ภาพเชิงซ้อน “การเมือง-การรบ”

ยินดีด้วยครับ….
กับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “คุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์”

กับตำแแหน่ง….”ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาผู้แทนราษฎร

“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว

เว็บไชต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้ทราบทั่วกัน เมื่อวาน(๒๑ สค.๖๒)

และก็ต้องยินดีกับ “พี่ใหญ่” รองนายกฯ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ด้วย ที่ท่านยังอยู่ดี-มีสุข ไม่ได้ลื่นล้มในห้องน้ำรัฐสภา จนหามเข้าห้องไอซียูในโรงพยาบาล อย่างที่ขบวนการปล่อย Fake News ว่อนโซเชียล เมื่อวาน

ท่านรัฐมนตรีกระทรวงดีอี “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ส่งหน่วยปราบข่าวปลอมไปลากคอคนโพสต์ข่าวนี้มาจัดการทีเถอะ

มันสร้างฉาก-สร้างข่าว เป็นตุ-เป็นตะ ไม่เข้าใจว่าจะอิจฉาริษยา ตามล่า-ตามแค้นตระกูล ๓ ป.ไปถึงไหน

มีคนตกใจ โร่มาถาม ยังกะว่าผมเป็นทส.ลุงป้อมงั้นแหละ

ไอ้ผมก็งง ตอบไม่ถูก…..
เพิ่งเห็นไปนั่งเป็น “แม่บ้านใหญ่” พลังประชารัฐ กระปรี้-กระเปร่า ยิ้มกรุ้มกริ่ม อารมณ์ดีกว่าสมัยตู่ ๑ เป็นไหนๆ

แล้วจู่ๆ พี่ใหญ่จะถูกห้องน้ำน็อคได้ยังไง?

ก็ถามเขาว่า “ล้มที่ไหน?”
เขาบอก”ที่ห้องน้ำสภา”

ผมก็ว่า…ไม่ใช่มั้ง แบบนี้ใครคงแกล้งปล่อยข่าวมากกว่า เพราะลุงป้อมไม่ได้เป็นสส.จะไปสภาทำไม?

เขาก็ยืนยัน…..
ไม่ปล่อย..ไม่ปล่อย..นี่ไง แล้วให้ผมดูรูปที่แชร์กันต่อๆ มาในเฟซเขา
เป็นรูปชายคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนหนังสือ มีข้อความประกอบว่า “น้องคนเล็กบิ๊กป้อมกำลังเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัดสมอง”

เออ…ดูมันทำ!
แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า “นี่..ข่าวปลอม” แต่ตอนนั้น ยังไม่มีข้อมูลข่าวสารจากแหล่งเชื่อถือได้ยืนยันถึงความเป็นจริง

จนได้ตรวจเช็ค พบที่คุณ Wassana Nanuam นักข่าวสายทหารที่ตามติดลุงป้อมโพสต์และมีคนแชร์ ว่า

“Fake News ….

ปล่อยข่าวปลอม “ลุงป้อม” ล้มในห้องน้ำที่สภา เมื่อช่วงเที่ยง ที่ผ่านมา….”

นั่นแหละถึงได้แน่ใจ ข่าวลุงป้อมเข้าห้องไอซียู เป็นข่าวปลอม

แต่ข่าวลุงป้อม ไอ เลิฟ ยู ไม่แน่!

พูดถึงพลเอกประวิตร เที่ยวนี้ ฟอร์มรองนายกฯ รัฐบาลเลือกตั้ง ดูเป็นหลัก-เป็นฐาน กว่าตอนรัฐบาลคสช.ชนิดผิดหู-ผิดตา

บท “พี่ใหญ่” ที่ถอยจากกองหน้า ลงไปเป็นกองหลัง คุมประตูให้ “น้องเล็ก” ไม่ต้องพะว้า-พวัง ในพรรคพลังประชารัฐ ถือว่า เป็นยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี รับมือรูปแบบการเมืองเลือกตั้ง “ร้อยคน-ร้อยใจ-ร้อยต้องการ” ได้เหมาะเหม็ง ลงตัว และ “ลุงป้อม” เล่นบทนี้ได้ดีทีเดียว

ไม่ดีอย่างเดียว….

