คลายข้อสงสัยความปลอดภัยในการใช้อีวอลเล็ทที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน

คลายข้อสงสัยความปลอดภัยในการใช้อีวอลเล็ทที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน

ผู้นำอีวอลเล็ทแนะ มีสติ ตรวจสอบให้ชัดเจน ลดความเสี่ยงสูญเงิน

เทคโนโลยี e-Payment หรือ e-Wallet นั้น เกิดขึ้นและให้บริการในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปีแล้ว ปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่เป็น Bank และ Non-Bank หลายราย ผ่านช่องทางหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น internet / mobile banking หรือแอปพลิเคชั่น e-Wallet ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย แม้รูปแบบการให้บริการเหล่านี้จะได้รับความนิยมสูงและมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่เจ้าของบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บางรายยังมีความกังวลใจเมื่อมีข่าวการถูกหลอกลวงฉ้อโกงเกิดขึ้น โดยปัจจัยด้าน “ความปลอดภัย” และ “ความเข้าใจ” ในการใช้งานอย่างถูกต้องนั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องรณรงค์ให้ความรู้แก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยสถิติล่าสุด ระหว่างปี 2561 – 2562 มีคนไทยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมการล่อลวงบนโซเชียลสูงเกือบ พันราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.1 พันล้านบาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลาย ๆ กรณีที่กำลังเกิดขึ้น โดยเทคนิคที่มิจฉาชีพนิยมใช้มากที่สุดและได้ผลกับคนไทยที่สุด คือ การฟิชชิ่ง (Phishing) สร้างเว็บไซต์ปลอม โปรไฟล์ปลอม หรือสวมรอยโดยใช้รูปปลอมบนโซเชียล หรือโพสต์ข่าวปลอม เพื่อปั่นหัวและนำข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายไป log-in และทำธุรกรรมโดยที่ผู้เสียหายไม่รู้ตัวหรือยินยอม และสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้ใช้บริการว่าการใช้ e-Wallet มีความเสี่ยง

ขั้นตอนที่คนร้ายใช้หลอกลวง

ขั้นตอนที่ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ กุข่าวปลอม หรือ สร้างเว็บปลอม หลอกให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียน ส่งข้อมูลส่วนตัวให้

ขั้นตอนที่ 2 จากนั้นมิจฉาชีพจะใช้เทคนิคหรือกลโกงรูปแบบต่าง ๆ เพื่อล่อลวงเหยื่อ กลโกงที่มิจฉาชีพมักจะนำมาใช้ เพื่อล่อลวงเหยื่อ เช่น 1. หลอกขายสินค้า Online  2. หลอกยืมเงิน/โอนเงินช่วยเหลือ (Hack Facebook, Hack LINE 3. หลอกเงินกู้ เงินด่วน 4. หลอกว่าได้รางวัลใหญ่

ขั้นตอนที่ 3 ในขั้นตอนนี้ หากผู้ใช้บริการเผลอให้ข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัตร ATM, รหัส ATM หรือรหัส OTPมิจฉาชีพก็จะใช้ข้อมูลดังกล่าวในทางมิชอบ จนเกิดความเสียหายตามมา

ซึ่งตรงนี้เองจะเห็นได้ว่า ความผิดพลาดในอันดับต้น ๆ คือการขาดความเข้าใจรู้เท่าทันกลโกงของผู้ทุจริต จนนำมาซึ่งการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินแก่กลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในการทุจริต หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของข้อมูล 

ความปลอดภัยใน e-Wallet มีอะไรบ้าง

จากที่กล่าวมาจนถึงตอนนี้คงทำให้หลายท่านสงสัยว่าแล้วระบบความปลอดภัยของ e-Wallet นั้นพัฒนาไปถึงไหนและสามารถปกป้องผู้ใช้บริการได้แค่ไหน และถ้าปลอดภัยจริงทำไมยังมีข่าวถูกล่อลวงซ้ำ ๆ ได้ ซึ่งแท้จริงแล้วระบบความปลอดภัยของ e-Wallet ได้ผ่านข้อกำหนดของมาตรฐานความปลอดภัยในระดับที่สูงตามที่อุตสาหกรรมทางการเงินให้การยอมรับ อีกทั้งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยเฉกเช่นสถาบันทางการเงินที่สำคัญอื่น ๆ ระบบได้มีการเข้ารหัสด้วยอัลกอริทึม การเข้ารหัสชั้นสูงสำหรับข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต และอื่น ๆ อีกทั้งในระหว่างการทำธุรกรรมจะมีการใช้รหัสเฉพาะขึ้นมาในแต่ละชุดแบบสุ่มไม่ซ้ำกัน

