เปลว สีเงิน
อืมมมมม…..
เดือน “ตุลา” นี่เหมือนมีอาถรรพณ์
วันก่อน (๒ ตค.) จลาจลในสนามฟุตบอลที่อินโดฯ เหยียบกันตายไปอย่างน้อย ๑๒๕ ศพ
ยังทั้งตกใจและเศร้าใจยังไม่ทันหาย
เมื่อวาน ๖ ตุลา.จากเมื่อปี ๒๕๑๙ ก็เกิดเหตุการณ์ ” ๖ ตุลา.อาถรรพณ์” ปี ๒๕๖๕ “ช็อกประเทศ-ช็อกโลก” ขึ้นอีกในเมืองไทยจนได้
อดีตตำรวจถูกไล่ออกจากราชการเพราะ “ติดยาเสพติด” จะด้วยเครียด-คุ้มคลั่ง หรือจะด้วยเมายาจนประสาทหลอน หรือประกอบกันทั้งสองกรณี
เอาปืนกราดยิงภายในศูนย์เด็กเล็ก ที่ อบต.อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ชนิดบ้าคลั่ง
เด็กเล็กๆ ลูกหลานชาวบ้าน ตายทันทีกว่า ๓๐ ศพ รวมทั้งผู้ใหญ่ในศูนย์ และยังบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง!
ก่อนจะมากราดยิงเด็กเล็กในศูนย์ ยังยิงเพื่อนบ้านรายทางตายไป ๒ ศพ
จากนั้น อดีตนายสิบตำรวจคนนั้น ก็ขับรถกระบะกลับบ้าน ไปยิงลูกชายตัวเล็กๆ ของตัวเองและเมียตาย ญาติๆ ในบ้านบาดเจ็บ
แล้วก็ “ยิงตัวเอง” ตาย!
สรุปล่าสุด เสียชีวิตทั้งหมด ๓๘ ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก ๘ ในจำนวนเหล่านั้น “เด็กเล็ก” เป็นส่วนใหญ่
นี่ผมเพียงสรุปคร่าวๆ ให้ฟัง ยอมรับว่าตกใจและสงสารเด็กๆ และพ่อแม่เด็กๆ จนพูดไม่ถูก
“อกเขา-อกเรา” เนอะ
ลองเป็นเรา ลูกหลานเราตกอยู่ในสภาพนั้น เรารู้สึกเช่นไร เขาก็รู้สึกเช่นนั้น
จะอย่างไรต่อไป ก็ค่อยๆ ฟังความคืบหน้า เผื่อว่า มีช่องทางไหน จะโอบเอื้อเจือจานน้ำใจกันได้ยามทุกข์โศก
เราก็ค่อยๆ ช่วยกัน อันไทยนั้น แม้ไม่รู้จักกัน อยู่กันคนละถิ่นดินแดน
แต่ยามทุกข์-ยามโศก อะไรเล่า จะมีค่าช่วยเยียวยาจิตใจต่อกันได้เท่าน้ำใจไมตรี เป็นสายโยงแห่งเยื่อใยถึงกัน
ยามทุกข์โศก-ทุกข์ยาก “ไทยจะไม่ทิ้งไทย” ด้วยกันเด็ดขาด!
ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง….
ไม่มีสามนิ้ว-ห้านิ้ว ไม่มีพวกเขา-พวกเรา มีไทย “พวกเดียวกัน” จะรักกัน จะไปด้วยกัน สุขด้วยกัน-ทุกข์ด้วยกัน
เราทั้งหลาย จะไม่ “แบ่งแยก-แตกไทย” ออกจากกันไปเด็ดขาด!
ก็ดูซิ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ประกาศ “ขอรับบริจาคเลือด” ด่วน ไม่ทันชั่วโมง
ต้องประกาศขอบคุณและ “ปิดรับบริจาค” เพราะมาบริจาคกันมากมายจนล้น
เห็นมั้ย ถึง “ทีเป็น-ทีตาย”
คนไทย ไม่ว่าสีไหน “เลือดสีเดียวกัน” หมด และเข้ากันได้หมด!
