เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงรายพรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร่วมอภิปรายรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่องการศึกษามาตรการป้องกันการเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อในประเทศไทย ต่อสภาผู้แทนราษฎรนายแพทย์เอกภพ ระบุว่าที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid-19 และการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆมาตั้งแต่เดือนมกราคม พร้อมเชิญหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง จนได้ข้อสรุปเป็นรายงานฉบับนี้ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดยังคงมีอยู่ รายงานฉบับนี้จึงเห็นว่ายังเป็นเพียงข้อสรุปในลักษณะของการรับมือในช่วงต้นเท่านั้น โดยหวังว่าจะเป็นบทเรียนสำหรับการรับมือในช่วงต่อๆไปได้
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ยังคงเน้นไปในมิติทางด้านสาธาาณสุขส่วนใหญ่ อาจจะไม่ได้รวมถึงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และกฎหมาย ในแง่เหตุผลของการคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.การบริหารแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้อยู่จนถึงตอนนี้
จากการศึกษาและชี้แจงของหน่วยงานต่างๆ เราพบว่ากระทรวงสาธารณสุขมีการดำเนินการที่รวดเร็ว มีการคัดกรองคนที่มาจากเมืองที่มีโรคระบาดตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 แม้จะมีความสับสนในนโยบายการรับมือ ความขาดแคลนคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ แต่สุดท้ายเราก็ควบคุมการระบาดได้
อย่างไรก็ตาม ต้องมองว่าปัจจุบันเราไม่ได้อยู่ในยุคหลังโควิด แต่เรากำลังอยู่ในยุคโควิด ซึ่งอาจจะต้องอยู่ต่อเนื่องแบบนี้ไปอีก 1-2 ปี สิ่งที่ต้องทำคือการรักษาสมดุลระหว่างมาตรการทางด้านสาธารณสุขกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน การสื่อสารให้ประชาชนมีความกลัวและยึดติดกับจำนวนผู้คิดเชื้อที่เป็นศูนย์เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข
“สิ่งที่ต้องสื่อสารคือความสามารถในการรับมือของสาธารณสุขกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่อาจจะต้องมีบ้างในวาระในโอกาสต่อๆไป ถ้ามีการเปิดเศรษฐกิจ อาจจะมีการระบาดในระลอกที่ 2-3 ก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร เป็นสิ่งที่เราจะต้องเตรียมการเพื่อรับมือ และต้องมีการสื่อสารข้อมูลว่ากลุ่มที่ต้องระมัดระวัง ก็คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนัก และต้องมีการเน้นย้ำเรื่องของการเว้นระยะห่าง (Physical distancing) ด้วย เราต้องอยู่กับโคโรน่าไวรัสอย่างมีความเข้าใจ ไม่ใช่มีความกลัว” นายแพทย์เอกภพกล่าว