ยังเป็นการ “เซฟตัวนายกฯ” ให้อยู่เหนือปัญหาทางกลเกมการเมืองระบบรัฐสภา ทั้งจากซีกค้านและซีกรัฐบาล

อีกทั้งการรักษาระยะถี่-ห่างการให้สัมภาษณ์และการตอบคำถามนักข่าว
จากที่ลุงป้อม ที่้เป็นหมูให้นักข่าวต้อนเข้าเล้า

เที่ยวนี้ ลุงป้อม “มาดใหม่” นอกจากไม่ตกหลุุมคำถามรุกไล่แล้ว

ยังเป็น “หมูเขี้ยวตัน” ถามยาว-ตอบสั้น ขวิดนักข่าวที่ถามแบบ “มีเบื้องหลัง” หงายท้อง-หงายไส้

ก็หนักใจแทนคุณสมพงษ์ “หัวหน้าฝ่ายค้าน”

งานล้ม “รัฐบาลประยุทธ์” เห็นจะตึงมือซะแล้ว!

ไม่ง่ายเหมือนที่เสนาธิการพรรค สรุปในโต๊ะประชุม

อีกอย่าง….
เมื่อดูไปแล้ว รัฐบาลพลังประชารัฐ มุมุ่งทำงานรากฐานประเทศ ไม่มีจุดมุ่งหมาย ทางตั้งเป้าเป็น “ศัตรูถาวร” ของเพื่อไทย ชนิดต้องห้ำหั่นให้ตกตายกันไปข้าง ไม่ว่าปัจจุบัน-อนาคต
และหลายต่อหลายคนในพลังประชารัฐ ก็ไปจากเพื่อไทย ด้วยมุ่งหมายความคล่องตัวทางทำงาน
ไม่ได้ไปจากเหตุทะเลาะขัดแย้ง ถึงขั้นผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ
เมื่อมองซ้าย-ขวา เพื่อไทยคงเห็นแล้ว

๑.พลังประชารัฐ-เพื่อไทย เดินถนนร่วมสายกันได้
๒.เพื่อไทย อยู่ช่วงกองทัพเสียศูนย์ รบ รังแต่สูญเสีย
๓.เพื่อไทย ขืนยังอยู่ใน “คราบทักษิณ” รบอีก ก็แพ้อีก
๔.อนาคตใหม่ “คล้ายแนวร่วม”……….

แต่แท้จริงแล้ว ทางการเมืองเรื่องอำนาจ อนาคตใหม่ คือ “หอกข้างแคร่” ของเพื่อไทยโดยตรง

สรุปแล้ว สถานการณ์ “เพื่อไทย” วันนี้ เป็นว่า “ศึกนอก” ไม่เป็นปัญหาเท่า “ศึกใน”!

เพื่อไทย นโยบาย-เป้าหมาย “ชนะ…เพื่อเป็นรัฐบาล”
แต่อนาคตใหม่ นโยบาย-เป้าหมาย “ชนะ…เพื่อเปลี่ยนประเทศ”!

“เพื่อไทย” ยุคนี้ ไม่ชังชาติ แค่ชังการเสียอำนาจ ยังไงก็ ไม่ทะลุกรอบไปไกลขนาดนั้น

มองกันถึงแก่นแล้ว เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ทั้งนโยบาย ทั้งเป้าหมาย ต่างกันชนิดหน้ามือกับหลังมือ

แต่เมื่อยังไม่ถึงเป้าหมาย ทั้งสอง เพียง “รักษาจุดร่วม -สงวนจุดต่าง” ในทางร่วมเดินเท่านั้น

ถึงเป้าหมายวันไหน……..

