร่วมกันเสริมสร้างภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลวัต ยืดหยุ่น สมดุล และยั่งยืน  ไทยหวังว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในช่วงปลายปีนี้  ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ กล่าวสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของไทยและยินดีให้ความร่วมมือทุกด้าน


Written By
More from pp
‘เอเปก’ เพื่อพรุ่งนี้-ผักกาดหอม
ผักกาดหอม เห็นด้วยกับ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ครับ การประชุมเอเปกต้องเป็นประโยชน์แก่คนไทย ให้ได้มากที่สุด วานนี้ (๑๖ พฤศจิกายน) “อุ๊งอิ๊งค์”...
Read More
0 replies on “เอกอัครราชทูตจีนเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกฯ ประวิตร พร้อมยืนยันกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด-19”