เปลว สีเงิน
หน้าหนาว…….
แต่ “อุตุ” ประกาศฝนจะตกหนัก โดยเฉพาะทางใต้
ผมกำลังจะไปใต้พอดี
เพราะถึงเวลาต้องไปไหว้ “หลวงพ่อทวด” ประจำปี ที่วัดช้างให้ ปัตตานี แต่ไม่กลัว (ฝน)หรอก
เพราะ “หลวงพ่อทวด” ท่านเมตตา ระหว่างทางตกจั๊กๆ แต่พอถึงวัด ก็ซาเม็ดทุกที
เมื่อวันครอบรอบ ๒๖ ปีไทยโพสต์ ๒๑ ตุลา.ที่ผ่านมา “คุณหมอสวรรค์ กาญจนะ” จากเบตง โอนเงินมา ๑ หมื่น
ยังอยู่ครบ เพราะปีนี้ ไม่ได้จัดงานเลี้ยงพระเลี้ยงเจ้า เนื่องจากอยู่ช่วงเตรียมย้ายไปสำนักงานใหม่ จึงเขละขละ
ครอบครัว “ตะวันกาญจนา” ซึ่งอุปถัมภ์ค้ำชูผมมาตลอด ใส่ซองเปิดผนึกมา ๑ หมื่น ผมก็เลยนำไปใช้ ๕ พัน ยังเหลืออีก ๕ พัน
น้องปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย กับคุณแม่ภักดิพร ก็มาร่วมทุกปี พร้อมซองเงิน ปีนี้ก็เช่นกัน
เช่นเดียวกับ “สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน” ที่มาร่วมยินดีด้วย พร้อมใส่ซอง “ช่วยงาน” ตามธรรมเนียมไทย
ทั้งสอง “ปิดผนึกซอง” เรียบร้อย เจตนาร่วมทำบุญ-ทำกุศล ผมก็เลยยังไม่ได้แกะซอง
ตั้งใจว่า กิจการส่วนไหน เป็นไปเพื่อประโยชน์สังคม ผมก็จะแกะและแจกจ่ายไปตามเห็นสมควร ประมาณดูว่า คงมีซัก ๒-๓ หมื่นแหละ
ในส่วนของคุณหมอสวรรค์ ไปเที่ยวนี้ ตั้งใจนำไปใส่ตู้บำรุงสถานที่ ทั้งมณฑปหลวงพ่อทวดและศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
ที่พอเหลือๆ บ้าง ก็เป็นส่วนของลูกศิษย์ คือผม!
หลวงพ่อทวด ที่วัดช้างให้ ผมไปต่อเนื่องเป็นสิบๆ ปีแล้ว ตอนโจรอาละวาดหนัก วัดแทบร้าง
พระท่านก็ลำบาก เพราะต้องดูแล “พระ-เณร” ที่มาเรียนหนังสือ รวมทั้งเด็กๆ ที่มาเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
บอกแฟนๆ ไทยโพสต์ ท่านก็ช่วยกันคนละพัน-ละหมื่น
จำนวนหนึ่ง นำไปถวายพระ ๒๑ วัด ใน ๓ จังหวัดใต้ ที่ถูกเผาวัดบ้าง ถูกบุกเข้าไปฆ่าพระจนมรณะคาวัดบ้าง
ถวายไปวัดละ ๕ หมื่น บางวัด ๑ แสน ตามเหตุปัจจัยหนัก-เบาที่วัดประสบอยู่
ถวายวัดช้างให้ เพื่อพระ-เณร และเด็กนักเรียน อีกประมาณ ๒ ล้าน ซึ่งนั่นก็เป็นสิบปีแล้ว
เมื่อต้นเดือนพย.”คุณพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” นายกเทศมนตรีนครยะลา ที่เพิ่งได้รางวัล “ท้องถิ่นดิจิทัล” ประเภทยอดเยี่ยม จากรัฐบาล หมาดๆ
นำเงิน ๒.๒ แสน ไปถวายเจ้าอาวาสวัดช้างให้ เพื่อใช้จ่ายกิจการวัด ผมได้ข่าว ก็แอบอนุโมทนาสาธุไปกับท่าน
คนดี ก็ดีสุดใจ อย่างนี้แหละ….
