เปลว สีเงิน
“ดิ้นแรง” จริงนะ พรรคก้าวไกลเนี่ย
อีกตั้ง ๑๐ วัน กว่าจะถึง ๗ สิงหา.ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย “คดียุบพรรค”
แต่แหม….
เมื่อวาน “๒๘ กรกฏาคม” วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันมงคลชาติ ผู้คนทั้งบ้าน-ทั้งเมือง หัวใจต่างเบิกบาน สมัครสมานสามัคคี มีความสุข
พวกคุณจะไม่สุข ไม่เบิกบาน ไม่เฉลิมฉลอง ก็ไม่มีเขาว่าอะไร
ในขณะที่บริษัท องค์กร กระทั่งพรรคการเมืองต่างๆ ใน “เว็บไซต์พรรค” เขาต่างถวายพระพร
แต่เว็บไซต์ “พรรคก้าวไกล” ของพวกคุณ ข้อความที่หราขึ้นมา
“ก้าวแรก อบจ. ก้าวต่อปลี่ยนประเทศ”
“พรรคก้าวไกล”
ดุ อหังการ ถึงขั้นประกาศ “เปลี่ยนประเทศ” ขนาดนั้น ก็ไม่มีใครเขาว่าอะไรพวกคุณอีกนั่นแหละ (แต่มีลูกขอตัว..อย่าลืม)
ทำไมพรรคนี้ต้องเจาะจงใช้วันนี้ “สร้างกระแส” ลักษณะจงใจ “สวนกระแส” ให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกที่น่ารังเกียจ…หือ?
เว้นกิจกรรม “กวนใจ” สังคมซักวัน จะเป็น-จะตายหรือยังไง หรือจงใจกวน…ชาวบ้าน เมื่อวาน ๒๘ กรกฏา.ถึงได้โพสต์ข้อความเหล่านี้
พรรคก้าวไกล – Move Forward Party
เรียน ประชาชนที่เคารพ
. เนื่องจากวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
. ในโอกาสสำคัญนี้ พรรคก้าวไกลจึงขอเรียนเชิญประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศและเจ้าของพรรคก้าวไกลทุกท่าน มาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมกัน
ณ อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยเราจะมีกิจกรรมต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.
ขออภัยที่มิได้มาเรียนเชิญด้วยตนเอง
พรรคก้าวไกล
…………………………
แล้วมีหมายเหตุชนิด “ล้อกระแส” โดยบอกว่า ให้ใส่เสื้อสัญลักษณ์พรรคไปวันนั้นด้วยนะ
พร้อมทั้ง ปล่อยคลิป ประชันบรรยากาศ ๒๘ กรกฏา. อวดแต่ละเหตุการณ์ปราศรัยก้าวไกลที่แฟนๆคลั่งไคล้เนืองแน่น ประกอบคำสัมภาษณ์แกนนำ สมาชิก ถึงทิศทางพรรคในอนาคต
โพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า….
“การยุบพรรคอาจจะยุบได้แค่องค์กรนิติบุคคล แต่ไม่สามารถหยุดชุดอุดมการณ์เช่นนี้ได้
และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต
………………………….
ในคำว่า “กาลเทศะ” สิ่งที่พวกคุณทำ มันบ่งบอกเจตนาในตัวมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าพวกคุณ “จงใจ-เจตนา” แบบไหน?
ก็โตๆ ด้วยกันแล้วทั้งนั้น ….
จะมีใครซักกี่คน ที่ไม่รู้นัยแห่งเจตนาที่พรรคก้าวไกลกระทำในวันที่ ๒๘ กรกฎา.?
ใกล้ “นัด ๗ สิงหา” รึไง จึงต้องออกฤทธิ์-ออกเดชหนัก?
เหมือนเด็ก “เสียสันดาน”
อะไรที่ไม่เป็นดังใจต้องการ ก็ดิ้นพราดๆทำแผลงๆ เพื่อให้คนโอ๋ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
ก็อย่าลืมความจริงในข้อหนึ่ง
คนทำผิด แม้ปากว่าไม่ผิด แต่ใจตัวเองก็รู้ว่าผิด เพราะที่ทำนั้น มาจากเจตนา
ผีถึงพระ..กลัวพระ ฉันใด
คนผิดถึงศาล..กลัวศาล ก็ฉันนั้น!
ฉะนั้น อย่าสร้างกระแส สร้างวาทกรรมบิดเบือน เบี่ยงประเด็น อ้อนเกี๊ยะสังคมให้มันมากนัก
พอดีๆ มันถึงจะดี
อย่ากร่าง อหังการ ด้วยมั่นอก-มั่นใจ ให้มันมากนัก ว่า ยิ่งยุบ-ยิ่งโต
เพื่อไทยเป็นรัฐบาล นึกว่าเก่งอย่างปากพูด เอาเข้าจริงมีแต่ลมตดออกจากตูด คนด่าทั้งบ้าน-ทั้งเมือง เพราะบริหารสับปะรังเค
เลือกตั้งครั้งหน้า กระดี้-กระด้า คิดว่าคนอยากลองของใหม่ ก็จะเฮมาเลือกก้าวไกล จนแลนด์สไลด์จมกองขี้หมานั้น
ฝันได้ ก็ฝันไป ไม่ผิดกฎหมาย สตางค์ก็ไม่เสีย แต่กร่าง เหิมเกริม ท้าทาย เล่นกับ “ความรู้สึกชาวบ้าน” แบบนี้
ไอ้พวกโตชนิดไม่ศึกษาประวัติศาสตร์บ้านเมือง ที่โพสต์เต็มหน้าเว็บพรรค
“ก้าวแรก อบจ. ก้าวต่อปลี่ยนประเทศ” นั่นน่ะ
ระวังเหอะ……
เจอของจริง “ก้าวแรก ไอ้จ๋อ ก้าวต่อ ไอ้แหว่งลพบุรี” ที่จะแลนด์สไลด์ยึดสภา กลายเป็นแลนด์สไลด์เข้ากรง ร้องเจี๊ยกทั้งตัวผู้-ตัวเมีย!
