เปลว สีเงิน
คนไทยเนี่ย….
เหมือน “ต้มยำ” เห็นน้ำใสๆ ไปคนละทาง-สองทางอย่างนั้นเถอะ แต่ถ้าได้ซดเมื่อไหร่ละก็
แทบสำลัก!
เข้มข้น-จัดจ้าน ทั้ง หอม หวาน มัน เค็มนิด เปรี้ยวจี๊ด เผ็ดจี๋ แต่กลมกล่อม “ลงตัว” เด็ดสะระตี่ เป็น “รสไทย” ใครเอาหมูหัน หรือสเต๊กมาแลก ก็ไม่ยอม
กรณี บริษัท อีคอมเมิร์ซ LAZADA แหล่งรวมสินค้าออนไลน์ระดับโลก เป็นตัวอย่าง
เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย กลับไม่รู้รสต้มยำไทย ทำการตลาดด้วยโฆษณาก้าวล่วงสถาบัน คงด้วยประเมินในทางต่ำว่า
ยุค “คางคกสามนิ้ว” ขึ้นวอ……..
คนไทยคงเจือจางในสถาบัน ทำโฆษณาล้อเลียนในแนวนี้ น่าจะเข้าทาง-เข้ายุคคนรุ่นใหม่ ที่เป็นตลาดลูกค้าใหญ่ของเขา
ผลปรากฏ LAZADA ไม่พังหรอก เพราะเขาใหญ่
แต่บอกแล้วมิใช่หรือ ว่าคนไทยเหมือน “ต้มยำ”
ธุรกิจนอกชาติ-ในชาติ ไม่ว่าคนสัญชาติไหนบริหาร ที่จะคิดยกซดคล่องคอเหมือนแกงจืด
ก็ต้อง “สำลักพรวด” อย่างนี้แหละ!
ก็ให้มันรู้ซะบ้าง ว่าคนไทย “ไม่ง่าย” อย่างที่คิดหรอก
ที่เห็นว่า “เงินซื้อ” ได้ ก็แค่ “บางคน-บางพวก” เท่านั้น ซึ่งเหมือนกันทั้งโลก ย่อมมีเศษเดนสัตว์นรกมาเกิดปะปน
ก่อนอื่น ควรจะรู้ว่า แพลตฟอร์ม LAZADA นั่นน่ะ กำพืดมาจากไหน?
เดิมเป็นธุรกิจเครือบริษัทสัญชาติเยอรมัน เข้ามาตั้งในไทย-ในอาเซียน เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์
ปี ๒๕๕๙ “อาลีบาบา กรุ๊ป” เจ้าพ่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซใหญ่ของจีน เข้าซื้อกิจการลาซาด้า ยกห้างสรรพสินค้าทั้งโลกเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์ม ให้กลุ่มอาเซียน เลือกซื้อ-เลือกสั่งกันได้ผ่านทางหน้าจอมือถือ
บริษัท Lazada ประเทศไทย นี่ ตอนแรกประธานฝ่ายบริหารเป็นฝรั่ง “นายอเล็กแซนดรอ บิสชินี”
เขาเคยแถลงว่า……..
Lazada Thailand มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ๑ ล้านคน/วัน มี ๓๐% เป็นกลุ่มผู้ซื้อจริง
แต่ปัจจุบัน คนจีนปักกิ่ง เป็นประธานบริหาร ส่วนย่อยๆ ลงไป ก็คนไทยเรานี่แหละ
ที่ผมอยากคุยวันนี้ อยากคุยในแง่มุมปฏิกริยาสังคมไทยว่าเป็น “ปรากฎการณ์” ที่น่าจับตาและน่าสนใจอย่างยิ่ง
คือทุกคนรู้ ว่าในรอบ “ทศวรรษ” นี้
มีคนกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยกลุ่มทุนนักธุรกิจ กลุ่มนักวิชาการ จาน’มหาลัย และกลุุ่มการเมืองใน “คอกหมา”
ประสานประโยชน์กับจักรวรรดิอำนาจตะวันตก ที่ใช้องค์กรทางสังคมและการศึกษาบังหน้าในปฏิบัติการ เช่น NGOs, NED, Human Right เป็นต้น
ร่วมมือกับกลุ่มดังกล่าวข้างต้น สร้างกระแสปลุกระดม “รุ่นใหม่ ไม่เอาเจ้า”
มุ่งสู่การ “เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน” ซอยแบ่งราชอาณาจักรไทยเป็นระบบ “สาธารณรัฐ” แบ่งกันไปครอง
ล้ม “สถาบันพระมหากษัตริย์”
แล้วสถาปนาระบบ “ประธานาธิบดี” ขึ้นมาแทน
จึงเห็นว่า ๓-๔ ปีมานี้ บนการประสานขบวนการล่มชาติทั้งในและนอกชาติ ที่ใช้เยาวชน-นักศึกษา และนักการเมืองแดง-ส้ม เป็นตัวหมากเดินเกม
โหมหนักมาก ……..
