เปลว สีเงิน
เต็ม ๑๐ ผมให้ ๙
ในวิชา “อ่านไทย” จากการอ่านแถลง “นโยบายรัฐบาล” มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ต่อรัฐสภา ของนายกฯ แพทองธาร เมื่อวาน (๑๒ ก.ย.๖๗)
เป็นอันว่า “สอบผ่าน”
ให้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ เต็มร้อยได้ต่อไปอีก ๓ ปี ถ้าความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์!
เห็นว่า แถลงเสร็จปุ๊บ เรียกประชุมรับมือสถานการณ์น้ำถล่มแม่สาย-เชียงรายปั๊บ
ก็ถูกต้องแล้ว เท่าที่ผมตามดูสถานการณ์จากช่องทางข่าวต่างๆ สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผมปลื้ม ตื้นใจเอามากๆ
และชีวิตมีความหวังในอนาคตประเทศมากยิ่งขึ้น
ความหวังนั้น ก็มาจาก “พี่น้องร่วมชาติ” สร้างแรงบันดาลใจให้จากสถานการณ์ที่แม่สายนี่หละ
ผมเห็นแต่นาทีแรก น้ำท่วมแม่สายตูม
พี่น้องร่วมชาติ ไม่รู้ใคร มาจากไหน-ต่อไหน ถนนทุกสายมุ่งสู่เชียงราย ขมีขมันกันไปช่วย
ใครมีแรง ช่วยแรง ใครมีอุปกรณ์ มีเครื่องมือ ก็ขนกันไป ใครมีเงิน ก็ช่วยซื้อน้ำ ซื้อข้าวปลาอาหาร ซื้อของใช้จำเป็น แล้วลอยคอ เสาะหาชาวบ้านที่รอความช่วยเหลือ ไปทางไหนไม่ได้
ยังไม่ต้องพูดถึงความช่วยเหลือจากทางราชการเต็มที่-เต็มพิกัดอยู่แล้ว
“โรงครัวพระราชทาน” ไม่ต้องพูดถึง
ภัยเกิดกับประชาชนที่ไหน “โรงครัวพระราชทาน” ไปถึงที่นั่นก่อนทันที
พี่น้องไทยด้วยกันก็เช่นนั้น มากมายหลายเจ้า ขอให้รู้เถอะว่า พี่น้องร่วมชาติมีภัย มาปุ๊บ ตั้งโรงครัวปั๊บ
ทำอาหารบรรจุกล่อง ไทยต้องไม่ปล่อยให้พี่น้องไทยด้วยกันต้องอดอยาก
มีแต่ว่า “อาหารมีพร้อม”……..
แต่การดั้นด้น-ลอยคอ นำไปแจกจ่ายนั้น มันวงกว้าง เวิ้งว้าง ทั้งน้ำหลากเชี่ยว ทั้งไม่รู้ว่า ชาวบ้านติดอยู่กันตรงไหนบ้าง
ตรงนี้แหละ “หน่วยอาสา” เรียกว่าพยายามกันสุดใจ-ขาดดิ้น ชนิดไม่คำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยตัวเอง
ผมดู “แต่ละข่าว-แต่ละภาพ” แล้วมันซึ้ง จนนั่งน้ำตาซึม
ก็ดูซิ…….
ผู้ประสบภัย รอความช่วยเหลือ เป็นใครก็ไม่รู้ และคนที่เฮละโลกันมาช่วย เป็นใครก็ไม่รู้
“ต่างคน-ต่างแปลกหน้า” ทั้งไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่มิตร ไม่ใช่พ่อ-ไม่ใช่แม่
แต่พอมีภัยเกิดขึ้น……
ด้วยสายเลือด “ไทยต้องไม่ทิ้งกัน” จะเป็นญาติ เป็นมิตร เป็นศัตรู จะต่างลัทธิ ต่างศาสนา…กูไม่สน
ทุกคนคือพี่น้องไทย และทุกคน เมื่ออยู่ในแผ่นดินไทย เมื่อมีภัย ต้องได้รับความช่วยเหลือ ชนิดปราศจากเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เห็นมาอย่างนี้ทุกครั้ง และแบบนี้ มีที่เดียวในโลก คือที่ประเทศไทย ประเทศของคนไทย
คนไทย ไม่เคยปล่อยให้ใคร “โดดเดี่ยว-สิ้นหวัง”
“HOPE” แปลว่า “แผ่นดินไทย”!