โดยระบบความปลอดภัยของ e-Wallet ได้แก่

  • ปลอดภัยด้วยระบบการยืนยันตัวตน เป็นการสร้างความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ หรือเจ้าของบัญชี e-Wallet เพื่อป้องกันบุคคลอื่นมาแอบอ้างตัวตน โดยผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการใช้บริการทางการเงินที่ต้องการตามระดับการยืนยันตัวตนที่เหมาะสม  สำหรับการยืนยันตัวตนนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การ Identify (ระบุตัวตน) ด้วยการกรอกข้อมูล อาทิ ชื่อ-นามสกุล อีเมล เลขบัตรประชาชน หรือเบอร์มือถือ พร้อม Verify (พิสูจน์ตัวตน) อาทิ กรอก OTP ที่ส่งมาทางมือถือเพื่อยืนยันเบอร์มือถือ การตรวจสอบเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ อาทิ หน้าตาว่าตรงกับบัตรประชาชนหรือไม่ โดยใช้เจ้าหน้าที่ หรือเทคโนโลยีชีวมิติ (biometrics) เช่น การสแกนใบหน้า ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการ e-Wallet ชั้นนำได้นำมาใช้กันแล้ว โดยการยืนยันตัวตนด้วยวิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยมอบความอุ่นใจ ความสะดวกสบายในการใช้บริการ รวมถึงช่วยปกป้องบัญชี และข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี
  • ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสในทุกข้อมูลที่กรอก หลายท่านรู้สึกไม่สบายใจกับการต้องกรอกข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เพื่อใช้ยืนยันตัวตนหรือเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการใช้บริการ แต่ผู้ใช้บริการ e-Wallet สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญของท่านได้ถูกเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด
  • ปลอดภัยในการทำธุรกรรม และตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางบัญชีได้เสมอ สำหรับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ใน e-Wallet ผู้ใช้บริการจำเป็นต้องทำการ log-in เพื่อเข้าใช้งานก่อนเสมอ ซึ่งระบบความปลอดภัยในส่วนนี้ e-Wallet ได้กำหนดให้จำเป็นต้องมีการกรอก Password, Pin, OTP และรวมถึงข้อมูลชีวมาตร (Biometrics) เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือของผู้ใช้บริการ หรือเจ้าของบัญชีเท่านั้น ที่เป็นผู้กำหนดและตั้งค่าด้วยตนเอง นอกจากขั้นตอนการเข้าใช้งานบัญชีแล้ว ขั้นตอนการทำธุรกรรม ก็มีความปลอดภัยเช่นกัน โดยจะมีระบบ Risk control, Risk system และ Authentication รูปแบบต่าง ๆ เช่น การขอให้ใส่รหัส Pin หรือ OTP ก่อนการโอนเงิน เป็นต้น ผู้ใช้บริการยังสามารถตรวจสอบรายการ (Transaction History) ได้แบบทันที (online real time) จากในแอปฯ ทั้งนี้ หากได้รับข้อความเตือนแปลก ๆ ผ่านช่องทาง e-mail หรือ SMS หรือได้รับ OTP จากช่องทางใด ๆ เข้ามา เราไม่ควรรีบกดรับ หรือแจ้งรหัส OTP ที่ได้รับให้ผู้อื่นทราบ ตั้งสติให้ดีหากเราไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ ตามที่ได้รับแจ้ง อาจเป็นไปได้ว่ามีใครได้ข้อมูลส่วนตัวของเราไปและพยายามเข้าถึงบัญชีของเรา
  • ปลอดภัยด้านการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Protection) ผู้ให้บริการตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวและความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการจะจัดเก็บและนำข้อมูลไปใช้เท่าที่จำเป็นภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้บริการ หรือตามที่กฎหมายกำหนด
  • ปลอดภัยด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ (Accountability) ที่คอยดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างทันท่วงที ซึ่งเบื้องหลังแล้ว ผู้ให้บริการ e-Wallet มีทีมผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในด้านการรักษาความปลอดภัยระบบไอที การรักษาจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนหน่วยงานบริหารความเสี่ยง หน่วยงานป้องกันและตรวจสอบทุจริต นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานงานร่วมกับองค์กรภายนอกต่าง ๆ อาทิ สถาบันการเงินหรือหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ ในการวางแผนและออกแบบระบบที่ครอบคลุมและรัดกุม พร้อมทีมคอยมอนิเตอร์การใช้งานที่ผิดปกติ รวมถึงคอลเซ็นเตอร์ที่พร้อมให้บริการตอบข้อสอบถามและประสานงานช่วยแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ทรูมันนี่ ประเทศไทย ในฐานะหนึ่งในผู้นำบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ในประเทศไทย ห่วงใยผู้ใช้บริการและไม่ต้องการให้ใครก็ตามต้องกลายเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกลวงเอาข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ขอนำเสนอวิธีรับมือกับความเสี่ยงของการหลอกลวงที่พบได้บ่อยบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ปรับตัวและรู้เท่าทันภัยออนไลน์ โดยต้องระลึกไว้เสมอว่า “สติ” ต้องอยู่คู่กับ “สตางค์” เสมอ ดังนี้