“ใครฆ่าใครก่อน” นั่นเป็นสิ่งจริงแท้!
แต่ก็นั่นแหละ “ขิงแก่” ย่อมเผ็ดกว่า

ใช่ว่า..ระดับบริหารเพื่อไทย จะไร้เดียงสาถึงขั้นยอมให้ “รุ่นใหม่-นรกแตก” พาไปตาย

ถ้าสังเกต จะเห็นกริยาสันถวะระหว่างอนาคตใหม่-เพื่อไทย จากใกล้ ยิ่งถอยห่างกันออกไปเรื่อยๆ

เกมเปิดอภิปรายนายกฯ เรื่องถวายสัตย์ฯ …….

เพื่อไทยเปิดเพื่อ “ถนอมจุดร่วม” พรรคหัวฝนและพวกเด็กเล่นไม้ขีดที่รบเร้าเท่านั้น
เพราะเพื่อไทยรู้ ยังไงๆ ก็กัดไข่นายกฯ ไม่เข้า
แต่เมื่อพรรคร่วม แค้นนายกฯ “แค้นนัก-แค้นหนา” อยากกัด..ก็ปล่อยให้กัด

แต่ที่หวังจะฟัดให้จมเขี้ยวน้ำนม นั้น ก็คิดกันไปตามประสา “ทารกการเมือง”
คิดสะระตะแล้ว รัฐบาลประยุทธ์ ยังไงก็อยู่ยาว!

“ยาว” ในที่นี้ ไม่ใช่ในความหมาย ๔ ปี “ครบเทอม”

แต่หมายถึงว่า ระยะแรกนี้ เพื่อไทย จะเล่นบท “ขึ้นภูดูเสือกัดกัน” ไปเรื่อยๆ ก่อน แล้วคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลัง

คือ อนาคตใหม่ ในความเป็น “หอกข้างแคร่” ของเพื่อไทย

แต่เพื่อไทยไม่อยู่ในฐานะจะจัดการอะไรได้

จำต้องเล่นบท “น้ำขุ่นอยู่ข้างใน-น้ำใสอยู่ข้างนอก” แบบหวานอม-ขมกลืน
โดย “ไม่ยืมมือก็เหมือนยืมมือ” ฟากรัฐบาลและกระบวนการกฎหมาย จัดการพวกนมการเมือง “เพิ่งแตกพาน” นี้แทน

การเมืองไม่ต่างการศึก ไม่ย้อนยอก
แต่คนในการเมือง-การศึก ต้องมีเล่ห์ เหมือนมีดต้องมีคม ลูบแล้วบาดมือ นั่นจึงจะเป็นมีด

ถ้าลูบแล้วเรียบกริบ ไม่บาดมือ นั่นสากกระเบือ!

ดังนั้น ใครรักจะอยู่ในวงสายสิญจน์การเมือง ต้องมีคม

การเมืองประชาธิปไตย ตอนนี้ พรรคฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล กำลังเล่น “ซักส้าว”

รู้จักมั้ย..ซักส้าว น่ะ…….

“ซักส้าวเอ๋ย ซักส้าว มะนาวโตงเตง ขุนนางมาเอง ว่าจะเล่นซักส้าว มือใครสั้นเอาเถาวัลย์ต่อเข้า มือใครยาว สาวได้สาวเอา”

ฉะนั้น การเมืองช่วง “ข้าวเรียงเม็ด” ใครจะอยู่-จะไปแบบไหน กับขั้วไหน ทางใกล้ หรือทางไกล

ก็อยู่ที่ใครเป็น “มีด” เป็น “สาก” นั่นแหละ!

Written By
More from plew
New Normal “สูงสุดสู่สามัญ”
สมัยเป็นเณร ………. เรียนหนังสือ ท่องเป็นนกแก้ว-นกขุนทอง จำได้เป็นเล่มๆ แต่ไม่เข้าใจเลย อย่างเช่น “สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ แต่พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่”
Read More
0 replies on “ภาพเชิงซ้อน “การเมือง-การรบ””