นี่ ผมพูดในภาพรวม ทีนี้…จะพูดในเฉพาะอีกภาพหนึ่ง ซึ่งต้องขอบคุณ “นายกฯ แพทองธาร”
ที่วันนี้ “พรรคเพื่อไทย” และทั้งตัวนายกฯ เอง ได้คำตอบด้วยตัวเองแล้ว จากประโยคที่เคยตะโกนถามกันเมื่อ ๒-๓ ปีก่อนว่า
“ทหารมีไว้ทำไม?”
เห็นได้ชัด จากที่เรียกประชุมด้วยเมื่อวาน นอกจากเจ้ากระทรวงที่มีหน้าที่โดยตรงในภารกิจนี้แล้ว
หน่วยหนึ่ง ซึ่งไม่มีหน้าที่โดยตรงในภารกิจนี้ แต่รัฐบาลเพื่อไทยเชิญร่วมประชุมรับมือสถานการณ์น้ำที่เชียงรายด้วย คือ “กองทัพ” โดย “พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด”
แล้วดูภารกิจที่นายกฯมอบหมายแต่ละหน่วยงานนะ
-ให้มหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดที่พักชั่วคราว สาธาณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค-เสื้อผ้า ให้ผู้ประสบภัย
-ให้กลาโหม ระดมเครื่องบิน เรือท้องแบน เจ็ตสกี เฮลิคอปเตอร์ เร่งช่วยผู้ประสบภัย
-ให้เกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพย์ฯ เร่งหาแนวทางซ่อมเขื่อนและประตูกั้นน้ำ เพื่อชะลอน้ำ ลดความรุนแรงน้ำ
-ให้คมนาคมและกลาโหม ในส่วนของหน่วยบัญชาทหารพัฒนา เข้าไปซ่อมแซมถนนและสะพานที่ขาด
เห็นมั้ย….
-กลาโหม ระดมเครื่องบินทหาร เรือท้องแบน เจ็ทสกี เฮลิคอปเตอร์ ไปช่วย
-ทหารหน่วยพัฒนา ไปซ่อมแซมถนน, สะพานที่ขาด
-ทหารเรือ จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ นำเจ็ตสกีเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ติดอยู่ตามอาคาร
นำอาหาร, น้ำดื่มไปให้ หรือโยกย้ายผู้ที่จำเป็นเร่งด่วนออกมา เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรืออยู่ในพื้นที่ที่คาดว่าน้ำจะท่วมถึง
แล้วสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้เป็นไง?
ฟังที่รมว.มหาดไทย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” ส่งปลัดฯ มหาดไทย “นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ลงไปบัญชาการอยู่ที่เชียงราย
รายงานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากภาคสนามเข้าไปที่ประชุมดูหน่อยก็ได้
“………ผมอยู่กับผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงผบ.มณฑลทหารบก ทั้งทุกภาคส่วนในพื้นที่
จังหวัดเชียงรายปีนี้ โดยเฉพาะแม่สาย สถานการณ์หนักหน่วงที่สุดในรอบ ๘๐ ปี
สาเหตุ ปีนี้แม่สายมีน้ำท่วมมา ๗ ครั้งแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๘ นับตั้งแต่เดือน สิงหา.๖๗.จนถึงปัจจุบัน
สาเหตุที่ท่วมหนักในรอบ ๘๐ ปี ประกอบด้วย ๒ ส่วน ส่วนที่ ๑ ฝนตกหนักเป็นระยะ ถึง ๗ ครั้ง ทำให้ลำน้ำแม่สายและพื้นที่ฝั่งประเทศไทยและฝั่งเพื่อนบ้านชุ่มน้ำ อิ่มน้ำ บวกกับพายุลูกล่าสุด ทำให้กระแสน้ำมีจำนวนมหาศาล ส่งผลให้เกิดความเสียหายในวงกว้างของตลาดแม่สาย
อย่างไรก็ตาม…..
ด้วยความกรุณาของนายกฯ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ที่ระดมสรรพกำลังลงพื้นที่มาอำนวยการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตร่วมกับผู้ว่าฯและผมเอง ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนก็มาช่วยกันเต็มที่
ถึงเวลานี้ ที่แม่สายเรามีจุดพักพิงที่มีประชาชนอยู่รวมกันประมาณ ๖๐๐ คนเศษ และสถานการณ์ต่างๆ ในตัวเทศบาลแม่สาย ที่เป็นเขตย่านเศรษฐกิจ
ถึงเช้านี้ น้ำลดลงไปในระดับที่อยู่ในภาวะที่เริ่มเข้าสู่สีเขียวและมวลน้ำจะทยอยไปท่วมในจุดที่เป็นสีเหลือง
โดยวันที่ ๑๒-๑๓ กันยา.จะเข้าสู่โหมดฟื้นฟูดูแลพื้นที่ที่เสียหาย
หมายความว่าไง……..