สร้างเกราะป้องกันภัยล่อลวงล้วงข้อมูลที่ใกล้แค่เอื้อม

เข้าข่ายเสี่ยงต่อการถูกหลอก

  • ข่าวแชร์ต่อ ๆ มาในโลกออนไลน์ โดยไม่ทราบแหล่งที่มาที่แน่ชัดแนว Clickbait พาดหัวเกินจริง หรือ พวกอีเมลประหลาด ๆ ให้พึงระวัง
  • เพื่อนที่ไม่สนิท (หรือมิจฉาชีพปลอมตัวมา) ไม่เคยคุยกันเป็นปีอยู่ ๆ “สวัสดี ชวนคุย สร้างเรื่องดราม่า และยืมเงินหน่อย”
  • ขอข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป โดยอาจอ้างว่าเป็นข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้สำหรับให้ได้ซื้อสินค้าในราคาแสนถูก หรือ จะได้รับรางวัลพิเศษกว่าใคร เช่น ขอเลขที่บัญชีธนาคารหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขหลังบัตรประชาชนวันเดือนปีเกิดหมายเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ รวมถึง CVV/CCV, รหัส OTP, หมายเลขบัตรเอทีเอ็ม หรือแม้แต่รหัสเอทีเอ็มหรือรหัสหรือพาสเวิร์ดเข้าแอคเคาท์ต่าง ๆ
  • ชวนลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก พวกแชร์หรือกองทุนออนไลน์ อะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะเงินกู้ออนไลน์ เงินด่วนทันใจ
  • โซเชียลไม่ต้องรู้ทุกเรื่องของเรา ทั้งเรื่องการแชร์ location, แชร์เรื่องราวส่วนตัวแชร์จุดอ่อน-จุดแข็งของตนเอง หรือทรัพย์สมบัติ ฯลฯ ควรแชร์เท่าที่จำเป็น เพราะอาจเปิดช่องให้ผู้ประสงค์ร้ายรับรู้ความเป็นเราได้
  • ไม่เข้าเว็บไซต์ที่สุ่มเสี่ยง อาทิ เว็บพนันออนไลน์ ดูหนังผิดลิขสิทธิ์ เพราะอาจมีพวกไวรัสที่เข้ามาเก็บข้อมูลความลับหรือล้วงรหัสผ่านต่างๆ

