วันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 15.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พบปะเกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลังและตรวจเยี่ยมโรงแป้งมันสําปะหลังบริษัทสงวนวงษ์อุตสาหกรรม จํากัด อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ดีใจกับพี่น้องชาวไร่มันสำปะหลังที่นี่ ได้ราคามาตรฐาน 2.30-2.50 ที่เชื้อแป้ง 25% ถือว่าราคาพอไปได้และถ้าเมื่อไหร่ราคาตกต่ำกว่า 2.50 บาทจะมีตัวช่วยคือนโยบายประกันรายได้ชาวไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นนโยบายของตนเพราะตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
และนโยบายนี้เป็นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอก่อนเข้าร่วมรัฐบาล โดยนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ประกอบด้วยพืช 5 ชนิด มีข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดและมันสำปะหลัง ทำให้พี่น้องมีหลักประกัน ถ้าราคาตกต่ำกว่า 2.50 บาทจะมีส่วนต่างทำให้มีรายได้ 2 ทาง
ตราบเท่าที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเราจะผลักดันนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวไร่มันต่อไป
โดยทำมา 2 ปีแล้วปีนี้จะเป็นปีที่ 3 และจะเดินหน้าต่อไปโดยตนจะนำเรื่องเข้าเสนอต่อคณะรัฐมนตรีสำหรับปีที่ 3 นี้
นายบุญมา พลภักดี ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรองนายกฯที่ช่วยให้เกษตรมีรายได้ 3 ทาง จากการแปรรูปมันสำปะหลัง โครงการประกันรายได้มันสำปะหลังและจำหน่ายสินค้าจากมันสำปะหลัง
จากนั้นได้สาธิตการใช้เครื่องสับมันขนาดย่อมที่นายจุรินทร์ได้อนุมัติโครงการมอบเครื่องสับมันขนาดย่อมให้แก่เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังไปก่อนหน้านี้
หลังจากนั้น นายจุรินทร์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การทำยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย จะรวมทุกเรื่องไม่เฉพาะนวัตกรรม แต่รวมถึงกระบวนการผลิตต้นน้ำจนถึงการตลาดปลายน้ำ ครบวงจรคาดว่าไม่เกิน 6 เดือนถึง 1 ปี จะประกาศยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยได้
เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์แม่บทในการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนในการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้ามูลค่าสูง เกษตรมูลค่าสูงได้ พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนแนวทางนี้
ซึ่งผลได้จะตกกับเกษตรกรและประเทศโดยรวมในการส่งสินค้ามูลค่าสูงออกไปจำหน่ายในต่างประเทศนำรายได้เข้าประเทศ โดยตลาดใหญ่ของมันสำปะหลังอยู่ที่ประเทศจีน โดยหลักตลาดจีนมี 2 ส่วน คือประเทศไทยเข้าเฉพาะตลาดเอทานอลเป็นหลักแต่ยังมีตลาดอาหารสัตว์ที่เรายังไม่ได้เข้าไปเชิงลึกยังสามารถเข้าไปได้อีก และมีอีกหลายมณฑลที่มีความต้องการ ตลาดจีนยังเป็นตลาดใหญ่ที่มีอนาคตสำหรับมันสำปะหลังไทย
นอกจากนี้ยังมีตลาดยุโรป นิวซีแลนด์ออสเตรเลีย ที่สามารถนำมันสำปะหลังไปทำเป็นอาหารสัตว์ได้ เราต้องขยายองค์ความรู้ในการนำมันสำปะหลังไปผสมเป็นอาหารสัตว์ซึ่งบางประเทศไม่ใช้มันสำปะหลัง ต้องไปประชาสัมพันธ์และเจาะตลาดต่อไปในอนาคต
สำหรับการตรวจเยี่ยมลงพื้นที่ครั้งนี้ โดยมี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัด นครราชสีมา เข้าร่วมด้วย พร้อมทั้งนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมด้วย