เศรษฐา ๒ “ปรับปุ๊บ-พังปั๊บ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

๓๐ เมษา. “ดาวพฤหัส” จะย้ายจากเมษ.ไปอยู่ภพเงิน-ภพทองของประเทศที่ “พฤษภ.”
เมื่วาน ๒๗ เมษายน ๒๕๖๗
เศรษฐา “ปรับครม.” จาก “เศรษฐา ๑” เป็น “เศรษฐา ๒ “ปุ๊บ
เค้าลาง “เศรษฐา ๓” ตามมาทันที!

“นายปานปรีย์ พหิทธานุกร” ยื่นหนังสือ “ลาออก” จากตำแหน่งรัฐมตรีต่างประเทศและทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายทันที

“ตามที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีบางตำแหน่ง ปรากฏว่า ผมยังคงดำรงตำแหน่งว่าการรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอยู่ตำแหน่งเดียวนั้น

ผมมีความประสงค์จะขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย ตั้งแต่วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๗
เพื่อเปิดทางให้ท่านอื่นเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน”

“ปานปรีย์” สุภาพบุรุษ-ผู้ดี……..
ผู้ไม่เหมาะกับ “การเมืองใต้เงาโจร” สร้างความเย็นยะเยียบ “เหยียบกะโหลก” บางคน ขณะอุณหภูมิประเทศร้อนผ่ากบาล ระดับ ๔๐ องศา

“ผมทุ่มเทการทำงานด้านต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ตั้งใจทำหน้าที่ด้วยซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์
มีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนมากขึ้น
ตามที่รัฐบาลแถลงผลงานไปแล้วจนสามารถตอบสนองนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกอย่างเด่นชัด

วันนี้ ไทยหวนกลับมาขึ้นบนจอเรด้าของโลก
มีมิตรประเทศเพิ่มขึ้น มีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนในไทยมากขึ้น

นอกจากนั้น การให้ความสำคัญกับคนไทยในต่างประเทศ ผมยังไปเจรจาด้วยตัวเอง
นำคนไทยผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอลกลับไทยได้ถึง ๒๓ คน แรงงานไทย ๘,๐๐๐ คน
และจากเล่าก์ก่าย ในเมียนมาอีก ๑,๐๐๐ คน

เปิดวีซ่าฟรี กับหลายประเทศ
เพื่อคนไทยมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น

ให้ความช่วยเหลือต้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา พื้นความสัมพันธ์กับอาเชียน สหภาพอียู อินเดีย และประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน

จนเกิดการเจรจา ลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในประเทศไทยอีกด้วย
……..ขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสผมได้ทำงานกับรัฐบาลนี้มาช่วงเวลาหนึ่ง”

อักษรแทนวาจาเรียบร้อย “คมกริบ-บาดลึก” เยี่ยงสุภาพบุรุษผู้ดี “คนหนา” จะไม่รู้สึก ซ้ำจะเฉไฉเป็นว่า
“ถูกริบตำแหน่ง” รองนายกฯ “น้อยใจประชดลาออกมั้ง?”
ก็คิดแค่นั้น….

แต่คนมียาง จะเกิดสำนึกอาย ๗-๘ เดือน “การเมืองโลก” ส่งผลถึง “เศรษฐกิจ-การเมืองระหว่างประเทศ” มาก
งานต่างประเทศหลายๆ ด้านที่เป็นบวก ใครๆ ก็หลงนึกว่า “ผลงานผู้นำ”

เมื่อคนทำ “ตัวจริง-เสียงจริง” ทิ้งหมัดจากชนิดหมดจด
ทำให้เห็นตัว “ตลก” ที่เต้นหาแดกหน้าฉาก!

เที่ยวฉาบฉวย “เฉาฉุ่ย” ฉกงานคนอื่นเป็นทองปิดหน้าตัวเอง ไม่เคยเอ่ยให้เครดิตคนทำ…ซักคำ

ภาวะสังคมโลกต่างบิดเกลียวเพื่อหาแกนสร้างความมั่นคง-หนักแน่นให้ประเทศชาติตัวเอง
พวกเราคนไทยอยู่ข้างใน ไม่ค่อยรู้กลไกและใครทำ รู้แค่ที่นักอำฉวยมาคุยอวดเป็นผลงานกูแค่นั้น

ทั้งที่คนทำ “ตัวเป็นเกลียว-หัวเป็นน็อต” คือ “กระทรวงการต่างประเทศ” ไม่ว่าโฆษกรัฐบาล ผู้นำรัฐบาล ไม่เคยอ้างถึง
มีแต่ “อำกิน”!

