เปลว สีเงิน
มีประเด็นที่อาจ “ไร้สาระ” แต่ผมอยากนำมาคุยกันในวันที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับท่าน
ถ้าท่านมีธุระอะไร…….
ก็เชิญไปทำธุระตามสบาย อย่ามาเสียเวลาอ่านในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องซักเท่าไหร่ในวันนี้เลย!
หัสเดิมเริ่มเรื่อง ก็มาจากที่ผมได้อ่านข้อความนี้ในเฟซ
……………………….
“กลุ่มทะลุวัง ทั้ง ๔ คน โดนตัดความช่วยเหลือจากครอบครัวหมดแล้ว ตนก็ใช้เงินตัวเองอย่างเดียว และก็จะหมดในเดือนนี้
พลอยก็โดนครอบครัวตัดขาดมา ๒ ปีแล้ว
บุ้งก็ถูกครอบครัวตัดขาด
ใบปอก็โดนพ่อแม่เฉดหัวออกจากบ้าน
เพราะพ่อแม่ใบปอเป็นสลิ่ม”
เมนู สุพิชฌาย์
แกนนำกลุ่มทะลุวัง
๓ พค.๖๕
……………………………..
เห็นชื่อกลุ่ม เข้าใจว่าทุกท่านพอนึกออกว่าเป็นพวกไหน ทำอะไร เพื่อเป้าหมายใด ภายใต้การปลุกปั่น-ล้างสมองเด็ก แล้วใช้สื่อทุกรูปแบบปลุกปั้นให้เด็กเป็นไอดอล-ดาวเด่นของคนรุ่นเดียว-วัยเดียวกัน
ก็ “รุ่นใหม่สามนิ้ว” นั่นแหละ
เป้าหมายเดียวจากการใช้เด็กเป็นเครื่องมือ คือสร้างกระแสลบหลู่สถาบันให้ปรากฏต่อสาธารณะ
โดยขบวนการ “จานและสามสัส” มีฝ่ายครีเอทรูปแบบหมิ่นแคลนสถาบันให้เด็กนำไปเคลื่อนไหวในแต่ละครั้ง
ด้วยความที่เป็นขบวนการผู้มีวิชาการทุกด้านสุมหัว โดยเฉพาะด้านกฎหมาย รูปแบบการหยามหมิ่นสถาบันจะออกมาในลักษณะ “เลี่ยงบาลี”
เพื่อไปอ้างข้างๆ คูๆ ในศาล โดยเฉพาะตอนยื่นขอประกันตัว
ในระยะเดือน-สองเดือนมานี้ จะสังเกตเห็นว่า เด็กที่เป็นเครื่องมือขบวนการล้มเจ้า จะทะยอยถูกศาลถอนประกันบ้าง ไม่อนุญาตให้ประกันบ้าง พูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ
ศาลท่าน “เอาจริง”!
ที่ว่า “เอาจริง” ไม่ใช่ว่าที่ผ่านๆ มาไม่เอาจริง แต่หมายถึงว่า พวกที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวหลายๆ รายอย่างที่เห็นตามข่าวช่วงนี้
เพราะ เคยถูกจับขึ้นศาลมาก่อนแล้ว และศาลเมตตาให้ประกันตัวไปแล้ว โดยมีเงื่อนไขประกัน หลักๆ คือ ห้ามไม่ให้ไปกระทำผิดอย่างที่เคยทำซ้ำอีก ซึ่งเจ้าตัวก็รับปากต่อศาล
แต่พอให้ประกันออกไป แทนที่ประพฤติตัวอยู่ในกรอบเงื่อนไขประกัน เหมือนอย่างเพนกวิ้น หรือรุ้ง
กลับไปทำผิดซ้ำเหมือนเดิมอีก!
เมื่อตำรวจจับได้อีก ตำรวจก็ยื่นคัดค้านการประกันบ้าง บางรายก็ถอนประกันบ้าง
ศาลท่านดูแล้ว ก็พบว่าผิดเงื่อนไขตามที่รับปากไว้แต่แรกจริงๆทั้งนั้น คือไม่เข็ดหลาบ ปล่อยไป ก็จะไปทำเหมือนเดิมอีก
สรุป เมื่ออยากลองดี -ก็เจอดี
ได้กลับเข้าคุกระหว่างคดีเป็นแถวๆ ทำเอาพวกที่เคยย่ามใจ เฮ้ย…ไม่เป็นไร ศาลใจดี เดี๋ยวก็ให้ประกัน ทนายสิทธิฯเราก็มี เงินลงขันคอยประกันพวกเราก็มี จะกลัวอะไร แล้วก็ไปเย้วๆ หยาม-หมิ่น กันอีก
ตอนนี้เริ่มจ๋อยเหี่ยวไปตามๆ กัน!
