ชัยธวัช “ย้ายเขาใหญ่” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ผมละนับถือนาย “ชัยธวัช” ซะจริงๆ!
ตอนกระแส “ล้มเจ้า” ปลุกติด
“ก้าวไกล” ละก็แหม…เรียงหน้าออกมาชู ๓ นิ้ว เลยเชียวนะ
เป็นหัวจรวด “คนรุ่นใหม่” ในขบวนการ ล่มชาติ-ล้มสถาบันชนิด “ขุดรากถอนโคน” ตามแนวคิด “ศาสดาตาตี่”

แล้วพวกนี้ ก็ซุกใต้กระโปรงเด็ก หลอกปั้นวาทกรรมจ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบัน ลงถนน “สร้างสถานการณ์” จลาจลเมือง

ถูกจับไม่เป็นไร……
สส.ก้าวไกลไปประกันตัวให้ พวกจาน’สามนิ้วมหาลัย ช่วยกันเห่าในรั้ว ตั้งกองทุนรับบริจาค ทำเป็นว่า “คนสนับสนุน” ขบวนการล้มเจ้าเยอะ บริจาคกันหลายสิบล้าน

ความจริง น่าไปตรวจสอบนะ ว่าไอ้หลายสิบล้านนั่นน่ะ ต้นทางมาจากไหน….
ใครบ้าง สมทบกองทุน “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” นั้น จะได้นำมายอวาทีกันได้ถูกตัว

น้ำเลี้ยงทั้ง “ในชาติ-นอกชาติ” ไหลท่วม ตอนนั้น
นักศึกษา, รุ่นใหม่, รุ่นเก่าคนไหน “จัญไรเมือง” พีคเข้าตา เงินทอง เหล้ายาปลาปิ้ง จากผู้มีอิทธิพลทางความคิด “ในระบบ-นอกระบบ” จะไหลมาปรนเปรอ จนเรอ-อ้วก

นอนเถลือกเกลือกก่าย “สามัคคีเวียงชัย” กันตามค่านิยมรุ่นใหม่สามนิ้ว “ไอ้นั่น…ของกู” จะให้ใครก็ได้!

ยิ่งระดับ “หัวโจก” ด้วยแล้ว….
“ขบวนการนอกชาติ” มันเรียกไปลูบหัว แล้วโก่งตูดผายลมหลอกให้ดม บอกว่า..นี่คือ “กลิ่นหอมความเจริญ” ที่จะได้สัมผัส

โอ้โห…ทีนี้ กระชากโซ่กันยกใหญ่
ฝรั่ง-ยุโรป เป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์อย่างนี้ละก็ จะต้องไปเห็นหัวใครอีกในประเทศไทย ก็เลยละเลงละลาย “สถาบันไทย” กันไม่ยั้ง

ไอ้พวกผู้ใหญ่สายเอ็นจีโอ สายองค์กรสังคม นี่ตัวแสบ
“ฉากหน้า” เป็นนักวิชาการทรงภูมิ เป็นคนทำงานเพื่อสังคม

แต่ “ฉากหลัง” เป็น “แนวร่วมล้มเจ้า”
เอา “เงินหลวง” ไปเป็นน้ำเลี้ยงพวก “ล่มเมือง”!

พวก “เสแสร้งดี” เหล่านี้ มันจะมีอะไรมาก นอกจาก “หน้ากากแอบจิต” ๒ อัน
อันหนึ่ง นักวิชาการ “แอบกิน” ทางสังคม
อีกอัน หน้ากากปีศาจ “กระหายอำนาจ-กระหายการยอมรับ-กระหายความเป็นทาสฝรั่ง” ว่าเท่

ตอนกระแสขึ้น กระหยิ่ม-ยิ้มย่องกันยกใหญ่ “พวกเรา…คนหัวใหม่ จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินกันแล้ว”

ยิ่งตอนเลือกตั้ง “ก้าวไกล” มาเป็นอันดับ ๑ ได้จัดตั้งรัฐบาล ถ้าซื้อโฆษณาออก CNN ได้ คงซื้อให้ พิธา ออก CNN ไปแล้ว

เพื่อประกาศ….
“ผม…พิธา” นายกรัฐมนตรี คนที่ ๓๐ ของประเทศไทย!

