30 ต.ค.63-หลังผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าธนาธรอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และข้อกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตอบว่า การแสดงออกเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และข้อเสนอต่างๆ ของผู้ชุมนุมนั้น ไม่มีข้อใดพูดถึงเรื่องการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ สิ่งที่เรียกร้อง คือเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ให้เหมาะกับยุคสมัย และสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เราเห็นจากผู้มีอำนาจคือการไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของปัญหานี้ ไม่ว่าจะในสภาผู้แทนราษฎร ในรัฐสภา ถ้าเราไม่ยอมรับในปัญหา เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
ที่ผ่านมาไม่มีการตระหนักจากฝั่งผู้มีอำนาจเลย เหตุนี้เราจึงเป็นกังวล เพราะแทนที่จะยอมรับแล้วแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ
วิธีการที่รัฐบาลเลือกใช้คือการโหมกระพือความเกลียดชัง ให้คนเข้าใจผิดว่าผู้ชุมนุมต้องการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นี่คือสิ่งที่เป็นอันตราย นี่คือการให้ประชาชนเลือกข้างว่าจะอยู่ข้างสถาบันกษัตริย์ หรือ อยู่ข้างผู้ชุมนุม
ในอดีตเส้นแบ่งเรื่องการเลือกข้างอาจพล่าเลื่อน แต่ครั้งนี้ชัดมาก นี่คือเรื่องอันตราย และไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
“เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังที่ถูกรัฐบาลหว่านไว้กำลังเติบโต เราได้เห็นมาแล้ว เช่น ข่าวนักเรียนที่ไม่ยืนเคารพธงชาติโดนจิกหัวตบ หรือ เหตุการณ์ทำร้ายผู้ชุมนุมที่ ม.รามคำแหง กลุ่มคนเหล่านี้ผมไม่เชื่อว่าเขาถูกจ้างมาทำ แต่พวกเขาทำเพราะจิตสำนึกที่ถูกสร้างมาทำให้คนเกลียดชังกัน และการอภิปราย 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะในฝั่งสมาชิกวุฒิสภา จะเห็นว่าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ดังนั้นวันนี้เราต้องทำความเข้าใจร่วมกัน รับฟังด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ด้วยความมีวุฒิภาวะ เพราะถ้าเราไม่หยุดยั้งเมล็ดพันธุ์แห่งการเกลียดชังจะเป็นต้นไม้ จะเติบโตทำให้การใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างมีความชอบธรรม อยากให้ทุกคนกลับมามีสติ บ้านเมืองเราพอมีทางออกได้ อย่าปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังนี้ให้กับคนรุ่นต่อไป เพราะถ้าเติบโตแล้วจะแก้ไขยากมาก”