10 เมษายน 2565-หลังจากกระแสอดีตนักการเมือง และ ส.ส. ทยอยโบกมือลา กระทั่ง “นายใหญ่” เจ้าของพรรคเพื่อไทยต้องส่ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ทายาทรุ่น 4 เข้ามาหยุดเลือดไหล ดึงส.ส.กลับคอก รวมทั้งสร้างกระแสให้แก่ประชาชน หวังชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์
แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะสังคมไทยรู้ทัน “ทักษิณ” กันหมดแล้ว ว่า พรรคเพื่อไทย มิใช่สถาบันการเมือง เป็นกิจการครอบครัว หรือ บริษัทชินวัตร และทำเพื่อตระกูลชินวัตรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะให้ น้องสาวของตัวเองมาคุมประเทศ พร้อมเสนอพ.ร.บ. นิรโทษกรรมสุดซอย ช่วยเหลือพี่ชาย กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี จนเป็นเหตุให้ พรรคเพื่อไทย ถูกขับไล่พ้นจากรัฐบาลพังพินาศ และสิ้นมนต์มาอยู่ทุกวันนี้
รวมทั้งสารพัดคดีทุจริตต่าง ๆ ที่คนในตระกูลชินวัตรต้องเผชิญ ไล่เรียงมาตั้งแต่รุ่น “ทักษิณ” ต่อด้วยรุ่น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” รวมทั้งบรรดาลูกน้อง “หมอเลี้ยบ” สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข บุญทรง เตริยาภิรมย์ ฯลฯ ต่างติดคุกติดตะรางเพราะรับใช้ “นายใหญ่” มาแล้วทั้งสิ้น หรือ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ก็ถูกผู้ใหญ่หลอก จนหมดอนาคตทางการเมืองไปหลายคน แล้ว ขณะที่ตัวเองและน้องสาว หนีคดีเอาตัวรอด
กลับมาที่ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยหลายคน ที่ไม่มีเส้น อึดอัด อยากเดินออก เพราะไม่อยากมีชะตากรรมเหมือนลูกน้องดังที่กล่าวมา รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมของพรรค ก็หมิ่นเหม่สุ่มเสี่ยงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
ขณะที่ ส.ส.หลายคน ก็ไม่ได้มีโอกาสได้ทำงาน แถมยังถูกปฏิบัติเปรียบเป็นลูกจ้างในคอก ถูกหมางเมิน แม้กระทั้ง น.พ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังต้องก้มหัวให้ แก่ “อุ๊งอิ๊ง” เด็กสาวรุ่นหลาน มาแล้ว ไม่ต้องพูด คนในพรรค อื่นๆจะถูกปฏิบัติเช่นใด
ดังที่ ส.ส.เก่ง การุณ โหสกุล ส.ส.กทม. สะท้อนออกมา หลังถูกกระทำไม่เหมาะสมจาก “นักรบห้องแอร์” และถูกบีบให้ออก เพราะโดนทำให้เข้าใจว่าสนิทกับคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ลาออกจากพรรค และขนนักการเมืองเกรดเอ หลายคนไปตายเอาดาบหน้า หลังทนความเจ็บปวดจากการการถูกหลอกใช้ไม่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้น จึงทำให้เห็นว่า แม้ ยอดคุณพ่อ จะพยายามจุดกระแส “อุ๊งอิ๊ง” ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะ “มนต์ขลังทักษิณ” ในหลายพื้นที่หายไปหมดแล้ว แถมบางแห่งยังถูกแทนที่ด้วย “พรรคก้าวไกล” ที่มีแนวทางการต่อสู้ชัดเจน และได้ใจคนรุ่นใหม่มากกว่า
ไม่นับบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล หลายพรรค ก็ใช้โอกาสในช่วงเป็นรัฐบาลโกยแต้ม ผลักดันนโยบายเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ จนชนะใจให้ชาวบ้าน กระทั่งประชาชน ในพื้นที่ ต้องเรียกร้องให้ผู้แทนของตัวเองย้ายพรรคเพื่อไปทำงาน
อย่างเช่นกรณีล่าสุดนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษเพื่อไทย พร้อม นายปวีณ แซ่จึง อดีตส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ผู้เป็นสามี น.พ.จาตุจงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย นายธีระ ไตรสรกุล ส.ส.เพื่อไทย ได้เปิดตัวระหว่างเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวรีกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระหว่าง เป็นประธานเปิดงาน วิชาการเรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ มรภ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 เมย.ที่ผ่านมา
หลังก่อนหน้านี้ ส.ส.เพื่อไทยดังกล่าว ได้เคยพบหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อหารือถึงแนวทางทำงานการเมืองเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ หลังพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที 6 มี.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คาดว่ากันว่าเมื่อครบวาระรัฐบาลนี้ พวกเขาเหล่านั้นจะหนีร้อนมาพึ่งเย็นและสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับก่อนหน้าก็มีกระแสข่าว มี ส.ส.เพื่อไทย ในจังหวัดปทุมธานี ถูกลดบทบาทในพื้นที่และ นักการเมืองเกรดเอในภาคอีสาน ภาคเหนือ จากพรรคร่วมรัฐบาล จะเข้าสมทบสมทบเพิ่มเติมเพราะเชื่อมั่นว่าหากได้เข้าสังกัดพรรคสีเงินแห่งนี้ จะมีโอกาสได้ทำงานได้อย่างแน่นอน
ในทางกลับกันหากยังปักหลักอยู่ที่เดิม ก็ไม่ต่างจาก “สิ่งมีชีวิตในคอกนายใหญ่” ที่สุ่มเสี่ยงจะหมดอนาคตทางการเมืองและไม่มีโอกาสรับใช้ประชาชน
