เปลว สีเงิน
ผมไม่อยากใช้คำว่า “กรรมกำลังไล่ล่าทักษิณ”
แต่อยากย้ำว่า…
นาฬิกาที่เดิน “เที่ยงตรง” ที่สุดในโลก คือ
“นาฬิกากรรม”!
และขณะนี้ “เข็มยาว” ของ “นาฬิกากรรม” ทั้งกระบวนการศาล กระบวนการภาคประชาชน กระบวนการรัฐสภา องค์กรอิสระ
กระดิกใกล้เลข 12 ที่จะตีบอกเวลาเข้ามาทุกทีแล้ว!
เมื่อวานบอกไปว่า “นายชูศักดิ์ ศิรินิล” ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ไปให้ถ้อยคำ “อัยการสูงสุด”
เพื่ออัยการ จะรวบรวมส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลฯ สั่ง กรณีคุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไปร้องให้ศาลฯ วินิจฉัย เพื่อสั่งการให้ “ทักษิณและพรรคเพื่อไทย”…..
“เลิกการกระทำอันเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา ๔๙ แห่งรัฐธรรมนูญ”
โดยยื่นไป ๖ ประเด็นวินิจฉัย นั้น
เมื่อวาน คุณธีรยุทธบอก “อัยการเรียกไปให้ถ้อยคำมาแล้วเช่นกัน” และให้ข้อสังเกตว่า
“อัยการให้ความสนใจในประเด็นเรื่องที่คุณทักษิณไปนอน รพ.ตำรวจ ชั้น ๑๔ เพราะอย่างในคำร้องที่ผมยื่นศาลฯ เขียนไว้ว่า
“มีพยานบุคคลที่จะส่งชื่อใน “บัญชีพยาน” ต่อศาลฯ หรืออย่างกรณี “แกนนำพรรคการเมือง” ไปคุยกันที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เมื่อ ๑๔ สิงหา.
เราก็มี “พยานบุคคล” ที่จะนำเสนอต่อศาลฯ ด้วย ผมก็ได้บอกกับอัยการว่า
“พยานบุคคล” ที่จะเสนอให้เรียกมาให้ถ้อยคำ หากศาลฯรับคำร้อง ก็ทราบจากสื่อว่า “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เคยออกมาบอกว่ า”เคยไปพบเยี่ยมเยียนที่รพ.ตำรวจ”
หรืออย่างรายงาน “ผลตรวจสอบของ กสม.” ก็ระบุชัดเจน เชื่อว่า “ไม่ได้ป่วยถึงขั้นวิกฤต”
มีการเอื้อประโยชน์กันใน “กลุ่มเจ้าหน้าที่” เพื่อให้คุณทักษิณได้พักอาศัยที่ ชั้น ๑๔
ผมให้ความเห็นกับอัยการว่า คำว่า “ได้พักอาศัยที่ รพ.ตำรวจ” มันบ่งชัดโดยไม่ต้องตีความเลยว่า “ไม่ใช่การพักรักษาตัว”
เพราะใช้คำว่า “พักอาศัย” ไม่ได้ใช้คำว่า “พักรักษาตัว” จึงตีความหมายได้ว่า “ไม่ได้ป่วยขั้นวิกฤต” ถึงขั้นจะ “ได้รับสิทธิ”
อัยการก็ยังถามผมอีกว่า…..
“เรื่องชั้น ๑๔ ใครที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้?” ผมก็บอกว่า “กรมราชทัณฑ์เป็นตัวหลัก”!
“๑๑ พ.ย.นี้ จะครบกำหนด ๑๕ วัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้อัยการสูงสุดแจ้งการดำเนินการคำร้องคดีดังกล่าวมายังศาลฯ
ก็คาดว่า “อัยการ” คงส่งหนังสือถึงศาลฯภายในไม่เกินวันจันทร์หน้า แล้ววันพุธที่ ๑๓ พ.ย.
ศาลฯคงมีการประชุมเพื่อลงมติว่า “จะรับคำร้องที่ผมยื่นต่อศาลไว้วินิจฉัยหรือไม่”
ซึ่งผมยังคิดว่า ศาลท่านจะเมตตารับคำร้องไว้วินิจฉัย”
คุณธีรยุทธพูดกับนักข่าวเมื่อวาน (๗ พ.ย.๖๗) ประมาณนี้
และเมื่อวานเหมือนกัน
“นายรังสิมันต์ โรม” ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทน เชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
“กรณีทักษิณ ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ” ว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่?
มีแต่ตัวประกอบมา ตัวหลักๆ เช่น ตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ที่ “คนทั้งโลก” อยากรู้เหตุผล ว่าทำไมจึงไม่ยอมส่ง “เวชระเบียน” ผู้ป่วย ให้ตรวจสอบ ไม่มา
รพ.ตำรวจอ้าง “ความลับผู้ป่วย” เปิดเผยไม่ได้ตะพึด!
