เปลว สีเงิน
จะว่าไป…….
สงครามโลกครั้งที่ ๓ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เพราะทั้ง ๒ ครั้งที่ผ่านมา
ก็นุงนังอยู่ในกลุ่มประเทศ “พันธมิตรยุโรป” เหมือนที่นัวเนียอยู่ตอนนี้ ในปัญหา “ยูเครน-รัสเซีย” นี่แหละ!
ขึ้นอยู่กับว่ายุโรปจะเป็นตัวของตัวเองแค่ไหน แต่ถ้ายอมทำ “สงครามตัวแทน” ให้สหรัฐฯ
พังรอบ ๓ แน่
ส่วนสหรัฐฯ ชนะกูก็ครองโลก แพ้ก็กลับบ้าน การยืมบ้านคนอื่นเป็นสนามรบ มีแต่ได้กับเสมอตัว
เว้นแต่ใคร “มือลั่นไปเอง”……..
แล้วเผอิญโดนปุ่มขีปนาวุธ “นิวคง-นิวเคลียร์” ไปตกตูมตามเมืองใด-เมืองหนึ่งของสหรัฐฯเข้า ทำให้เกิดภาวะจำยอม “รบในบ้าน”
แบบนั้นแหละ คำว่า “ดิสรัปท์โลก” สู่ศตวรรษที่ ๒๑ ได้เห็นเป็นรูปธรรม “เร็ววัน” แน่!
แต่ดูตามรูปการณ์ “พันธมิตรยุโรป” ครึ่ง-ครึ่งกับสหรัฐฯ
ไม่กล้าเล่นกับรัสเซียเต็มตัว
ประเด็นแรก รู้เขี้ยวกันอยู่ ประเด็นที่สอง ขืนกร่างมาก รัสเซียปิดท่อแก๊ส ก็จะพากันหนาวตายหมดทั้งยุโรป
ประเด็นที่สาม บนเส้นทางการเมืองโลก “สู่ศตวรรษใหม่”
ยุโรปมีแต่กินของเก่า ละเมออิทธิพลเก่า แล้วรวมหัวกร่าง ในอาเซียน, เอเชีย, ตะวันอออกกลาง, แอฟริกา
นอกนั้น บ่มิไก๊!
ก็หมายความว่า ถ้าสหรัฐฯ อยากรบกับรัสเซียจริง ก็ต้องกล้า “ชกหน้ารัสเซีย” เปิดเกมนำเอง
ที่จะมา “ดุนก้น-ดุนหลัง” หวังให้ผู้นำโง่พากันไปตายหมดทั้่งยุโรปแบบนั้น ยุโรปถึงบ่มิไก็ แต่ผู้นำเขาไม่โง่จะเล่นบท “นิ้วก้อยตีนซ้าย” ให้หรอก !
ก็พออนุมานได้ว่า……….
ไม่ถึงสงกรานต์ “ยูเครน” ก็เสร็จปูติน!
เกมนี้ เห็นชัด ปูตินใช้ “ประเทศรัสเซีย” วางเป็นเดิมพัน จึงไม่ต้องคิดกันให้เยี่ยวเหลือง ถ้า “ไม่มั่นใจ” ว่าชนะแน่ มีหรือ ที่ดุลถ่วงโลกอย่างปูติน จะกล้า “ขยับองศา” เปลี่ยนอุณหภูมิโลก?
ไบเดน-สหรัฐ เทียบ “ปอนด์ต่อปอนด์” กับปูติน-รัสเซีย
ไปเดน “ป๊อด” กว่าเยอะ!
ฉะนั้น ถ้าสหรัฐฯ ต้องการสร้างสงคราม “ล้างหนี้” จริงๆ ก็คงต้องหากลยุทธ์-กลวิธีใหม่
ถ้าไม่ (กล้า) เล่นเอง
ก็ต้องใช้เล่ห์ทำให้ “ยุโรป-นาโต” เป็นขี้ไต้ให้ได้ ถึงจะจุดไฟ “สงครามตัวแทน” ติด!