คุณพงษ์ศักดิ์นั้น คุณแม่ท่านเพิ่งสิ้นอายุขัยในวัยเฉียดร้อยปี ชาวบ้านยะลาและคนรักใคร่นับถือ ก็ร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ท่าน
เงินช่วยงาน ร่วม “๖ ล้านบาท” เห็นจะได้!
นี่ยืนยันได้ดีว่า คุณพงษ์ศักดิ์ “นักการเมืองท้องถิ่น” ผู้นี้ ทำหน้าที่ “นายกเทศมนตรีนครยะลา” แบบไหน?
แบบ “เอาท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง” แล้วทุ่มเท-พัฒนาให้เจริญก้าวหน้า จนเป็นที่รักใคร่นับถือของชาวบ้าน ชาวตลาดร้านค้า
หรือแบบ “เอาพรรคพวกและตัวเองเป็นตัวตั้ง” แล้วหาช่องโกงกินจนท้องถิ่นโทรม?
เงินช่วยงานร่วม ๖ ล้านนั้น คุณพงษ์ศักดิ์เอาไปไหน?
แบ่งไปทำนุบำรุงวัด ๒๒๐,๐๐๐ บาท
ส่วนอีก ๕ ล้านกว่าบาท จัดสรรมอบให้กับสมาคม-มูลนิธิต่างๆ ดังนี้
โรงพยาบาลศูนย์ยะลา, มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์, กองทุนทางเดินอาหาร มอ., มูลนิธิยะลาบำรุง- ผดุงประชาเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา, สมาคมตั้งศรียะลา, มูลนิธิศาลเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว ยะลา, มูลนิธิศาลเจ้าแม่กวนอิม ยะลา, มูลนิธิบ้านทักษิณ บ้านเด็กกำพร้า ยะลา หน่วยกู้ภัยเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยว
หน่วยกู้ภัยศาลเจ้าแม่ทับทิม, หน่วยกู้ชีพกู้ภัยจารูพัฒนา ตลาดเก่ายะลา, มูลนิธิตุ้ยบ๋วยเต็งเนี่ยง ยะลา, มูลนิธิศาลเจ้าอวโลกิเตศวร, มูลนิธิเหลียนฟาอัม, โรงเจซิวจินตึ้ง, ศาลเจ้าเคงฮุดจี่,โรงเจกวงเต็กตึ้ง, ประธานชมรมชาวไทยเชื้อสายจีน, และสมาคมศิษย์เก่ายะลาบำรุงผดุงประชา
แต่ละแห่ง มาก-น้อยกันไปตามเหตุปัจจัย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕,๔๕๐,๐๐๐ บาท
คนดี ทำงานมีประเทศชาติ ท้องถิ่น และชาวบ้านเป็นตัวตั้ง เราต้องช่วยกันเชิดชู ส่งเสริมให้เขามีกำลังใจ
ใจเขาจะได้ฟู ตั้งมั่นที่จะทำดีเรื่อยๆไป
มีพลัง มีศรัทธา เป็นนักการเมืองที่ดี อุทิศ-สละเพื่อสังคมและประเทศชาติ เป็นแบบอย่างสืบๆไป
เอาหละ วันนี้ คุยส่งท้าย APEC เพื่อวันต่อไปจะได้คุยกันเรื่องอื่นบ้าง
การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ “โจ ไบเดน” ไม่มา เขาว่าอะไรกันบ้าง ก็มาดูกัน
“The Diplomat” นิตยสารข่าวออนไลน์ในบ้านเขาเอง คือที่สหรัฐฯ ลงบทความในหัวข้อ
“The Cost of Biden’s APEC Absence” มีเนื้อหาว่า
“ปธน.ไบเดน” ผู้นำ #สหรัฐ พลาดมาก!!