ช่วงนั้น พวกเสแสร้งดี ขนาดกลางวัน มันยังนอนฝันกระฉูดว่า “รุ่นใหม่ครองเมือง” กันเลย
ทองแท้น่ะ เผายังไง แม้ละลาย “คืนตัว” ก็เป็นทอง

“สถาบันชาติ” ก็เช่นนั้น
“นักเรียน-นักศึกษา” อย่าไปว่าอะไรพวกเธอรุนแรง

เพราะเด็ก เพราะเขลา เพราะเยาว์วัย จึงไร้เดียงสา
ตกเป็นเหยื่อผู้ใหญ่ “ชาติตะกั่ว” คราบ “นักวิชาการ ครู-อาจารย์ และอสัตย์ชาติ” ที่แฝงคราบ “นักการเมือง” เข้ามา “หลอกหลอม-ปลุกปั่น” ให้เป็นไป

ชี้ “แอ่งน้ำ” ในรอยตีนควาย แล้วบอกนี่คือ “มหาสมุทรกว้างใหญ่”

เยาวชน ต่อให้เรียนอยู่สถาบันริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อครูอาจารย์บอกอย่างนั้น ถ้าไม่เชื่อ แล้วจะไปเชื่อหมา-แมวที่ไหน?

เรื่องปลุกปั่นเยาวชนให้เห็นดี-เห็นงามกับสามนิ้ว
ถ้าจะโทษ…ต้องโทษผู้ใหญ่

“ผู้ใหญ่” ในที่นี้คือ “ระบบรัฐ” ในแต่ละรัฐบาลที่ผ่านมา อาจให้ค่าการศึกษากับเยาวชนระดับ “อนุบาล-ประถม-มัธยม” ระดับหนึ่ง

แต่ให้ความสำคัญด้วยเข้าใจคำว่า “แปลงเพาะ” อนาคตชาติขนาดไหน ตรงนี้ ต้อง “สำนึก” กันใหม่!

จึงเป็น “ช่องว่าง” ให้ขบวนการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” นอกชาติ สมคบ “อสัตย์ชาติ” ในประเทศ
“วางไข่” ในหวอดการศึกษาและสื่อแทรกซึมมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว

พรรคการเมือง “บางพรรค” นั่นยิ่งตัวการ
นิยายจีนบอกว่า “การแก้แค้น ร้อยปีก็ไม่มีวันสาย”

ในนิยายการเมือง-ล่มเมืองมีว่า “เพื่อเป้าหมาย อดทน-รอคอย-เสแสร้งได้ โดยไม่เกี่ยงวิธีการและรูปแบบ”

ฉะนั้น ในบ้านเมืองเรา ใครจะวางใจกับการ “สู้ไป-กราบไป” ก็วางไป แต่ผมขอ “ใส่บ่าแบกหาม” ตายเมื่อไหร่ค่อยวาง

ฉะนั้น ที่ยกมากล่าว ……
ก็เพื่อจะบอกว่า “ตะกั่ว” ที่เผยอหวังละลาย “ทอง” นั้น

บัดนี้ ตะกั่วสามนิ้ว “คืนชาติตะกั่ว” ไปแล้ว!
ที่ร่องแร่ง ก็พวก “สามนิ้วรับจ้างล่มชาติ” ที่ถูกหลอกบ้าง เต็มใจให้หลอกบ้าง กเฬวราก “ชาติน้ำครำ” จากที่ต่ำไหลไปรวมในดงน้ำครำสามนิ้วบ้าง

เมื่อ “งานหลอกใช้” เลิกรา….
ธนาธร-ปิยบุตร ก็ปลีกวิเวก พวกจาน’หลอกเด็ก ต่างหลุบหัว “ซุกเงา” สถาบันซ่อนตัวชั่วคราว

ส่วนพวก “ต้องคดี”…….
ต่างจ๋องๆ ยืน “โดดเดี่ยวหน้าบัลลังก์” เหลียวหลังแลหน้า หาหมาเป็นเพื่อนซักตัวก็ไม่มี!