แม้กระทั่งกับ “ป.ป.ช.” ซึ่งเป็นองค์กรมีหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย ขอแล้ว-ขอเล่า ถึง ๓ ครั้ง ๓ ครา
ทางผู้บริหารรพ.ก็ยังแข็งขืน “ปฎิเสธ” ที่จะมอบ “เวชระเบียน” ให้ดู!?
กมธ.สภาเชิญมา ก็ไม่มา ทำให้ทุกคนสงสัย
“รพ.ตำรวจ” นอกจากเป็นที่สถิต “เทวดาเหนือคุก” แล้ว
น่าจะเป็นที่สถิตของ “แพทย์เหนือคุก” ในอนาคตด้วย!
“เวชระเบียน” คืออะไร สำคัญอะไรนักหนา ถึงขั้นป.ป.ช.ขอดู โรงพยาบาลตำรวจ ก็ยังไม่ยอมให้ดู?
ฉะนั้น วันนี้ เรามาทำความรู้จัก “เวชระเบียน” กันนิด ลอกมาจาก “วงการแพทย์” เขาเลยนะ
วชระเบียน (medical record) หมายถึง เอกสารทางการแพทย์ ที่รวบรวม “ข้อเท็จจริง” เกี่ยวกับสุขภาพของผู้ป่วย
โดยเป็นประวัติเกี่ยวกับ “การเจ็บป่วย” และ “การรักษาพยาบาล” ซึ่งบันทึกโดยแพทย์ หรือผู้เกี่ยวข้องในการรักษาพยาบาล
การบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวและข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วย ข้อมูลต่าง ๆ ในเอกสารนี้ จึงเป็นความลับส่วนตัวของผู้ป่วยนั้นๆ
ที่ “ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” หรือผู้ “ไม่มีสิทธิตามกฎหมาย” จะล่วงละเมิดมิได้
ทางด้านกฎหมาย มุ่งคุ้มครองข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล โดยให้ถือว่าเป็น “ความลับส่วนบุคคล” ใครจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้
เว้นแต่เจ้าตัวเขายินยอมหรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผยเท่านั้น…….”
ก็อยากบอกให้ผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจและแพทย์ผู้รักษาทักษิณทราบไว้ตรงนี้เลย
ตำรวจ, ป.ป.ช., อัยการ, ศาล คือ “ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย”
เขาเรียกดู ต้องนำ “เวชระเบียน” ไปให้เขาดู
อ้างเป็น “ความลับผู้ป่วย” ไม่ได้!
ทักษิณเขาเหนือคุก เรื่องของเขา อีกไม่นานก็รู้ว่าเหนือจริงมั้ย ส่วนโรงพยาบาลตำรวจ ขืนทำตัว “ติดเชื้อเทวดา” จากทักษิณ
ระวังเหอะ การขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายน่ะ
โทษถึง “คุก” เชียวนะ!
แพทย์ใหญ่ “รพ.ตำรวจ” ถ้าอยากเข้าไปเป็น “หมอเด็ดขาด” อยู่ใน “รพ.ราชทัณฑ์” ก็เชิญกอดเวชระเบียนไว้ ศาลฯเรียก ก็อย่านำไปมอบให้เชียวนะ
ไม่ว่าหมอหรือโรงพยาบาล ก็ควรทราบ ว่าการออกกฎ-ออกระเบียบใดๆ ถ้ากฎระเบียบที่ออกนั้น ขัดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
“กฎ-ระเบียบ” นั้น “ใช้ไม่ได้” ทั้งสิ้น โปรดทราบ!
เมื่อเข้าใจว่า “เวชระเบียน” คืออะไรแล้ว ก็คงหายสงสัยกันว่า ทำไมโรงพยาบาลตำรวจ จึงได้หวงยิ่งกว่าจิ้งจกหวงไข่?
ก็จะไม่หวงได้ไง…….
ขืนให้ดู ก็ชิบ…ทั้งโรงพยาบาล ทั้งหมอ ทั้งเทวดาเหนือคุก น่ะซี เพราะเวชระเบียนมันจะฟ้อง
ที่ว่า “ป่วยขั้นรุนแรงอาจอันตรายถึงชีวิตได้ ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิดทุกขณะ” นั้นน่ะ
จริงหรือทิพย์?
และ๔ โรคที่หมอรพ.ราชทัณฑ์อ้างรุนแรง รักษาไม่ได้ ต้องส่งโรงพยาบาลนอก
โรค กล้ามเนื้อขาดเลือด, ปอดอักเสบ, ความดันโลหิตสูง, กระดูกสันหลังเสื่อม
เอ้า…แถมให้อีกโรค “เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย” นั่นน่ะ
มันรุนแรงเหนือความสามารถหมอรพ.ราชทัณฑ์รักษา ขนาดนั้นเชียวหรือ?
