โรคอีสุกอีใส หลายครอบครัวรู้จักโรคนี้เป็นอย่างดี เป็นโรคใกล้ตัวที่มักพบเห็นได้ตลอดทั้งปี เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella zoster ทำให้มีไข้ เป็นผื่นแดง และมีตุ่มใสขึ้นตามร่างกาย โดยทั่วไปมีความรุนแรงของโรคน้อย ยกเว้นในทารกแรกเกิด ผู้ใหญ่ หญิงตั้งครรภ์และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
พญ.นวลนภา อนันตสิทธิ์ กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า โรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่ติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ไอ จาม และการสัมผัสกับรอยโรคบริเวณผิวหนัง สามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย ระยะฟักตัวอยู่ประมาณ 10 – 21 วัน และคนไข้สามารถแพร่เชื้อโรคได้ตั้งแต่ก่อนมีอาการ 2 วัน ก่อนที่จะเริ่มมีตุ่มใสขึ้นตามตัว โรคนี้พบมากในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเป็นวัยที่หยิบจับสิ่งของเข้าปาก รวมถึงการอยู่ร่วมกับเพื่อน ในวัยเดียวกัน ทำให้มีโอกาสติดโรคง่ายกว่าในวัยอื่น
การรักษาหลักของโรคอีสุกอีใส คือ รักษาตามอาการ หากมีไข้ให้เช็ดตัว รับประทานยาลดไข้ หากมีอาการคันให้ใช้ยาทาแก้คัน พยายามอย่าให้เด็กเกา เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้อนทับ และรอยแผลเป็นได้ คอยใช้น้ำเกลือทำความสะอาดบริเวณที่เป็นแผล รอยโรคบนผิวหนังจะหายไปใน 2 – 3 สัปดาห์ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงซึ่งพบได้ไม่บ่อยของโรคอีสุกอีใส คือ ปอดอักเสบและสมองอักเสบ กลุ่มเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ ได้แก่ ทารกแรกเกิด หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน ดังนั้นในรายที่ยังไม่เคยเป็น ควรรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ซึ่งสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีเป็นต้นไป และมากระตุ้นซ้ำอีกครั้งเมื่อมีอายุ 4 – 6 ปี การรับวัคซีนนั้นจะช่วยป้องกันได้ผลมากกว่า 90 % หากเป็นอาการจะไม่รุนแรงเท่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับวัคซีน นอกจากเด็กแล้วผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส ควรรับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส โดยในผู้ใหญ่หรือเด็กโตมากกว่า 13 ปี รับวัคซีนอีสุกอีใส 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน
ปัจจุบัน ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทาง พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ คอยดูแลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในวันข้างหน้า