นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเผชิญการดำเนินชีวิตแบบ New Normal รวมไปถึง การทำงานที่บ้าน (Work From Home) ซึ่งต้องใช้การติดต่อประสานงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงทำให้มีโอกาสตกเป็นเหยื่อแชร์ออนไลน์ที่ระบาดหนักในทุก ๆ วัน
ล่าสุด มีผู้เสียหายจาก อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา กว่า 30 คน ถูกหลอกลวงให้ออมเงินกับแชร์ออนไลน์ไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ มีการหลอกลวงในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในจังหวัดชัยภูมิมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน
ที่ผ่านมาตนได้แจ้งเตือนประชาชนผ่านสื่อต่าง ๆ มาโดยตลอดว่า แชร์ลูกโซ่ เปรียบเสมือนมะเร็งร้าย กร่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติ อย่าได้หลงเชื่อและเข้าไปลงทุนกับแชร์ออนไลน์เป็นเด็ดขาด เพราะในระยะแรก ผู้เสียหายจะได้รับเงินตอบแทนจากเงินลงทุนเป็นที่น่าพอใจมาก จนติดกับดักแล้วทุ่มเททรัพย์สินเงินทองไปกับการลงทุนที่สูงขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งก็จะสูญเสียเงินทั้งหมด เพราะท้าวแชร์ปิดบ้านหนีไป
เมื่อครั้งที่ผมได้มีโอกาสทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้ยื่นขอเสนอแก้ไขกฎหมายทั้งตัวบทกฎหมาย การติดตามทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหาย บทลงโทษผู้กระทำความผิด และการคุ้มครองผู้เสียหาย ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน เพราะกฎหมายที่ล้าหลัง ทำให้อาชญากรไม่เกรงกลัว
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็นของกระทรวงยุติธรรมแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือกับ TDRI ในการหาแนวทางการแก้ปัญหานี้ ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของแชร์ออนไลน์ส่วนหนึ่งเกิดจาก ผู้เสียหายบางส่วนไม่ติดตามคดีของตนเองเท่าที่ควร เพราะคิดว่า กระบวนการยุติธรรมมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และใช้เวลานาน จึงทำให้ผู้เสียหายหลายคนผันตัวเองเป็นอาชญากรเสียเอง เพื่อที่จะหลอกลวงผู้อื่นให้ได้เงินที่ลงทุนกลับคืนมา
ดังคำกล่าวที่ว่า “แชร์ลูกโซ่ ถ้าคิดจะรอดต้องหาคนมาแทน” หรือ “ลุกช้าจ่ายรอบวง” ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาโดยโยนภาระให้กับผู้อื่นเป็นทอด ๆ เหมือนลูกโซ่ ไม่ได้ถูกแก้ไขโดยรัฐ ทั้งที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้ปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นวาระแห่งชาติ แต่ทุกวันนี้ ยังไร้กระบวนการเยียวยาผู้เสียหาย หลายพันคดียังไม่ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์คืน เพราะติดข้อบังคับของกฎหมาย
ดังนั้นผมจึงขอหยิบยกคำพูดของนักรัฐศาสตร์โบราณที่พูดว่า “ที่ใดมีการรวมตัวกันที่นั่นจะมีพลัง ที่ใดมีพลังที่นั้นจะมีกฎหมาย ที่ใดมีกฎหมายที่นั่นจะมีความยุติธรรม ดังนั้นผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เสียหายทุกคนจงมีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้
และขอฝากเตือนไปยังประชาชนที่ยังไม่เป็นผู้เสียหาย อย่าได้หลงกลเข้าไปลงทุนกับแชร์ออนไลน์ เพราะสุดท้ายอาจตกเป็นผู้เสียหายรายต่อไป ผมพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับผู้เสียหายทุกคน