นี่แหละ โลกเป็นจริงของ “คนรุ่นใหม่” ที่ถูกผู้ใหญ่ซุกใต้กระโปรงหลอกใช้ ให้ออกหน้าหยาบช้าต่อสถาบัน

หนักหน้าใครล่ะทีนี้….
ในเมื่อ “กลุ่มนั้น-กลุ่มนี้” ที่ตั้งขึ้นมารับจ้าง “ด่าเจ้า” ตอนนี้ สลายหายตัวกันไปหมด

ที่เหลือเป็นสัญลักษณ์ร่วมแนวทางให้พยุงตัวลอยคอได้ก็มีอันเดียวคือ “พรรคก้าวไกล”
เพราะถ้ามึงไม่ช่วยกู ตอนเลือกตั้ง พวกกูก็จะไม่เลือกพรรคมึง ประมาณนั้น!

เพราะเหตุนี้ “นายชัยธวัช” ในฐานะ “ประมุขพรรคก้าวไกล” รุ่นที่ ๓ ไม่ถูกถีบให้ตกน้ำไปช่วยคน ก็เหมือนถูกถีบ

ต้องด้านหน้า….
เสนอร่าง “พรบ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง” ต่อประธานรัฐสภา

๑๒ ธันวา.สภาก็จะเปิด ช่วงนี้ นายชัยธวัชเดินสายขอเสียงสนับสนุนกลุ่มนั้น-กลุ่มนี้ไปทั่ว

ความจริง “ไม่จำเป็น” เลย เพราะร่างพรบ.เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น “คนนอก” ไม่เกี่ยว

แต่ก็เข้าใจได้ ชัยธวัช ต้องการตีปีบ “ส่งสัญญาน” ให้โลก ๓ นิ้ว ได้รู้เท่านั้นว่า…กูช่วยแล้วนะโว้ย!

“ชัยธวัช” จะว่าไป ถึงยังไม่ใช่ “รุ่นในกรุ” ซะทีเดียว ก็จัดอยู่ใน “รุ่นเก๋า”

เป็นนักศึกษาร่วมรุ่นธนาธร และจบปริญญา “เผาบ้าน-เผาเมือง” จากสถาบันเสื้อแดง “ทักษิณสถาปนา” ปี ๕๓ พร้อมธนาธร

แต่จะให้พูดว่าไงดีล่ะ “ไร้เดียงสา” หรือ “ซื่อบริสุทธิ์” ดี?

เที่ยวอ้างเพื่อ พันธมิตร, นปช., กปปส. “นิรโทษกรรม” แล้ว บ้านเมืองจะได้คืนสามัคคี เลิกกันที “ความขัดแย้ง”

โถ..พ่อพระเอก “หน้าซื่อ-ตาใส”
ไม่มีใครเขาว่าหรอก ถ้าจะนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ว่าด้วยการชุมนุม ชุลมุนวุ่นวายในบ้าน-ในเมือง ตามประสาคนมีเสรีภาพ “ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ”

แต่คุณอ้าปาก ก็เห็นก้นทะลุถึงดากแล้ว
ว่าชัยธวัช อ้างคนอื่นบังหน้าเท่านั้น ที่แท้อาศัยตีขลุม หวังให้นิรโทษกรรมคนต้องคดีตามมาตรา ๑๑๒ และ ๑๑๖ คือพวกเขาโดยตรง เป็นหลักใหญ่

ไม่มีใครหลงลมแก๊ง “เด็กเลี้ยงแกะ” หรอก!

ปิยบุตรศาสดากฎหมาย “ผู้นำวิญญานก้าวไกล” ไปอยู่ไหนล่ะ ชัยธวัชไปถามเขาซิ

ว่าการนิรโทษกรรมนั้น เขาวางกรอบพฤติกรรมในการกระทำผิดของคนนั้นๆเป็นเกณฑ์พิจารณามิใช่หรือ?

ไม่มีที่ไหนหรอก ที่จะระบุมาตราลงไปเลย ว่าผู้กระทำความผิดตามมาตรานั้นๆ ต้องได้รับนิรโทษกรรม

และความจริง ที่ผมจำความได้ ตั้งแต่ปี ๒๔๙๙-๒๕๔๓ ทุกการชุมนุม ไม่มีการชุมนุมไหน “ย่ำยีชาติ-มุ่งล้มสถาบัน”

มีประปรายยุครัฐบาลทักษิณและเด่นชัดจากปลายปี ๒๕๔๙ คือหลังทักษิณเป็นสัมภเวสี เรื่อยมาถึงปี ๕๒-๕๓ “โจ่งแจ้ง-จริงจัง” เป็นขบวนการ หลังปี ๒๕๕๗ ที่พลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ

และหนักขั้นก่อจลาจล “ล้มล้าง” จริงจัง ในยุคปลุกระดมให้เกิด “ขบวนการ ๓ นิ้ว” โดย “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์”!

จึงสรุปได้ว่า…คนทุกข์ร้อน…มี
แต่คนเดือดร้อน ถึงขั้นดิ้นเร่าๆ ให้นิรโทษกรรม…ไม่มี!

ก็มีแต่พวกที่ “ขบวนการสามนิ้ว” หลอกใช้ ให้ตะโกน “ด่าเจ้า” จนต้องคดีเท่านั้น

การจ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบัน ทั้งวาจา ทั้งการกระทำ ไม่ใช่ “ความผิดทางการเมือง”

การบุกทำลายสถานที่ราชการ ก่อความวุ่นวายในศาลการก่อจลาจลเผาทำลายของหลวง การทำร้ายผู้อื่น รวมทั้งเจ้าหน้าบาดเจ็บล้มตาย

พฤติกรรม คือการกระทำเหล่านี้ จะตีขลุมเป็น “คดีการเมือง” แล้วให้นิรโทษกรรม มันใช่มั้ย..ชัยธวัช?

รู้หละ พวกคุณก่อ พวกคุณยุ แล้วพวกคุณต้องแก้ คือต้องช่วยพวกนั้น ไม่งั้น “ศร” มันจะย้อนมา “ยอนตูด” ก้าวไกล

แต่..ชัยธวัช-ก้าวไกล คุณต้องจำไว้ สถาบันนั้น พวกคุณตบหัวแล้วออกกฎหมายให้เจ๊ากันไป ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ?

สมมติ นิรโทษวันนี้…พรุ่งนี้ พวกสามนิ้ว เขียนป้ายจ้วงจาบอีก

แล้วไง ก้าวไกล ถือสิทธิ์ “สมาชิกสภานิติบัญญัติ” ร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าสภา ให้ตีตรายาง “ด่าเจ้า” ได้ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า อย่างนั้นหรือ?

รู้จัก “เขาใหญ่” มั้ย..ชัยธวัช?

ก้าวไกลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกคุณที่ทำความผิดตามมาตรา ๑๑๒ นั้น ….ก็ได้
แต่พวกคุณ-ก้าวไกล….

ต้องย้าย “เขาใหญ่” ให้พ้นไปจาก “เทือกเขาพนมดงรัก” ให้ผมเห็นก่อนนะ!

เปลว สีเงิน
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
กฎหมาย-กฎกรรม – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “คอรัปชัน” ในวงราชการ “ครองชาติ”! ผมใช้คำนี้ ….. “เกินความเป็นจริงไปมั้ย?” ช่วยบอกด้วย ถ้าเกินไป จะได้กราบขอโทษ
Read More
0 replies on “ชัยธวัช “ย้ายเขาใหญ่” – เปลว สีเงิน”