วิธีการรับมือ

  • ตั้งสติ ไตร่ตรองให้ดี ไม่หลงเชื่อข่าวหรือข้อมูลอะไรง่าย ๆ แม้จะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักแชร์มา ควรตรวจสอบแหล่งที่มา และความน่าเชื่อถือของข่าวก่อนเสมอ โดยเฉพาะข่าวชวนบริจาคเงินร่วมกับคนดัง ๆ
  • โละเพื่อนบนโซเชียลมีเดียที่ไม่รู้จักแต่มาขอแอด หรือออกจากกลุ่มปิดบนโซเชียลที่ไม่มีการอัพเดตสเตตัสบ้าง วิธีการพิจารณาง่ายมาก เพียงดูจาก timeline หรือเพื่อนคนไหนเพิ่มมาไม่เคยคุยและหน้าไม่คุ้นก็ delete เพื่อความปลอดภัย แต่ถึงแม้เห็นหน้าเป็นคนสนิทก็อย่าได้ไว้ใจ เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวหรือไปแฮ็กแอคเคาท์ใครมา หากได้รับข้อความยืมเงินหรือขอข้อมูลส่วนตัวแม้จากคนใกล้ชิด ก็ควรโทรสอบถามว่าใช่เจ้าตัวจริง ๆ ก่อนตัดสินใจทำอะไร
  • อย่าจ่ายเงินให้ผู้ขายที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน หากยังไม่ได้รับของและควรตรวจสอบดูจนมั่นใจในคุณภาพตามที่โฆษณา ยุคนี้ใครได้ของดีและถูก เหมือนถูกหวย หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ขอให้เราโอนเงินก่อน โดยเห็นแต่รูปสินค้า ก็ควรตรวจสอบที่มาให้ชัดเจน และหากมีการขอข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ให้ระมัดระวังอย่างมาก และพึงระลึกไว้เสมอว่าไม่ควรให้ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงิน เช่น รหัสเอทีเอ็มหรือพาสเวิร์ด หรือ PIN เพื่อเข้าแอคเคาท์ใด ๆ รวมทั้งไม่เปิดเผยรหัส OTP ที่ได้รับให้ใครเด็ดขาด
  • นอกจากนี้ พึงระลึกไว้ว่าผู้ให้บริการอีวอลเล็ทและสถาบันการเงินส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายในการติดต่อลูกค้าเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินของลูกค้า เช่น การขอข้อมูลผ่านช่องทาง SMS หรืออีเมล หากผู้ใช้บริการพบความผิดปกติ หรือต้องการความช่วยเหลือ (support) ในการใช้บริการควรติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของผู้ให้บริการอีวอลเล็ท หรือสถาบันการเงินนั้น ๆ โดยตรง
  • ไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่ ระลึกไว้เสมอว่าไม่มีอะไรที่เราจะได้มาง่าย ๆ โดยที่ไม่ออกแรงทำอะไรเลย ดังนั้นพวกที่ทำมาเสนอเงินฝาก เงินออมนอกระบบโดยให้ดอกเบี้ยสูงปรี๊ด รับปากลงทุนแทนเอาผลกำไรให้ พร้อมโพสต์โชว์เงิน รถหรูต่าง ๆ โดนไม่รู้ว่าทำงานอะไร เราไม่ควรยุ่งเกี่ยว และให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินของตนเองกับบุคคลเหล่านี้เด็ดขาด
  • เพราะการระบายอะไรก็แล้วเเต่บนโซเชียลมีเดียหรือแม้แต่เช็คอินตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากมิจฉาชีพจะรับทราบพฤติกรรม ความเป็นไป สถานที่ที่เราชอบไป หรือแม้แต่ที่อยู่ของเราแล้ว พวกไม่ประสงค์ดีเหล่านี้มักแฝงตัวมาในคราบคนดี หลอกให้รัก หลอกให้สงสาร หรือสร้างเรื่องราวเป็นตุเป็นตะ เพราะคนพวกนี้มักแอบเก็บข้อมูลจากสิ่งที่เราแชร์เพื่อวางแผนและหาทางใช้กลโกง ดังนั้นการบอกให้โลกรู้เสมอว่าคุณไม่ได้อยู่บ้าน อาจเป็นการเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพที่จ้องอยู่อาจจะมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน และขโมยทรัพย์สินได้
  • ระมัดระวังรักษาความปลอดภัยของแอคเคาท์ที่ใช้เชื่อมต่อทางการเงินต่าง ๆ อาทิ อีเมล บัญชีวอลเล็ทหรือบัญชีธนาคารออนไลน์ ฯลฯ โดยหมั่นเปลี่ยนแปลงรหัสผ่าน หรือ Password เป็นประจำ และใช้ตัวอักษรทั้งพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ เพื่อเพิ่มระดับความยากในการเจาะรหัสผ่านบัญชีโซเชียล อีกทั้งเปลี่ยนรหัสหรือ Password ทันทีเมื่อสงสัยว่ามีผู้อื่นทราบรหัสหรือ Password ของเรา

โลกของเรามีสองด้านเสมอทั้งด้านมืดและด้านสว่าง เปรียบดั่งเทคโนโลยีที่มักมีผู้นำไปใช้ในทางที่ดีและในทางที่ผิดอยู่ตลอดเวลา ยิ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีมากเท่าไร สติและการคิดไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ของเราเองก็ควรเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เพราะไม่ว่าระบบจะมีความปลอดภัยสูงแค่ไหน แต่หากเรายังยื่นกุญแจหรือกระเป๋าเงิน (รหัสผ่านข้อมูลส่วนตัวเลขที่บัญชีธนาคาร) ให้กับมิจฉาชีพอย่างง่ายดาย ก็เสมือนว่าเราเป็นผู้เชื้อเชิญให้คนเหล่านี้เข้ามาสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของเราเอง

ทรูมันนี่ มีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกท่าน กรณีพบพิรุธหรือความผิดปกติเกี่ยวกับบัญชีของคุณ สามารถติดต่อ TrueMoney Customer Care เบอร์ 1240 หรือ Call Center ธนาคารเจ้าของบัญชีท่านได้ตลอด 24 ชม. หรืออ่านเงื่อนไขการให้บริการเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/terms-conditions/

Written By
More from pp
ฟู๊ดเดลิเวอรี่ บาย สินธร เคมปินสกี้ (Food Delivery by Sindhorn Kempinski) เพิ่มช่องทางความอร่อยส่งตรงจากโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ถึงบ้านคุณ 
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยส่งตรงให้คุณ ทุกที่ ทุกวัน กับโปรโมชั่น “ฟู๊ดเดลิเวอรี่ บาย สินธร เคมปินสกี้”  (Food...
Read More
0 replies on “คลายข้อสงสัยความปลอดภัยในการใช้อีวอลเล็ทที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน”