ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ Live ทาง Youtube ช่องสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว วันที่ 7 มิถุนายน 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมการออม ‘หวยเกษียณ’ ที่อยู่ในกระบวนการดำเนินการ
โดยระบุว่า นโยบายดังกล่าว เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2562 และถูกบรรจุในนโยบายหาเสียงลำดับที่ 23 ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เป็นนโยบายที่คิดโดยทีม Think tank ของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่นโยบายของใครคนใดคนหนึ่ง และทีมนี้มีคนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาและออกไป
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการที่มีการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. รวมถึงสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ได้เข้ามาให้คำแนะนำในการทำในรูปแบบหวยขูดดิจิทัล ซึ่งถือคนละตลาดกับสลากกินแบ่งรัฐบาล
โดยหวยเกษียณจะเข้าเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สนับสนุนการออมให้กับคนไทย และแก้ปัญหาหวยใต้ดินอีกทาง เป็นการใช้จริตคนไทยที่ชอบเสี่ยงดวง จับมาผูกกับปัญหา เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการออม ยังซื้อหวยได้แต่เงินไม่หาย ซื้อมากได้ออมมาก
“การออมโดยสมัครใจรวมถึงการเติมเงินจากภาครัฐเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ที่ผ่านมาเราพบปัญหาคนไทยยิ่งแก่ยิ่งจน ไม่มีเงินเก็บ ทำให้ภาครัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ แต่จากข้อมูลคาดว่าคนสูงอายุในปี 2567 อาจมีเพิ่มขึ้นถึง 13 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเร็วกว่าการเติบโตของงบประมาณในแต่ละปี ดังนั้น การมีอีกหนึ่งกลไกเข้ามาจะช่วยสร้างเสาหลักที่ส่งเสริมการออมให้กับคนไทยได้” รมช.เผ่าภูมิกล่าว
ส่วนการกำหนดยอดซื้อสูงสุดต่อเดือนไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน เนื่องจากเป็นการใช้เงินงบประมาณ จึงต้องมีการจำกัดวงเงินเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่องบประมาณ และป้องกันการกว้านซื้อเกินความจำเป็นจากคนที่มีฐานะด้วย
ทั้งนี้ ในเฟสแรก วางกรอบให้ผู้ซื้อมีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี หากอายุเกิน 60 ปีไม่สามารถซื้อได้ ขัดต่อวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนการให้ผลตอบแทนนั้นอยู่ระหว่างหารือ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมี โดยมองว่าควรมีผลตอบแทนในระดับเหมาะสมและเพียงพอ ซึ่งเชื่อว่า กอช.มีความสามารถในการบริหารจัดการอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรอพิจารณาในส่วนของค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการของ กอช. ประกอบ หากผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ มีแผนที่จะขยายเฟสต่อไปให้ครอบคลุมคนไทยทั่วประเทศมากขึ้น
สำหรับสลากขูดดิจิทัล จะใช้แอปพลิเคชั่นของ กอช. ปรับแต่งให้มี feature ที่สามารถซื้อสลากขูดได้ จำหน่ายในราคาใบละ 50 บาท ผู้ซื้อจะได้รับตัวเลข 2 หลัก 10 ตัว เป็นคู่ๆ นำไปขูดลุ้นรางวัลที่จะออกทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ ประกอบด้วยรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล โดยหากถูกรางวัลจะได้รับเงินทันที กรณีผู้ออมเงินเสียชีวิตก่อนถึงอายุถอนเงิน เงินทั้งหมดจะเข้ากฎหมายภาษีมรดก และตกเป็นของลูกหลานต่อไป
“ยืนยันว่าเงินซื้อหวยนี้ไม่เสียภาษี คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาและดำเนินการอีกประมาณ 6 เดือน – 1 ปี เนื่องจากต้องมีการปรับแก้กฎหมายของ กอช. ใช้งบประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่า” นายเผ่าภูมิ กล่าว
นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่า ประชาชนจะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ภายในไตรมาส 3 และจะได้รับเงินภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ ซึ่งสำนักงบประมาณกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังทำงานกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
ส่วนความเห็นต่อกรณีร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมโครงการได้ ยืนยันว่าไม่ทบทวน เพราะได้ บาลานซ์ความง่ายของประชาชนเข้ามาใช้จ่ายด้วย โดยมองว่าร้านสะดวกซื้อเป็นตัวกลางในการซื้อขาย ไม่ใช่จุด stop ของเม็ดเงิน แม้เป็นนายทุนก็ต้องเอาเงินไปซื้อของ ไปจ้างคนมาทำงาน กลายเป็นรายได้ของพี่น้องแรงงาน ช่วยรักษาสมดุลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการอนุญาตให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มความกว้างของสินค้าที่จะซื้อ เพราะปัจจุบันมือถือเป็นเครื่องมือช่วยทำมาหากิน ทำให้มีความเท่าทันโลก มีประโยชน์ในการเข้าไปช่วยเพิ่มทักษะมนุษย์ได้