เมื่อวาน ผมก็หวัด ไอ ไข้ขึ้น ขี้มูงโป่ง ยังนึกว่า….เอาละวะ ถูกหวยหางเลขโควิดอีกซะละมั้ง ?
ยังนอนแผ่กับเก้าอี้โต๊ะทำงาน ดูข่าวโทรทัศน์ เขาไปรำลึกเหตุการณ์ ๖ ตุลา.กัน ที่อนุสาวรีย์ ย่านราชดำเนิน
ก็เห็นเรียบร้อย สุโขสโมสรดี ยังแอบดีใจ คิดว่าปีนี้ปลอดโปร่งโล่งตลอด
แต่ก็หนี “ตุลา.อาถรรพณ์” ไปไม่พ้นจริงๆ
แต่ครั้งนี้ ไม่เกิดกับเด็กนักศึกษา ไพล่ไปเกิดกับเด็กเล็ก ประเภท “กินนม-ไกวเปล” นอน ที่หนองบัวลำภูโน่น!
ไม่อยากใช้คำว่า “ตัดเคราะห์-สะเดาะกรรม” ประเทศ แต่ก็ประมาณนั้น บ้านเรา กับเด็กเล็กๆ ด้วยเหตุการณ์ทำนองนี้ ไม่เคยปรากฏมาก่อน
จะเห็นบ่อยก็จากต่างประเทศโดยเฉพาะที่ “สหรัฐฯ” ดินแดนสังคมเครียด พกปืนกันได้ เหมือนพกไม้จิ้มฟัน
และมันค่อยๆ เป็นตัวอย่าง “ลามไปเรื่อยๆ” ให้เกิดการกราดยิงแบบไม่เลือกหน้าตามสถานศึกษา ตามสถานที่สาธารณะ
“สื่อสารออนไลน์”
เปลี่ยนโลก เปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ มันควักสมองและความ “ยับยั้ง-ชั่งใจ” ออกไปจากหัวกะโหลกมนุษย์ยุคนี้ จนกลวงโบ๋!
เหลือแต่ “สัญชาติญาน” ตอบสนองสิ่งเร้าเหมือนสัตว์ป่า ไม่เหลือสติ ไม่เหลือความนึกคิดแยกแยะ นี่คือมนุษย์ยุคทาสไอที
สังคมนี้ “อยู่ยาก” ขึ้นไปเรื่อยๆ การเดินถนนชนิดตัวลีบเจียมตน ไม่มองตา-ไม่สบตาใคร ใช่ว่าจะไม่ตาย!
กรณี เมื่อวาน เครียดจากการถูกไล่ออกจากราชการ นั่นไม่น่าทำให้คลั่งไปฆ่าเด็ก
อยากฆ่า อย่างดี ก็ฆ่าคนในบ้านและตัวเอง
แต่นี่ ไล่ฆ่าดะ และมุ่งไปฆ่าเด็กเล็กในศูนย์ เหตุผลักดันจะเป็นอื่นได้ยาก ถ้าไม่ใช่เพราะ “ยาเสพติด”!
นี่ผมสันนิษฐานเองนะ เห็นนายกฯ สั่งให้ผบ.ตร.ลงไปไต่สวนทวนความในพื้นที่แล้ว
ถึงเจ้าตัวตายแล้ว แต่การสืบเสาะหาสาเหตุจากคนใกล้ชิด คนในครอบครัว ตลอดจนเพื่อนตำรวจ ก็น่าจะประมวลถึงพฤติกรรมนำไปสู่การก่อเหตุได้
ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ยาเสพติด ทั้งหลายนี่ ปราบไม่สิ้นก็จริง แต่ขั้น “ดายหญ้าดิน” ควรเป็นนโยบายหลัก “ล้างบาง” ชนิดเอกซเรย์กันซักที
เอกซเรย์กันลงมาตั้งแต่ระดับ รัฐบาล, พรรคการเมือง, สตช., กองทัพ, สถานศึกษา เรื่อยลงไป ถึงระดับ อบต.กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นั่นก่อนเลย!