ทั้งหมดนี้ “เวชระเบียน” จะตอบข้อสงสัยให้ทั้งหมด
สรุป “…เครื่องบินตก” กุญแจไขปริศนาการตกคือ “กล่องดำ” ฉันใด ทักษิณป่วยสาหัสเจียนตาย นอนรักษารพ.ตำรวจ “๔ เดือนเต็ม” ก็ยังไม่หาย
กุญแจที่จะไขความจริงข้อนี้ได้ คือ “เวชระเบียน” ก็ ฉันนั้น
ดังนั้น ในชั้น ป.ป.ช.ไม่ควรเรียกดู “เวชระเบียน” ของรพ.ตำรวจแห่งเดียว ต้องเรียกดู “เวชระเบียน” ของรพ.ราชทัณฑ์ด้วย!
มองอีกมุม การไม่ยอมส่งเวชระเบียนให้ป.ป.ช.นั่นเท่ากับรพ.ตำรวจยอมรับ “ทักษิณป่วยทิพย์” แพทยก็ “รักษาทิพย์”
สอดคล้องกับที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” เปิดเผย ซึ่งท่านไปให้ปากคำป.ป.ช.มาแล้ว
ที่กมธ.เชิญเมื่อวาน ท่านไม่ไป บอก “กมธ.ไม่มีผลทางกฎหมาย แถมในกมธ.เอง ก็มีคนของ “พรรคเพื่อไทย” ข้อมูลที่จะให้ ก็จะหลุดออกไปเปล่าๆ”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ PPTV ช่อง ๓๖ หลายวันก่อน ตอนหนึ่งว่า
“…ตอนไปพบทักษิณที่ชั้น ๑๔ ทักษิณไม่มีอาการป่วยนะ เท่าที่ผมดูเนี่ย ตอนไปเจอใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น ก็ไม่มีอาการใดๆ ไม่มีการล่ามโซ่กับเตียงอย่างที่หลายคนติดคุกและเขาต้องเป็นอย่างนั้น
ที่ดามคอ พยุงแขนเนี่ย ไม่มีเลยนะ นั่งชิลเลย ที่สำคัญเหมือนมีเด็กรับใช้คอยดูแล พยาบาลก็ไม่มี เหมือนมีชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจ เอาไว้รับแขก
ยังมาถามผมเลย “กินข้าวเหนียวมะม่วงไหมคะ…รับน้ำส้มเพิ่มมั้ยคะ?”
ก็บอกไปแล้วว่า มาถึงวันนี้ ก็ไม่ได้ป่วย ไปบอกปปช.เรียบร้อย มาถึงวันนี้ ยังมานั่งวิเคราะห์ ว่า
“เอ…ตกลงคุณทักษิณป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลหรือว่าเอาโรงพยบาลเป็นที่รับแขก?”
ตอนนี้เราก็พยายาม คือเราไปเห็นที่ชั้น ๑๔ นั่นแหละ แต่ว่า พอมาถึงวันนี้ สถานการณ์เป็นแบบนี้ เราก็คิดเพิ่มเติม
“แล้วตกลงคุณทักษิณแกนอนโรงพยาบาลตำรวจหรือเปล่าวะเนี่ย เผลอๆ อาจจะไม่นอนก็ได้นะ จะรับแขกใคร ก็ค่อยมาที่โรงพยาบาล”
พิธีกรถามว่า…
“อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เราได้เห็นตอนคุณทักษิณออกจากโรงพยาบาลน่ะครับ เช่นการสวมปลอกแขน วันที่คุณเสรีพิศุทธ์เข้าไป ได้เห็นสิ่งพวกนี้มั้ยฮะ?”
“ไม่มี ก็ปกติ คอเหมือนคุณเสถียร (พิธีกร-เปลว) ใส่เสื้อเชิ้ต กางกงขาสั้น รองเท้าเดินอยู่ในตึกอย่างนี้
แต่ตอนกลับมาบ้านจันทร์ส่องหล้า ใส่ปลอกคอ นั่งโชว์อยู่ที่สระน้ำ ฮุนซง-ฮุนเซน มาเยี่ยม ยังใส่ปลอกคออยู่เลย ตอนนั้น ออกสื่อ ต้องใส่ซะหน่อย แต่ตอนผมพบ ไม่ได้ใส่นี่”
ก็รอดูพุธหน้า “๑๓ พฤศจิกา.” ว่า ศาลรัฐธรรมนูญท่านจะประชุม “รับ-ไม่รับ” คำร้องคุณธีรยทธไว้พิจารณา
นี่คือการกระดิกอีกติ๊กของเข็มยาว “นาฬิกากรรม”!
เปลว สีเงิน
๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