รุนแรงทั้งปฏิบัติการในสภา-ในถนน ไม่เว้นกระทั่งสถาบันศาล ก็ยังถูกขบวนการรุ่นใหม่สามนิ้ว เหยียบย่ำ หยามเย้ย ถึงหน้าบัลลังก์ พังทำลาย ละเลงหยาบคายใส่ป้ายชื่อศาล
ซึ่งไม่เคยปรากฏว่ามีใคร-ยุคไหน เคยกระทำบังอาจเช่นนี้มาก่อน นับแต่มีประเทศไทยมา
มันรุนแรงทั้งบิดเบือนข่าวสาร สร้างกระแสเท็จแปลเป็นภาษาอังกฤษ รับ-ส่งกันเป็นทอดๆ เป็นสังคมข่าวลวง “ตีล้อมไทย”
ลำพัง “รัฐบาล” ฝ่ายเดียว ถึงแม้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
จะผนึกแน่นในการควบคุมสถานการณ์รักษาชาติบ้านเมืองก็เถอะ
ถ้ามีแต่คน “รักชาติ-รักสถาบัน” อยู่แต่ในที่ตั้ง ใครจะขึ้นช้าง-ลงม้าอย่างไร จ้วงจาบหยาบช้าสถาบัน-ล่มชาติ ขนาดไหน?
กู “ไทยเฉย” อย่างเดียวละก็
ไม่มีคน “รักชาติ-รักสถาบัน” กลุ่มหนึ่ง ออกมาต้านสู้ ด้วย หัวจิต-หัวใจ อย่างที่เห็น
ป่านนี้ “เสร็จไอ้สามสัส” กับพวกไอ้จานจัญไร ไปนานแล้ว!
เพราะลำพังเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วย “กฎ-กรอบ-กติกา” มันมัดมือ-มัดเท้า จะทำอะไรกับ “พวกมากลากไป” เฉพาะหน้าได้ไม่ถนัดหรอก
ยิ่งมาเห็นชัดวันนี้-ตอนนี้ กรณี โฆษณาแพลตฟอร์ม LAZADA ทำให้อบอุ่นใจ มีความมั่นใจมากขึ้นว่า
ต่อให้ลูกหลานไทยเข้าสู่ระบบ “รุ่นใหม่” อีกกี่ร้อยรุ่น-พันรุ่น ก็ไม่ต้องห่วงว่า ใครจะ “ล่มชาติ/ล้มสถาบัน” ไทยเราไปได้
เพราะ “เนื้อแท้” แล้ว………
ไทยขายชาติ กับไทยเฉย และไทยคอยฉกฉวยโอกาส ที่เราเห็น มันมีตามวิสัย “สัตว์นรกมาเกิด” กระหย่อมหนึ่งเท่านั้น
แต่โดยมนุษย์แก่นไทย…….
คนรักชาติ-บ้านเมือง จะเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาจะออกมาป้องชาติ-ป้องสถาบัน ด้วยใจมันสั่งมา โดยไม่มีใครต้องนัดหมาย
“เลือดไทย” นั่นแหละ มันไหลออกมาผนึกรวมกันเอง!