ในขณะที่ ตัวรัฐมนตรีและทีมงาน
ไม่ต่างกุลีโลก “เดินสายประสานเทศ” จนไม่มีเวลากิน-เวลานอน หัวแทบไม่ได้หนุนหมอนอยู่ในประเทศ

ปานปรีย์ เป็นนักปฎิบัติการ
ไม่ใช่ “นักการเมือง” ประเภท “ดีแต่สั่งและด่า-ตำหนิ ข้าราชการ” โชว์พาวตัวเอง เหมือนนักการเมืองจำอวดบางคน
มันเป็นแค่ไอ้งั่ง-ขี้โม้

ไม่เคยมีผลงานสำเร็จเป็นเนื้อเป็นหนังตรงไหน คอยแต่ฉก-จกฉวย งานคนอื่นทำมาถุยอวด
แต่ไทย “นิยมแจก” ชอบ!

เห็นรายชื่อรัฐมนตรี “เศรษฐา ๒” ของพรรคเพื่อไทยเขากันแล้วนะ
เห็นปุ๊บ ที่รู้ปั๊บ คืออะไรรู้มั้ย?

รู้ว่า รัฐบาล “เศรษฐา ๒” ตามบัญชา “นักโทษเทวดา” ร้อยเปอร์เซ็นต์!

เว้นจาก “นายพิชัย ชุณหวชิร” ที่มาเป็นรัฐมนตรีคลัง ซึ่งชัดว่า “มาตามนักโทษสั่ง” แล้ว ผมก็ไม่ว่าไร

เพราะนายพิชัยมีคุณสมบัติถึงงานและผมเชื่อ ในความเป็นมืออาชีพ ถ้าถูกยืมมือใช้ให้ทำในประเด็น “ผิดกฎหมาย”
พิชัย “ไม่โง่” ที่จะให้แน่!

แต่ที่เตะหัวหมอชลน่าน “ทาสผู้ภักดี” กระเด็นไป แล้วเอาคนอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขึ้นมาเป็นแทน
แถมปูนบำเหน็จรางวัลนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายฯ อีกตำแหน่ง

จับมือถามกันตรงๆ “ลำพังเศรษฐา…กล้ามั้ยและจะทำมั้ย?”
ไม่กล้าและไม่ทำแน่

แต่มันเป็นไปแล้ว เพราะคนที่สั่งให้ทำได้ มีแต่ “หัวหน้าคอก” คนเดียวเท่านั้น

จาก “สัมภเวสี” กลับประเทศมาเป็น “นักโทษเทวดา” ได้วันนี้
คนที่วางรากฐานเป็น “กฎหมาย-กฎกระทรวง” ปูทางให้มีวันนี้เป็นที่สำเร็จได้ สู่ฝัน “ประธานาธิบดี” ในขั้นต่อไป
จะเป็นใคร ไม่รู้ ……

แต่อย่าลืมว่า “นายสมศักดิ์” เป็นรัฐมนตรียุติธรรมผู้ “ขุดแผ้ว-ถางทางไว้”
เก้าอี้ “รัฐมนตรีสาธารณสุข” มันคือ “อานิสงส์” เป็นผลบุญตอบแทนไง!

ส่วนสุริยะ “ไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่” ต่างคน-ต่างเห็น เท่ากับ “รู้ใจ-รู้สร้อยสน-กลใน” ชนิด “ขยิบตาก็รู้ใจกัน”

จากคมนาคมยุค “สนามบินสุวรรณภูมิ” ยุค CT-X 900-ยุคซื้อแอร์บัส A340-500 จอดทิ้ง ๑๐ ลำ ทำการบินไทยเจ๊งเกือบแสนล้าน

สู่คมนาคมยุคสานต่อ “โครงสร้างคมนาคมพื้นฐาน” ที่รัฐบลาลประยุทธเริ่มไว้ มันต่อแข็ง-ต่อขา “หาเงิน” ได้สารพัด

ทั้งระบบ “รถ-เรือ-ราง” เรียกว่า ทั้งใต้ดิน-บนดิน-ในน้ำ-ในอากาศ เปิดโอกาส ทั้งตามน้ำ-ทวนน้ำ-มุดน้ำ ได้อีกบานตะไท

ฉะนั้น จึงไม่ต้องถาม “สุริยะมีความดี-ความชอบใด จึงได้อวยยศเพิ่ม”
ผิดจากไอ้ตัวนั้น จะมีใครกล้า “อวยตำแหน่ง” ให้ “สุริยะ- บุรุษผู้ไร้สัจจะ” คนนี้?

