เปลว สีเงิน
แกนนำเข้าคุก….
แกนในของแกนนำ ทำตัวลีบเอารอด สงวนท่าที หลบซุ่มดูทีท่า
‘จานหลังม็อบ โผล่หน้า เห็นท่าไม่ดี ผลุบหลังรั้วมหา’ลัย ยกกฎหมายแถไถ เห่ารัวๆ
ในภาวะเหลือแต่หางไม่มีหัว พวกตะกั่วตีนแหต่างตั้งตัวเป็นใหญ่
เมื่อเห็นตำรวจ “จับจริง-คุกจริง” เบี่ยงเป้าจาก “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ไปเป็นล้มประยุทธ์แทน
“ล้มประยุทธ์” แค่เป้าหลอก (แดก)
เป้าจริง คือ หวังเปิดบัญชี “รับบริจาค” ด้วยอยากรวยมั่งเพราะเห็นรุ่นแรก “ทำแล้วมั่งคั่ง”
“มึงมั่ง-กูมั่ง” ถึงขั้นสาวไส้ ตบตีกันตึงตังขณะนี้!
ไม่ต้องแปลกใจ เป็นไปตามสโลแกน “ศาสดาตูลุส” ผู้ขมังเวทย์ ร่ายมนต์เป่าขมองไว้ว่า “ตายหนึ่ง-เกิดแสน”
ด้วยหลักการนี้ เมื่อแกนนำ ๓ นิ้ว ถูกส่งเข้าไป “สร้างดาวคนละดวง” อยู่ในคุก
นอกคุก จึงเกิดเป็นสิบ….
เกิด “อาชีพใหม่”
อาชีพ “ตั้งแก๊ง” คนละกระหย่อม-สองกระหย่อม นัดชุมนุมเกะกะที่นั่น-ที่นี่ เหมือนสวะลอยน้ำ
อย่างเมื่อวาน (๑๐ มีค.) ต่างแก๊ง-ต่างประกาศนัดชุมนุมกันหลายที่ ผมละมึน คงด้วยอากาศกระแดะ เดี๋ยวร้อน-เดี๋ยวฝน เลยขี้เกียจตามประมวลผล “โจรรกเมือง”
เมื่อทัพหน้า ๓ นิ้ว ของสามสัสแตก….
ก็เป็นธรรมดา พวกหัวไว เห็นช่องพอหากินได้ เผลอๆ ผลงานริยำเหมือนไมค์เข้าตาแกนใน โปรโมทเป็นแกนนำรุ่น ๒ รุ่น ๓
ทีนี้แหละ ทั้งเบนซ์ ทั้งบ้าน ทั้งเงินเป็นล้าน ไหลเข้าบัญชี
สู้แล้วรวยแบบนี้ พวก “ผีแดง” ยึดเป็นอาชีพมาตั้งแต่ปี ๕๒-๕๓ โน่นแล้ว จนซีดเป็น “ผีส้มอมแดง” ยาไส้ถึงตอนนี้
ผมไม่รู้มาก่อนว่า วงจรจัดม็อบ เป็นธุรกิจสร้างรายได้ “หลบเลี่ยงภาษี” ได้ ทำให้รวยได้เป็นร้อยล้าน-พันล้าน
ง่ายๆ แค่ เปิด “รับบริจาค”…
โพสต์หน้าบัญชีแบงก์ลงออนไลน์ แล้วเงินเป็นแสน-เป็นล้านไม่รู้จากไหน-ต่อไหน จะไหลเหมือนปลาเข้าโป๊ะ?
มาสะกิดใจ รู้งี้เอามั่ง ก็ตอนสรรพากรเรียกตัวพ่อค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายหนึ่ง
ให้ไปเสียภาษีเงินบริจาคตั้ง ๕๐๐ กว่าล้าน จากการเปิดบัญชีรับเงินแกนนำสมัยโน้น
แค่ภาษียังกว่า ๕๐๐ ล้าน….
แล้วยอดเงินบริจาคมันจะกี่พันล้านกันนี่
โอ๊ะ…พ่อเจ้า!?
ที่เอ่ยเรื่องนี้ เพราะหลังทัพ ๓ นิ้วแตก แกนนำทะยอยเข้าคุก เกิดสภาพ “หลังเสร็จพิธีศพ” ขึ้นทันที
“แย่งสมบัติ” กัน
พวก “คุมบัญชีเงินบริจาค” นั่นแหละ ออกมาสาวไส้กัน ไม่รู้ไส้ใคร-ต่อไส้ใคร มึงอม-กูอม พรึ่ดข่าวโซเชียล ยึดพื้นที่เรื่องราวอื่นไปแทบหมด
ตัวละครที่นัวเนียกันอยู่ เห็นมีทั้ง นางนากทราย, นายบุ๊ง, แป้ง Headache, นายต้อม, หมออั้ม, นายสมบัติ, สราวุทธิ์ เชียงราย, นายนนท์ อีกเยอะแยะ อ่านแล้วตาลาย
เห็นงาน “ทึ้งศพ ๓ นิ้ว “ว่าด้วยเงินบริจาคมาหลายวันอยากสะกิดเอว ทั้งตาอินและตานา
ระวังเหอะ….
