ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้นำทีมแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานหน่วยแพทย์พระราชทานในโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่แถบชายแดนจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 8 – 12 ธันวาคม 2568 ณ ศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยลู่ ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน และ ศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมฉลอง 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทรทราบรมราชชนนี 21 ตุลาคม 2543 ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือเหนือ จังหวัดน่าน
ทีมแพทย์ใช้ทุนที่ร่วมปฏิบัติงานหน่วยแพทย์พระราชทานฯ เป็นครั้งแรกทั้งสามคน ได้บอกเล่าความรู้สึกในการทำงานครั้งนี้ ว่า…
“เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ได้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ ในจังหวัดน่าน และข้อจำกัดทางการเข้าถึงทางการแพทย์ เช่น ถนนเส้นทางคดเคี้ยวระยะทางที่ห่างไกล การขาดยารักษาโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้ดี และได้เห็นความสำคัญของ Health screening มากขึ้นไปอีก เนื่องจากการที่หมอลงพื้นที่จะเป็นการเพิ่มโอกาสได้รักษาพยาบาลคนที่อยู่ห่างไกลได้ หมอจึงมีหน้าที่ที่สำคัญมากในการตัดสินใจว่าคนไข้คนนั้นควรส่งต่อไปดูแลในโรงพยาบาลต่อหรือไม่ ซึ่งโดยรวมแล้วรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกใหม่ให้ได้เห็นอะไรใหม่ๆ และอยากมาร่วมออกหน่วยแพทย์พระราชทานอีก” แพทย์หญิงกฤชยา เติมเลิศมนัสวงษ์ กล่าว
นายแพทย์จิระ จารุศังข์ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นเด็กเมื่อเปิดโทรทัศน์ก็มักจะพบภาพคณะแพทย์ไปรักษาคนไข้ตามชนบทอยู่เป็นประจำ ในใจเกิดความสงสัยอยู่ตลอดว่าเขาไปกันทำไมไปทำอะไร ความสงสัยได้เปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำเพื่อผู้อื่น และเป็นแรงผลักดันในการเรียนด้วยความตั้งใจว่าเราจะเป็นหนึ่งในทีมแบบนั้นสักวัน แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ได้จบเป็นแพทย์ ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยแพทย์พระราชทาน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาออกหน่วยแพทย์ในลักษณะแบบนี้ มีความรู้สึกมากมายทั้งดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ หรือความรู้สึกเศร้าใจที่ได้เห็นความลำบากในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและความเจริญ เมื่อได้มาสัมผัสกับตัวเองเป็นอะไรที่บรรยายออกมาไม่ถูกแต่ได้รู้ว่าโอกาสของคนเราไม่เท่ากันจริงๆ ซึ่งรู้สึกดีใจที่มีโอกาสมาเป็นส่วนหนึ่งที่ให้การรักษาเด็กและชาวบ้านและมากกว่าการรักษาคือการส่งเสริมสุขภาพให้ชาวบ้านได้ตระหนักว่าแม้จะอยู่ในสถานที่ห่างไกลแต่เรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัวเพราะการมีสุขภาพที่ดีคือการรักษาที่ยั่งยืนที่สุด หากมีโอกาสก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยและสนับสนุนหน่วยแพทย์พระราชทานต่อไป ด้วยหวังอยากให้คนไทยมีสุขภาพดีและมีความสุข
นายแพทย์วิชญ์ สุวรรประศาสน์ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการมอบสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเกี่ยวกับกิจกรรมออกหน่วยแพทย์พระราชทานก็มีความรู้สึกอยากมาออกหน่วยสักครั้งในชีวิต เมื่อทราบว่าทางศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน เปิดรับสมัครแพทย์อาสาออกหน่วยแพทย์พระราชทาน จึงไม่ลังเลที่จะสมัครเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้ และเมื่อได้มาจริงๆ ก็รู้สึกปลาบปลื้มและมีความสุขมากๆ ที่ได้มีโอกาสนำความรู้ที่มาใช้ตรวจรักษาน้องๆ นักเรียน รวมไปถึงคุณครูและประชาชนทั่วไป การมาออกหน่วยแพทย์พระราชทานที่จังหวัดน่านครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าอย่างยิ่ง หากมีโอกาสก็อยากจะกลับมาร่วมกิจกรรมดีๆ และส่งต่อความสุขให้แก่สังคมแบบนี้อีกแน่นอน
สำหรับที่ศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยลู่ มีเด็กนักเรียนเข้ารับการตรวจรักษา จำนวน 26 คน และประชาชน จำนวน 45 คน ส่วนที่ศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมฉลอง 100 ปีฯ มีเด็กนักเรียนเข้ารับการตรวจรักษา จำนวน 63 คน และประชาชน จำนวน 14 คน ซึ่งโรคที่พบมากที่สุด คือ โรคทางระบบเหงือกและฟัน รองลงมาคือโรคระบบทางเดินหายใจและโรคทางผิวหนัง
ศูนย์การแพทย์ฯ ชลประทาน ยังได้นำสิ่งของขาดแคลน เช่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องเขียน ผ้าอนามัย และยาสามัญประจำบ้าน ที่มีผู้มีจิตศรัทธาและองค์กรภาครัฐและเอกชนร่วมบริจาค ไปมอบให้กับเด็กนักเรียนทั้งสองโรงเรียนด้วย
ทีมบุคลากรทางการแพทย์จิตอาสาดังกล่าว เป็นหนึ่งในพันธกิจของศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนและสร้างประโยชน์ให้สังคมด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ สืบสานปณิธานของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ “ยิ่งให้…ยิ่งได้”