อย่างกรณี LAZADA ด้วยใจ “รักชาติ-รักสถาบัน” สั่งมา เมื่อโฆษณาชิ้นนั้นปรากฏ
ก็ “ภาคประชาชน” นี่แหละ โดดออกมาเป็นแนวหน้ากล้าตาย พิทักษ์เข้มแข็ง
-ศชอ.”ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด Bully ทางสังคมออนไลน์
-ศ.ป.ป.ส. “ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน”
-อาชีวะปกป้องสถาบัน
-สุริโยทัย
-ปภส. “ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน”
-อนุชนพิทักษ์สถาบัน
-สคร. “เครือข่ายสังคมออนไลน์รับใช้แผ่นดิน”
-คคร. “เครือข่ายคนออนไลน์รับใช้แผ่นดิน
-รู้ทันโลกออนไลน์
๘-๙ กลุ่มเหล่านี้ นำหน้าออกมาก่อน “พวกข้ายอมไม่ได้” ที่จะให้ แก๊งนารา เอเจนซี่ และ ลาซาด้า ร่วมกันทำโฆษณา จ้วงหยาบ หยามหมิ่น ต่อบุคคลในสถาบันแบบนั้น
จากนั้น ร่วมกันทำหนังสือไปประท้วงถึง บริษัท ลาซาด้าไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการตามกฎหมาย ตอบโต้ทางโซเชียลออนไลน์
ปฏิบัติการนั้น ปลุกคนไทยลุกขึ้นมาร่วมปกป้องสถาบันทั้ง กลุ่ม องค์กร และบุคคล เกิดเป็นกระแสร้อน
พร้อมใจกัน……
“ปิดบัญชี” สั่งซื้อสินค้าจากลาซาด้า หยุดขายสินค้าทางแฟลตฟอร์มลาซาด้า!
ก็อย่างที่บอก ลาซาด้า “ใหญ่” เกินกว่าแค่ปิดบัญชีจะล้มธุรกิจเขาได้
แต่สิ่งที่คนไทยแสดงออก นั่นต้องการส่งสัญญานไปถึง LAZADA ว่าแบรนด์นี้ ล้มละลายทางศรัทธาจากคนไทยแล้ว
เพราะ LAZADA ทั้งเหยียบย่ำหัวใจคนไทย ทั้งไม่แคร์ความรู้สึกคนไทย ทั้งไม่รับผิดชอบในผิดมหันต์นั้น
ในขณะเดียวกัน…….
คล้ายพอใจกับผลงานการโฆษณาด้วยเนื้อหาชิ้นนั้นด้วยซ้ำ!
ก็เพราะเขาใหญ่เกินแคร์ลูกค้านั่นแหละ ผมจึงบอกเขาไม่สะเทือน แต่ปรากฏการณ์ “สังคมพร้อมใจ” เช่นนี้ ผมกลับเห็นคุณค่าเอนกอนันต์
เป็นนิมิตหมาย “ยั่งยืน-มั่นคง-ดำรงไทย” เป็นที่ปลื้มใจยิ่งนัก!
เพราะพิสูจน์แล้ว-เห็นแล้ว เมื่อถึงเวลา “คนไทย” จะออกมาทำหน้าที่ รับมือกับปัญหาด้วย “สติ-ปัญญา” มิใช่เอะอะ “ใช้กำลัง” แบบบ้าคลั่ง ป่าเถื่อน
เมื่อประชาชนทำหน้าที่ รัฐบาลทำหน้าที่ ผู้รักษากฎหมายบ้านเมืองทำหน้าที่
“ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” ก็ไม่มีอันใดต้องห่วง
ที่ห่วงขณะนี้ ห่วง “องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ” อยู่แห่งเดียว
คือ ในขณะที่ ทั้งบ้าน-ทั้งเมือง เขาออกมาทำหน้าที่
มีแต่ “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” เท่านั้น ที่เฉยเมย ไม่รู้สึก-รู้สา ต่อเนื้อหาโฆษณาของ LAZADA
ไม่ออกมาปกป้องสิทธิมนุษยชนคนพิการที่ถูก Bully ตาม “หน้าที่” เลย
เปลี่ยนชื่อเป็น “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเฉพาะคน ๓ นิ้ว” ซะเลย ดีมั้ย?
จะได้ตรงกับเนื้องานที่ทำ!