ที่ได้ตัดสินใจยกเลิกมาร่วมประชุม #เอเปก2565 ที่ #ประเทศไทย
เพราะการที่จะประสบความสำเร็จทางการทูตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมากแล้ว เกิดจากการ “แสดงตัว” ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประจำปี ที่ผู้นำอาเซียนเป็นเจ้าภาพ
การที่ไบเดนปฏิเสธมาร่วม #APEC2022THAILAND ที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสองพันธมิตรที่เหนียวแน่นของสหรัฐ
แต่ไปร่วมประชุม #G20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย นั้น
ถือเป็นการส่งสัญญาณผิดของรัฐบาลสหรัฐ ถือเป็นความผิดพลาด
เพราะทำให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ เริ่มรู้สึกคาใจว่ารัฐบาลสหรัฐยุคไบเดนยังมีความมุ่งมั่นทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของสหรัฐทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดแปซิฟิกมากน้อยเพียงไร
ในทางกลับกัน ผู้นำระดับโลกอื่นๆ เช่น สี จิ้นผิง ของจีน, คิชิดะ ฟูมิโอะ ของญี่ปุ่น และแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย
ต่างก็ให้คำมั่นที่จะเข้าร่วมการประชุม APEC ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานสำหรับประมุขแห่งรัฐ ในการนำคณะผู้แทนของประเทศของตน เข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจประจำปี
ทำให้การออกจากการประชุม APEC ของไบเดน กลายเป็นข้อผิดพลาดฉกาจฉกรรจ์มากขึ้น
เพราะผู้นำสูงสุด 18 คน จาก 21 เขตเศรษฐกิจของสมาชิกเอเปก ได้ยืนยันการเข้าร่วมแล้ว
การที่ไบเดนเบี้ยว ไม่มาร่วมประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทย และการปรากฏตัวของ ปธน.สี จิ้นผิง ของ #จีน ได้ก่อปัญหามากขึ้นสำหรับสหรัฐ
เพราะยิ่งตอกย้ำการรับรู้ของชาติสมาชิกอาเซียนจำนวนมาก ว่าการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในภูมิภาคที่กว้างขึ้นนั้น
#อาเซียน ไม่ใช่ลำดับความสำคัญ-และจะลดลงต่อไป
จากการสำรวจสถานะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี ที่เผยแพร่โดย ISEAS Yusof-Ishak Institute ในสิงคโปร์ เมื่อต้นปีนี้
พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 76.7 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า จีนเป็น “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ” ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2021 เพียงปีเดียว การค้าระหว่างอาเซียนกับจีนเติบโตขึ้นเกือบร้อยละ 20 เมื่อเทียบเป็นรายปี และปริมาณการค้าทวิภาคีโดยรวมมีมูลค่าสูงถึง 800 พันล้านดอลลาร์
……… “กษิต ภิรมย์” อดีตรมว.ต่างประเทศของไทย ระบุในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า การที่ไบเดนไม่เข้าร่วม APEC จะเป็นการตอกย้ำการรับรู้ว่า สหรัฐ “ยุ่งเกินไป…ห่างไกล และห่างเหิน”
ที่จะมีส่วนร่วมกับไทยและภูมิภาคในวงกว้างอย่างมีประสิทธิผล ไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจหรืออย่างอื่น
การป้อนเรื่องราวนี้ ไม่ใช่แค่การรับรู้ของชนชั้นสูงในอาเซียนบางคนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลเชิงลึกด้วย
การที่ ปธน.ไบเดนไม่เข้าร่วมการประชุม APEC ในปีนี้ ควบคู่ไปกับการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นในหลายๆ ประเทศในอาเซียน ว่าฝ่ายบริหารของไบเดน ให้ความสำคัญกับทวีปยุโรปมากเกินไป
เปิดโอกาสให้ปธน.สี จิ้นผิง ของจีน ใช้โอกาสนี้ ในการยกระดับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและเข้มข้นมากขึ้น
https://thediplomat.com/…/the-cost-of-bidens-apec-absence/
นี่เป็นบางส่วน คลิกอ่านฉบับเต็มได้ตามนี้ เพราะล้นเนื้อที่ตรงนี้แล้ว
ทั้งหมดนี้ “สหรัฐฯ-บ้านเขา” ว่ากันเอง
ส่วน “ไทย-บ้านเรา” เปล่าว่า!
เปลว สีเงิน
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