เห็นชวนพันธมิตรยุโรปให้แบนน้ำเข้า “น้ำมัน” จากรัสเซีย ก็ไม่เห็นยุโรปกล้า สหรัฐฯ ก็ลองชวนประเทศบริวาร “แบน” นำร่องดูซิ ว่าอะไรจะเกิด?
ตอนนี้ น้ำมัน ราคาพุ่งเป็นรายชั่วโมง เมื่อวาน (๘ มีค.๖๕) ๑๓๐ เหรียญ/บาร์เรลไปแล้ว
เห็นปูตินบอก ถ้าแบน โลกมีโอกาสได้ใช้น้ำมัน ๓๐๐ เหรียญ/บาร์เรล!
คิดไม่ถูก ว่าจะหยดละกี่บาท?
ก็ดีนะ ก่อนโลกจะเดินหน้า ก็ เซต ซีโร่ มนุษยโลกคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิม ตีหินเหล็กไฟ ไปไหน-มาไหน ใช้พลัง ๒ ขา
ที่จะอัดใจตายกันก็ตรง…
โลกไม่มี “สื่อสารไอที” นี่แหละ แล้วปั่นเฟกนิวส์ ปั่นแฮชแท็กกันไง อดไถมือถือ โทรศัพท์ไม่ได้ ไลน์ไม่มี พวกเศรษฐีเงินบิตคอยน์ ต้องไปขุดหน่อไม้แทนขุดเหรียญ
ตายแน่ๆ ถ้าโลกขาดพลังงาน……..
นิวเคลียร์ก็มีค่าของเล่น “นิ้วเขี่ย” กดให้ตาย ก็ไม่วี๊ดดด ปึ๊มมมม!
ทำไป-ทำมา สงครามเกิดยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าโลกขาดไฟ-ขาดพลังงาน เท่ากับขาดคลื่น
มนุษย์ยุค “ทาสไอที” ชักแหง่กๆๆๆลงแดงตายทันที เพราะไม่มีเน็ต!
อาวุธควบคุมโลกวันนี้ ไม่ใช่นิวเคลียร์ ไอทีก็ยังอันดับรอง
อันดับ ๑ คือ”พลังงาน”!
เพราะถ้าขาดพลังงาน โลกไร้การขับเคลื่อน และประเทศที่มีเครื่องมือขับเคลื่อนโลกมากที่สุด รวมอยู่ที่รัสเซีย ตะวันออกกลาง เอเชีย นี่แหละ!
พลโลกร่วม ๗,๐๐๐ ล้านคน กว่า ๕๐% ถึงเกือบ ๖๐% ก็คือ คนตะวันออก ภาคพื้นเอเชีย เอาแค่ จีน+อินเดีย โลกก็แทบเอียงไปซีกแล้ว
ยุโรป-สหรัฐฯ รวมแล้วถึง ๒๐%หรือเปล่า ก็ยังไม่แน่ใจ?
พูดถึงน้ำมัน นับจากวิกฤตน้ำมันตอนสงคราม “อิรัก-อิร่าน” ปี ๒๕๒๑-๒๒ ราวๆ นั้น ที่ทำเอาบ้านเราแทบต้องจุดฟืนแทนไฟฟ้าแล้ว
ก็เพิ่งมาวันนี้แหละ……..
ที่รัฐบาล ทั้งนายกฯ ประยุทธ์ ทั้งรัฐมนตรีพลังงาน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ต้องออกมาส่งสัญญานถึง “วิกฤติพลังงาน” อีกครั้ง
ขอความร่วมมือประชาชน “ใช้น้ำมันประหยัด-ใช้เท่าที่จำเป็นต้องใช้”!