ครั้งแรก ยุบอนาคตใหม่ คงนึกว่านั่น “เหรียญอัศวิน” ในสนามรบการเมืองละกระมัง เห็นกระหยิ่มยิ้มย่องกันเหลือเกิน?
ยุบอนาคตใหม่ เมื่อปี ๖๒ นั่นด้วยเรื่อง “พรรคกู้ยืมเงิน” หัวหน้าพรรค “นายธนาธร” ผิดตามมาตรา ๗๒ พรป.พรรคการเมือง
ส่วนก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยวันที่ ๗ สิงหา.นั้น ถูกร้องด้วยข้อหาตามพรป.พรรคการเมือง มาตรา ๙๒”
“เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(๑)กระทำการล้มล้างการปกครองระบอประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(๒) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ข้อหานี้ จะไม่ยุติแค่ยุบพรรค ตัดสิทธิ กก.บก.นะ
ซึ่งต้องไม่ลืมว่า….
เมื่อ ๓๑ มกรา.๖๗ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย กรณีที่มีผู้ร้องยื่นให้วินิจฉัยกรณี พรรคก้าวไกล นายพิธา ใช้การเสนอแก้ไขมาตรา ๑๑๒ เป็นนโยบายเสียง
และศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ไว้แล้วว่า….
“เป็นการล้มล้างการปกครองฯ มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย แบ่งแยกสถาบันออกจากชาติ เป็นเหตุให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรือ อ่อนแอลง”
จากคำวินิจฉัยนั้น นำมาสู่ขั้นตอนที่ ๒ คือ การเสนอให้ยุบพรรค ที่จะตัดสินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เรื่องคดีความ เป็นเรื่องว่าด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องยากสำหรับชาวบ้านจะจดจำและเข้าใจทุกข้นตอน ยิ่งกาลเวลานานวัน ก็แทบไม่รู้อะไรเลยในสาระหลัก
ฉะนั้น การที่พรรคก้าวไกล ออกมาแถลง ตอบโต้เชิงยัดเยียดความเห็นชี้นำ ต่างๆ นาๆ ล่วงหน้า
ก่อนศาลฯ มีคำวินิจฉัยแบบนี้ ย่อมสร้างความไขว้เขว-สับสนให้ประชาชน
และแน่นอน ย่อมมีคนส่วนหนึ่ง เมื่อฟัง ย่อมคล้อยตามและพร้อมเชื่อ ที่พรรคก้าวไกล “สร้างกระแส-สร้างประเด็น” ชี้นำ
ซึ่งนั่น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา ถ้าไปในทางเป็นประโยชน์ก้าวไกล ก็จะบอกว่า ศาลตัดสินยุติธรรม ชอบแล้ว ถูกต้องแล้ว
แต่ถ้าศาลฯ มีคำวินิจฉัยออกมาในทางไม่เป็นคุณกับก้าวไกล
ย่อม “เปราะบาง” ต่อการปลุกปั่น-ปลุกเร้าให้เกิดทัศนคติลบให้กลุ่มคนที่เชื่อตามกระแสปลุก และบอกว่าศาลฯ ตัดสินไม่เป็นธรรม
“แนวร่วมนอกชาติ” พวกตะวันตก ทั้งยุโรป-สหรัฐ และพวกกลุ่มสแกนดิเนเวียน
ก็จะกระพือโหมข่าว เป็นแง่มุมลบต่อไทย ต่อสถาบันบริหารและปกครอง ว่าตกอยู่ใต้อำนาจกลุ่มขุนศึกศักดินา กลุ่มตุลาการ กลุ่มทหาร
ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีเสรีภาพ ก็ปลุกปั่น-ปลุกระดม ตามแผน บั่นทอน โยกคลอนของขบวนการ CFR
สู่เป้าหมาย “แยกแผ่นดิน” จากราชอาณาจักรไทย เป็นสาธารณรัฐ จากมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข เปลี่ยนไปเป็นระบบ “ประธานาธิบดี” ซอยแผ่นดิน แบ่งกันไปครอบครอง!
นี่….
เรื่องของเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ออกมาบิดประเด็น สร้างชุดข้อมูลชี้นำ เป็นการ “ปูทางเชื่อ” เผื่อทางปลุกระดมไว้ล่วงหน้า
ไอ้น้ำตาจระเข้แบบนี้ มันมีอะไรให้ “น่าสงสาร-เห็นใจ”?
ถูกหอกทิ่มปากทะลุไส้ นั่นก็ยังน้อยไปด้วยซ้ำ!
เปลว สีเงิน
๒๙ กรกฏาคม ๒๕๖๗