จะสังเกตเห็นว่า ที่เปลี่ยนหน้าเป็นพวก “รุ่นทะลุวัง” ออกมาเคลื่อนไหวระยะนี้ เขาจะใช้เด็ก อย่างมากอายุไม่เกิน ๑๘ เป็นเกณฑ์
เพราะอะไร?
เพราะพอเด็กถูกจับ ขึ้นศาล ด้วยเงื่อนไขเยาวชน ก็หวัง “ตีตั๋วเด็ก” นั่นแหละ!
และเด็กพวกนี้ ใช่ว่าเด็กกิน-เด็กเที่ยวนะ เป็นเด็กมีการศึกษา อยู่ในครอบครัวเรียกว่าปานกลางถึงระดับบน อย่าง “เมนู สุพิชฌาย์” ที่โพสต์ข้อความนั้น อยู่ทางเหนือ มีการศึกษา พวกขบวนการเขามีอยู่แทบทุกสถาบันศึกษา ก็จะคอยจับตาว่า เด็กคนไหนมีแวว “แนวกิจกรรม”
ก็จะเข้าไปล้างสมองตามวิธีการของเขา แล้วปั้นให้ดัง ธรรมชาติของวัยรุ่น อยากเด่น อยากให้คนสนใจ อยากได้รับการยอมรับอยู่แล้ว
พวกจานแก๊งสามสัส ก็ยกยอปอปั้น ปรนเปรอ ให้เป็นรุ่นใหม่ “อุดมการณ์ล้มเจ้า”
และหนุ่ม-สาว “วัยแตกเปลี่ยว” เหมือนช้างตกมัน ถ้าพ่อแม่ไม่ดูแลใกล้ชิดแต่เล็กๆ ยากจะเอาอยู่ เด็กจะไปเข้าพวก-เข้าหมู่ ขลุกอยู่ในกลุ่มเดียวกันแทนบ้าน
เมื่อแก๊งสามสัส ปรนเปรอให้ทุกอย่าง แลกกับการเชิดชูในทางหลอกใช้ เด็กวัยนี้ก็เพริด..เตลิดเปิดเปิง
จากทะลุวัง
ทะลุ “เข้าคุก-เข้าตะราง” สมองที่ถูกล้าง ก็ยังหลงว่านี่คือ เส้นทางวีรบุรุษ-วีรสตรี “สิทธิมนุษยชนสามนิ้ว”!
“ทั้ง ๔ คน โดนตัดความช่วยเหลือจากครอบครัวหมดแล้ว
-พลอยก็โดนครอบครัวตัดขาดมา ๒ ปีแล้ว
-บุ้งก็ถูกครอบครัวตัดขาด
-ใบปอก็โดนพ่อแม่เฉดหัวออกจากบ้าน
เพราะพ่อแม่ใบปอเป็นสลิ่ม”
ดูซี…..
มันล้างสมองจนเด็กสิ้นคิด-สิ้นสำนึก แม้กระทั่งใน “ขั้นพื้นฐาน” ครอบครัวก็ไม่เหลือ
ขนาดอยู่ในคุก ด้วยน้ำเลี้ยงไว้หลอกใช้ต่อ มันสามารถทำให้เด็กหยิ่งต่ำ ด้วยไม่แยแส ไม่เยื่อใยกับพ่อแม่ ตีตราพ่อแม่ว่าทิ้งลูก คือพวกเขา
โดยไม่ย้อนคิด ไม่ย้อนสำนึก ในทางกระทำตัวเองเลย!
พ่อ-แม่น่ะ ไม่ทิ้งหรอก
พวกลูกนอกคอกนี่ตะหากที่ทิ้งพ่อ-แม่ โดยเห็นพวกจานสามสัสที่หลอกใช้ยิ่งใหญ่ที่ต้องเชื่อฟังเหนือพ่อ-แม่
“เมนู สุพิชฌาย์” ที่พูดข้อความข้างต้น เธอจดที่เธอพูดถึงพ่อแม่ด้วยทัศนคติเธอในวันนี้ไว้นะ เพราะเธอเป็นเด็กเก่ง แต่เพราะเยาวัย เก่งของเธอนั้น จึงถูกเขาหลอกเอาไปเป็นเครื่องมือใช้ในทางชั่ว ชั่วขณะ
แล้วสักวันข้างหน้า….