ก็หมายความว่า ตอนนี้ น้ำที่ท่วมแม่สาย ลดแล้ว คือมาเร็ว-ท่วมเร็ว-หลากเร็ว ไปลงแม่น้ำโขงทางเชียงแสน
ต่อจากนี้ เข้าสู่โหมดเก็บกวาด ทำความสะอาดพื้นที่
แต่ผมว่า น้ำหลากไปแล้วก็จริง แต่สภาวะอากาศโลกช่วงนี้ ยังวางใจไม่ได้ ว่าจะพาฟ้า-พาฝน มาอีกขนาดไหน?
ไม่ประมาทและการเตือนภัยให้ชาวบ้านรู้ตัวล่วงหน้า นั่นแหละ ที่ต้อง “เน้น”!
ผมต้องการให้เห็นอะไร จากที่ยกรายงานของปลัดฯ มหาดไทยมาให้ดู?
ในฐานะที่ สส.เชียงราย ๗ คน เป็นสส.ก้าวไกล ที่เป็นพรรคประชาชนวันนี้ ๓ คน เป็น สส.พรรคเพื่อไทย ๔ คน
เคยสงสัยและตะโกนถามกันว่า”ทหารมีไว้ทำไม?”
ท่านก็จะได้คำตอบจาก “สถานการณ์ประจักษ์” ให้เป็นที่หายสงสัยยังไงล่ะ จะได้ไม่ต้องจู้จี้ถามบ่อยๆ
อย่างวันนี้ เพื่อไทย ที่เคยสถาปนาตัวเองเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” ร่วมกับ “พรรคก้าวไกล” หรือพรรคส้ม เป็นรัฐบาล
น้ำท่วมตูม ฝ่ายแรกที่เรียกหา คือ “ทหาร” ก็เป็นอันว่าเพื่อไทย “สิ้นสงสัย” เบ็ดเสร็จไปแล้วว่า “ทหารมีไว้ทำไม?”
พรรคประชาชน ได้ยินคุยว่า เลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้มากกว่า ๒๕๐ เป็นพรรคเดียว “ตั้งรัฐบาล”
ก็อยากให้ศึกษากรณีนี้ไว้เป็นตัวอย่าง เผื่อตอนได้เป็นรัฐบาล เมื่อเกิดภัยพิบัติ จะได้ไม่ต้องถาม “ทหารมีไว้ทำไม?”
เพื่อไทย ที่ “แยกกันอยู่” วันนี้ ตาสว่างใสแล้ว
พรรคประชาชน ที่จะไป “ร่วมกันตี” ในวันหน้าล่ะ พอจะเข้าลักษณะ “ตาลำไย “หรือยัง?
ก็ดูซี…..
ทหารที่รังเกียจกันนัก จะซื้อเข็มเย็บกางเกงในทหารซักเล่ม ก็ถูกสภาผู้ทรงเกียรติ โจมตีเจ็ดวัน-เจ็ดคืน
จัดทำงบประมาณที ตาเหลือก-ตาพอง งบทหารนำขึ้นขาหยั่ง ส่องกล้อง เลาะทุกตะเข็บ ตัดมันให้เหี้ยนทุกหมวด
พอมีภัยพิบัติซึ่งอยู่ในเขตอำนาจข้าราชการพลเรือน ก็ต้องเรียกหาทหารมาช่วย
เอารถมา เอาเรือมา เอากำลังพลมา กองทัพกลายเป็น “แก้วเนรมิต” ของรัฐบาล
แต่ตอนจะซื้อ “ตัดเหี้ยน” ทุกงบ จนโลนเหงา!
ดูที่ปลัดฯ มหาดไทยรายงาน สะท้อนความจริงจากภาคสนามซี…
“ผมอยู่กับผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ รวมถึงผบ.มณฑลทหารบก ทั้งทุกภาคส่วนในพื้นที่”
“ด้วยความกรุณาของนายกฯ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ที่ระดมสรรพกำลังลงพื้นที่มาอำนวยการบริหารจัดการในภาวะวิกฤต….”
“เครื่องบินมา เรือท้องแบนมา เจ็ตสกีมา เฮลิคอปเตอร์มา รถบรรทุกมา”
ทหาร คือ พระมาโปรด!
รัฐบาล “เพื่อไทย” บรรลุแล้ว “ทหารมีไว้ทำไม?”
ฝ่ายค้าน “พรรคประชาชน” ล่ะ จะพ้นน้ำ หรือจะเป็น “บัวเต่าถุย” จมเลนอยู่ใต้น้ำต่อไป…
“ถามทอนเด็กในคาถาษิณเค้าดูซิ?”
เปลว สีเงิน
๑๓ กันยายน ๒๕๖๗