เดี๋ยว “สรรพากร” มาเป็นตาอยู่ เรียกไปเสียภาษีจะซวย ไม่ว่าทรายหรือส้วมหรือใคร ที่เปิดบัญชีรับบริจาคน่ะ เตรียมเหอะ!
“เงินบริจาค” ผมไม่สนใจเท่า
“ใครบริจาค”!
ที่บัญชีมีเป็นแสน-เป็นล้าน ระดับราษฎร ๓ นิ้ว ถึงมีเงิน แต่ที่จะบริจาคกันคนละเป็นร้อย-เป็นพัน ยังไงๆ จำนวนคนบริจาค ก็ไม่มากพอเป็นเงินล้านต่อเนื่องตลอดรายการแน่
ผมจึงสนใจ
อยากรู้จักชื่อ “ผู้มีจิตศรัทธา” ม็อบล่มชาติ-ล้มสถาบัน ว่าท่านไหนบ้าง?
ที่บริจาคก้อนใหญ่-ก้อนโตเข้าบัญชี จนการเปิดบัญชีอุปถัมภ์ม็อบ กลายเป็นบ่อเงิน-บ่อทอง ของพ่อยก-แม่ยก
นำไปสู่การแย่งทึ้ง-แย่งอม และแย่งเป็นแกนนำม็อบเพื่อเปิดบัญชีรับบริจาคอย่างที่เป็นตอนนี้
ระบบ “ออนไลน์” ดีอย่าง ตรวจสอบต้นทาง-ปลายทาง ของเงิน “ไหลเข้า-ไหลออก” ได้
และอย่าลืม ถ้าม็อบทำผิดกฎหมาย คนที่ยุยงส่งเสริม ให้การสนับสนุนม็อบ ก็มีส่วนผิดด้วย
ดังนั้น เมื่อไม่มีใครยอมเปิดเผยยอดบัญชีและยอดใช้จ่าย ว่ารับมาเท่าไหร่ จ่ายไปกับม็อบเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ หรือไม่เหลือ
ก็ไม่เป็นไร…..
บางที ตำรวจอาจเรียกให้เอาไปเปิดให้เขาดูก็ได้ เพราะตำรวจคงอยากรู้ “เส้นทางการเงิน” สนับสนุนม็อบ ว่ามาจากไหน และจากใครบ้าง เหมือนกัน?
กับทางสรรพากรด้วยแล้ว จะทราย จะบุ๊ง จะใครก็ช่าง นึกหรือ ว่าตัวเลขเงินในบัญชีขณะนี้ จะไม่อยู่ในการสำรวจตรวจสอบทางภาษี
คงมี “เอกสารกรมสรรพากร” ส่งไปถึงกระไดบ้าน เตรียมรับเหอะ!
ผมดูรายการ ทอล์ค ทู เวย์ วันก่อน ที่คุณวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ กับอาจารย์เวทิน ชาติกุล
เชิญ นายโทนี่ คาตาลูซี่ นักวิคราะห์สังคม อดีตทหารอเมริกัน ผู้มีความรักเมืองไทย มาออกรายการ
เขาบอกตอนหนึ่งว่า NED องค์กรที่รัฐบาลสหรัฐฯ ชักใยอยู่เบื้องหลัง ปีๆ ใช้เงินหลายล้านเหรียญยูเอส สนับสนุนคนอย่างน้อย ๓ กลุ่ม ปฏิบัติการในเมืองไทย
๑.นักวิชาการ
๒.นักเขียน, สื่อ, บล็อกเกอร์, ผู้มีอิทธิพลทางสังคมผ่านสื่อออนไลน์
๓.พวกเอ็นจีโอ
ผมฟังแล้ว อ้อ…แยกกันเดิน แยกกันเลี้ยงดู แล้วมารวมกัน “พังชาติบ้านเมือง” อย่างนี้นี่เอง
จากแหล่ง “น้ำเลี้ยง” สู่ปฏิบัติการผ่าน “พิมพ์เขียว” เดียวกันในหลายๆ ประเทศ
ทั้งฮ่องกง ทั้งไทย ตอนนี้ ในพม่า ก็ใช่ว่าจะไม่ถูก “นอกชาติ” ตอกลิ่ม เพื่อแทรกเข้าครอบงำ
ครับ…..
วันนี้ ไม่มีเรื่องคุย แถมปวดหัว-ตัวร้อน เห็นอะไรผ่านตาก็หยิบมาคุยแก้ขัดกันไป
แต่อย่าลืม วันนี้ (๑๑ มีนา.)
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมปรึกษาหารือและลงมติ เรื่องรัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ฉีกฉบับปัจจุบันทิ้งไป ทำอย่างนั้นได้หรือไม่
รอฟังข่าวอยู่กะบ้าน ไม่ต้องไปฟังที่ศาลฯหรอก เพราะจะไม่มีการออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยอย่างที่เคยเห็น
เป็นการประชุมภายใน
ได้ผลการพิจารณาอย่างใดแล้ว ทางสำนักงานศาลฯจะแจ้งทาง “เอกสารข่าว” ให้สื่อมวลชนนำเผยแพร่ คอยเปิด เว็บไซต์ไทยโพสต์ดูก็ได้
ไม่ว่าผลออกมาทางไหน “งานใหญ่” ยากเลี่ยง!