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช จากวัฒนธรรม ไปนั่งการท่องเที่ยว สลับเก้าอี้กับ น.ส.สุดาวรรณ ลูกเจ้าพ่อแป้งมันโคราช ตลอดภาคอีสาน

นายเสริมศักดิ์ ทั้งครอบครัว อุทิศถวายให้หัวหน้าคอก ถึงขั้นยกลูกชายให้ “เชือดชีวิต” สนองการเมือง “ตั้งพรรคแตกแบง์พัน” จนตายสนิท
มันก็ต้องประโลมใจคนเป็นพ่อเขาหน่อย

กระทรวงวัฒนธรรมมันเล็ก เสริมศักดิ์ก้นเขาใหญ่ ก็ต้องให้นั่งกระทรวงใหญ่ “งบมันเยอะ”!

ส่วน “นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด” ที่พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีสำนักนายกฯวิจารณ์กันว่า “ผิดคาดหมาย ทำไมทำกับแจ๋นได้ขนาดนี้” นั่นน่ะ

ไม่ต้องห่วงเขาหรอก กับคอกเพื่อไทย เธอถือ “กุญแจคอก” อยู่แล้ว จะมี-ไม่ตำแหน่ง เธอ “ใหญ่เหนือตำแหน่ง” อยู่วันยังค่ำ

“พวงเพ็ชร” ชื่อก็บอก “มีเพชรเป็นพวงๆ” ฉะนั้น ห่วงตัวเองเหอะ ไม่ต้องห่วงเธอหรอก

“นางสาวจิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีป้ายแดง พ่อของเธอก็ “นายนิสิต สินธุไพร” แกนนำเสื้อแดง ผู้ประกาศตัว “ชีวิตไพร่เพื่อทาสทักษิณ”

เธอก็สืบสายเลือดพ่อตลอด อภิปรายด่าประยุทธ์ให้สะใจนักโทษมาก็ร่วม ๑๐ ปี ไม่ตบรางวัลให้เธอบ้าง ก็ใจหมาเต็มทน

อีกซักคน ระดับ “เพชรยอดมุงกุฎ” ของรัฐบาลเศรษฐา ๒ “นายพิชิต ชื่นบาน” ที่ชื่อเสียงโด่งดังด้าน “ถุงขนม”!
สส.เพื่อไทยมีเป็นร้อย ลำพังเศรษฐา กล้าเอาคนนอกคอกมาตั้งเป็นรัฐมนตรีมั้ย?

ฉะนั้น ไม่สนทั้งครหา-ทั้งปัญหากฎหมาย ให้ “นายพิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ มีคนเดียวทำได้
อยากรู้เป็นใคร ลองดีดไข่ดูซี…ได้ยินเสียงร้องแม้ววววว!

นั่นละ เสียงแมวร้องตอนถูกดีดไข่ไงล่ะ!

ครม.เศรษฐา ๒ มีเรื่องท้าทาย-น่าสนใจเยอะนะ
รัฐมนตรีปานปรีย์ ลาออกฉับพลัน ก็ดี

นายพิชัย มานั่งคลัง กล้าฝ่าไฟแดง “กู้มาแจก” ๕ แสนล้านหรือไม่ ก็ดี

เอานายพิชิต ชื่นบาน บุรุษผู้มีคุณสมบัติคลุมเครือมาตั้งเป็นรัฐมนตรี ก็ดี

ทั้งหมดนี้ จะเลยกันยา.๖๗ มั้ยน้อออ!?
อยากรู้ โปรดเปิดหน้า ๒ ฟังต่อ พรุ่งนี้ครับ

เปลว สีเงิน
๒๙ เมษายน ๒๕๖๗

Written By
More from plew
อย่าต้องให้อายหมานะ – เปลว สีเงิน
นี่คือวิสัยทัศน์ "ตัวตาย-ตัวแทน" อุ๊งอิ้งในเก้าอี้ว่าที่นายกฯ ผมฟังประเด็นคนเป็นนายกฯ ต้องบินไปค้าขายเอง ทำให้คิดถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ขึ้นมาติดหมัด
Read More
0 replies on “เศรษฐา ๒ “ปรับปุ๊บ-พังปั๊บ” – เปลว สีเงิน”