เอาให้หัวไม่ส่าย “มีนอก-มีใน” ก่อน หางจะ “กระดิก” ยาก!
และไอ้แบบ “ตัดตอนจบ” แค่จับ นั่นน่ะ
มันยี่เก “ตบตาหาแดก” ก็ขนาดตำรวจติดยาเองจนต้องไล่ออก แล้วจะไม่รู้หรือว่า ตำรวจไปซื้อยาที่ไหนมาติด
เผลอๆ เป็นไปได้มากด้วยซ้ำว่า
“มันค้ายา” ซะเองด้วย!
วันนี้ ศุกร์ที่ ๗ ตุลา.นายกฯ ประยุทธ์สั่ง “ลดธง” ครึ่งเสา เป็นการไว้อาลัยเป็นกรณีพิเศษ ๑ วัน
เพื่อแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
นอกเหนือกว่านั้น…
เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้ ในการนี้ ที่ล้นเกล้า ล้นกระหม่อม “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๑๐
ทรงพระกรุณารับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้ “ประธานองคมนตรี” และองคมนตรีลงไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวทุกผู้สูญเสีย
พร้อมทั้งทรงให้ติดตามสถานการณ์ เพื่อรายงานให้ทรงทราบทุกระยะด้วย
“พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ “ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งลงไปอยู่ในพื้นที่ เปิดเผยให้ทราบ
ประเทศไทยทุกวันนี้…..
มีน้ำหนักที่ทั่วโลกจับตา-สนใจ ชนิด “เข็มตก” เล่มเดียว ก็เป็นข่าวให้ทั้งโลกต้องเหลียวมาดู
ฉะนั้น ไม่แปลก ที่อดีตตำรวจคลั่งยา กราดยิงเด็กถึงในศูนย์เด็กเล็ก จะเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ชนิดที่ บางที-บางแห่ง คนในประเทศ ก็ยังไม่ทันรู้เลยด้วยซ้ำ
เห็นมั้ย…..
บ่ายคล้อยวันเดียวกัน เพจ “UK in Thailand” ของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความ จาก “นางลิซ ทรัสส์”
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ทวีตข้อความ แสดงความเสียใจต่อประเทศไทย และครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า
“ดิฉันตกใจที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในประเทศไทย ดิฉันขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับกระทบทุกคน และส่งความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
สหราชอาณาจักรยืนหยัดเคียงข้างไทยในช่วงเวลาอันน่าหดหู่นี้”
ในนามคนไทย ก็ต้องแสดงความซาบซึ้งและขอบคุณในน้ำใจของ “นายกฯ อังกฤษ” ที่มีต่อไทยและผู้สูญเสียครั้งนี้ด้วย
ไม่เพียงเท่านี้….
ใครจะไปเชื่อว่า ข่าวนี้ จะมีผลกระทบต่อจิตใจในวงกว้าง แม้แต่ในวงการกีฬาฟุตบอลระดับโลก หลายสโมสร ต่างโพสต์เฟซ แสดงความเสียใจ
เช่น สโมสรเชลซี โพสต์ว่า……
“สโมสรฟุตบอลเชลซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดหนองบัวลำภู
เราขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวและเพื่อนของผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้”
สโมสรฟุตบอลลลิเวอร์พูล โพสต์ว่า….
“สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู
ทุกคนที่สโมสรฯ ขอส่งความคำนึงถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้”
สโมสรฟุตบอลท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ โพสต์ว่า….
“สโมสรฟุตบอลท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู
เราขอร่วมไว้อาลัย และส่งกำลังใจให้กับครอบครัว และเพื่อนของผู้ที่ประสบกับเหตุสลดในครั้งนี้”
สโมสรบาเยิร์น มิวนิค เยอรมนี โพสต์เฟซบุ๊กว่า
“ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้บาดเจ็บ และทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดหนองบัวลำภู”
……………………………..
ครับ…..
ขอ “ตุลา.อาถรรพณ์” จบเพียงแค่นี้เถิด!
เปลว สีเงิน
๗ ตุลาคม ๒๕๖๕