ผมเชื่อ เมื่อถึงจุด-ถึงวัยที่ประสบการณ์ด้วยชีวิตจริงในโลกลวงของเธอตกผลึก
แล้วเอาข้อความนั้นมาทบทวนดู ด้วยเก่งในตัวและด้วยผลึกประสบการณ์ จะตอบให้เองว่า
เพราะเพริด เตลิดไปตามวัย
มิใช่ พ่อ-แม่ “ตัดหาง” ปล่อยวัด ตามที่หลงทิศ จึงเดินผิดทางไปเอง!
ผมอยากให้มองเด็กพวกนี้ แบบ “ปันใจ” เหลือช่องไว้เป็นทางพวกเขาได้เดินเมื่อโตขึ้นสู่อนาคตบ้าง
อีกหลายคน ที่เดินเข้าคุกระหว่างคดี เช่น ทานตะวันบ้าง เก็จหรือโสภณบ้าง ซึ่งไม่ต้องบอกว่า พวกนี้ ด้วยคดีมาตรา ๑๑๒ ทั้งนั้น
“วัยรุ่น-วัยแสวงหา” เมื่อ ๑๔ ตุลา ๑๖ เขาแสวงหาประชาธิปไตย ในชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์จริงๆ
เดินขบวนแต่ละครั้ง ชุมนุมแต่ละครั้ง ชูและถือพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าแผ่นดินนำหน้าขบวน
นอกจากแสวงหาประชาธิปไตยแล้ว ยังต่อต้าน “อำนาจนอกชาติ” ไม่ให้เข้ามาครอบงำ
ตรงข้ามกับรุ่นแสวงหาวันนี้…….
มุ่ง “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” แล้ว ยังกวักมือ เปิดประตูบ้าน ให้นอกชาติเข้ามาเป็นเจ้าเข้าครองประเทศ
นี่มันรุ่น “แสวงหาคุก” แท้ๆ!
ผมไม่อยากโทษเด็ก โดยตรง ต้องโทษผู้ใหญ่ เห็นหน้า-เห็นหัวกันอยู่ว่าพวกไหน-กลุ่มไหน ที่พูดกันว่า “กฎหมายไม่เอาจริง” นั้น
อยากให้สังเกตและจับตาดูต่อไปเรื่อยๆ นับจากนี้
ปี-สองปีที่ผ่าน กระบวนการกฎหมายบ้านเมือง เหมือนปลาตัวใหญ่ติดเบ็ด แรงยังดี ฉุดกระชากลากดึงตอนนั้น
เบ็ดจะขาด………
ปลาหลุดไปได้ ก็ต้องใช้วิธี ปล่อยสายเบ็ดให้ปลาลากไปบ้าง กระตุกกลับมาบ้าง
แต่ตอนนี้ ถึงเวลาสาวสายเบ็ดกลับแล้ว เห็นมั้ย…ปลากระแด่วๆ ขึ้นมาทีละตัว-สองตัว!
ก็อยากให้เด็กเผื่ออ่าน ก็ลองนำไปคิด ไม่ใช่พอเข้าคุก พวกผู้ใหญ่ แม้กระทั่งทนาย จะโพสต์เฟซบ้าง อ้างในศาลบ้าง
“ยังเป็นเยาวชน ยังอยู่ในวัยศึกษา มีอนาคต ควรให้โอกาส”
ก็รู้ว่าเยาวชน อยู่ในวัยศึกษา มีอนาคต แล้วทำไม ไม่สั่งสอน ไม่แนะนำ เตือนสติเด็กล่ะ ก็คลุกคลีอยู่ด้วยกันตลอด แต่พอถูกจับ แหม…อ้างเป็นฉากๆ
อย่างเนี่ย……..
Tisana Choonhavan
เด็กกำลังจะจบได้เป็นหมอ บุคลากรที่จะสร้างคุณูปการให้กับประเทศชาติ ช่วยเหลือคน โดนจับติดคุกเพราะออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจกดขี่ รีดไถภาษีประชาชน
อมรรัตน์
ศาลไม่ให้ประกันตัวเก็ท#โสภณคดี 112 น่าเศร้าสลดเป็นอย่างยิ่ง #เก็ทเป็นนศ.แพทย์ปีสุดท้ายกำลังจะจบการศึกษา
……………………
เห็นมั้ย….
ผู้ใหญ่ ขนาดเป็นสส.ยังส่งเสริมให้ท้ายกันในทางที่ผิด-บิดเบือนขนาดนี้ แล้วเด็กที่เป็นเหยื่อ
ควรตำหนิเด็ก หรือควรตำหนิใคร?