“อนุสรณ์” ถาม 30 กันยา คนจนหมดประเทศ หรือจนกันหมดทั้งประเทศ ถามรัฐบาลมองสถานะและบทบาทตัวเองอย่างไร หลัง โจ ไบเดน ไม่มาประชุม เอเปก ในไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเหลืออีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 ถ้ายึดตามคำประกาศของรัฐบาล คนไทยจะหายจน คนจนจะหมดประเทศ
ไม่รู้ว่าระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพ้นไป กับคนไทยจะหายจน อะไรจะเกิดขึ้นได้จริงก่อนกัน IMF ออกมาเตือนเศรษฐกิจโลกถดถอย เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
นอกเหนือจากผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ จีนกับไต้หวัน ปัญหาคู่ค้าสหรัฐ-จีน เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ได้เกิดความผันผวน
หลายปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 นับเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า ปัญหาเงินเฟ้อที่ทุบค่าครองชีพคนไทย รัฐบาลพาประชาชนประคองตัวให้รอดก็ยากมากแล้ว ประกาศหลายรอบจะทำคนจนหมดประเทศ
แต่ยิ่งประกาศคนจนยิ่งเพิ่มขึ้น จากจำนวนคนจน 6 ล้านคน พุ่งขึ้นเป็น 20 ล้านคน แทนที่จะยอมรับว่าเป็นความล้มเหลวรุนแรง รัฐบาลกลับดีใจที่มีคนมาลงทะเบียนคนจนเพิ่มขึ้น นี่ถ้ามีคนลงทะเบียนคนจนทั้งประเทศ จะไม่เฉลิมฉลองใหญ่โตกันเลยหรือ ที่ประกาศหลายรอบ 30 กันยาฯ คนจนหมดประเทศ หรือจนกันหมดทั้งประเทศ
ตราบใดที่รัฐบาลไม่ยอมลดรายจ่ายภาครัฐ แล้วยังกลับไปรีดภาษีกับประชาชน ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผล คนจนจะหมดไปได้อย่างไร
“ประเทศที่มีศักยภาพและเตรียมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจมานานยังไม่ค่อยมั่นใจว่าจะรับมือได้หรือไม่ รัฐบาลไทยที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังต้องลุ้นว่าจะได้ไปต่อหรือต้องพอแค่นี้ จะไหวหรือ” นายอนุสรณ์ กล่าว
อนุสรณ์ ถาม รัฐบาลมองสถานะและบทบาทตัวเองอย่างไร หลัง โจ ไบเดน ไม่มาประชุม เอเปค ในไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่มาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ เพราะติดงานแต่งงานหลานสาว ว่า
มีข่าวว่าทำเนียบขาว แจ้งมายังกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา จะไม่เดินทางมาร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) หรือ เอเปกประจำปี 2022 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. 2565
ทั้งที่สามารถเดินทางมาร่วมการประชุมกลุ่มประเทศที่มีขนาดระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศรวมกับสหภาพยุโรป หรือกลุ่ม G-20 ที่เกาะบาหลี ของอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย. ได้ แต่แทนที่จะเดินทางต่อมาร่วมการประชุม APEC ที่กรุงเทพฯ ประธานาธิบดีไบเดน กลับเดินทางกลับทันที
กรณีนี้รัฐบาลได้มองสถานะ บทบาทความสำคัญของรัฐบาลอย่างไร ทำไมถึงถูกมองข้าม ถือเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับรัฐบาลหรือไม่ เกี่ยวข้องกับการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ถึง 2 ปี 6 เดือน หรือไม่ ถ้าไม่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนตั้งแต่แรก ประเทศอื่นอาจลดความกังวลใจและสามารถมาร่วมประชุมเอเปกได้มากขึ้นหรือไม่
“การคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นานๆ ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชน ทำลายความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ทำลายภาพลักษณ์ประชาธิปไตย ทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลติดลบ ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ” นายอนุสรณ์ กล่าว