ปี ๒๕๒๓ ถ้าจำไม่ผิด เป็นสมัย “ป๋าเปรม” พลังงานหลักมีน้ำมันอย่างเดียว แถมเป็นธุรกิจการค้าอยู่ในมือบริษัทต่างชาติ
ตรงนั้น เป็นบทกระตุ้นเตือนถึง “ความมั่นคง” และ “ความอยู่รอด” ของประเทศบนลำแข้งตัวเองด้านพลังงาน
ทำให้เกิด “การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย” ขึ้น!
๔๒ ปี ผ่านมา จาก “ธุรกิจปิโตรเลียม” ที่ต้องใช้คำว่า “ยังไม่เป็นประสา” ในวันนั้น
ถึงวันนี้ เติบกล้า แตกใหญ่ เป็น ปตท. “การปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย” ภายใต้หน้าที่หลัก “สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ” ต้องจัดหา ตระตรียม จุดเจาะ-สำรวจ สำรองไว้ให้เพียงพอ
สมมติ สังคมโลกมีปัญหาด้านพลังงานขึ้นมา ประเทศต้องมีน้ำมันสำรองให้มีใช้ในประเทศได้เป็นเดือน ประมาณนั้น
ตอนนี้ “น้ำมันแพง” กลายเป็น “ปัญหารอง”
ปัญหาหลักไปอยู่ที่ “ประเทศต้องไม่ขาดแคลนน้ำมัน”!
ได้ยิน “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ซีอีโอ ปตท.ให้ความมั่นใจวันก่อน ก็คงหายห่วงกันในประเด็นขาดแคลน เรียกว่า ความมั่นคงด้านพลังงาน ปตท.เอาอยู่
เว้นแต่เรื่องราคาน้ำมันดิบ ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครเอาอยู่ จนกว่าวิกฤติ “รัสเซีย-ยูเครน” ลงตัวนั่นแหละ
ถ้าขึ้นไปถึงบารเรลละ ๓๐๐ เหรียญอย่างที่รัสเซียบอกด้วยละก็ ป่วยการที่จะมาพูดกันถึงเรื่องราคา
เฉพาะ “น้ำมัน” นั้น……
เรายังเข้าใจกันผิด นึกว่าขุดได้เอง ความจริงที่ขุดได้นั้นวันละ ๓ แสนกว่าบาร์เรล แต่ต้องใช้วันละร่วมล้านบาร์เรล
นั่นคือ “ไม่พอใช้” ยังต้องเป็นประเทศ “นำเข้า” น้ำมันอยู่
โชคดี ที่เราขุดได้เป็น “ก๊าซธรรมชาติ” เยอะ และจัดหาจากทั่วโลกมาสำรองไว้เพิ่มเติมอีกเป็น “ฮับอาเซียน”
นั่นก็แปลว่า ถ้าถึงตาคับขัน หมดน้ำมันจริงๆ เราก็ยังมีพลังงานก๊าซสำรองอีก ก็บอกให้รู้เฉยๆ ไม่ได้บอกให้ตายใจ รู้ว่ามี ก็ใช้กันไม่บันยะบันยังจนถึงสภาพว่า
“ประเทศ….แบตหมด”!
พูดถึงเรื่องความมั่นคง ไม่เพียงด้านพลังงานเท่านั้น เท่าที่ผมตามๆดู ๒-๓ ปีมานี้ ปตท.ดิสรัปท์ตัวเองไปมาก
จากมั่นคงด้านพลังงาน ไปทุ่มเท “วิจัย-พัฒนา” ความมั่นคงทางยา ทางอาหารเพื่ออนาคต และทางเทคโนโลยีชีวภาพ เรียกว่า ปตท.ขณะนี้ กำลังสร้างมิติประเทศด้านนวัตกรรมสู่ระดับโลกที่น่าสนใจมากๆ
เราดูโลกดีกว่าครับ
อย่าติดกับดักปัญหาโลกนักเลย
แล้วจะเห็นการขยับเขยื้อนในโลกนวัตกรรมของไทยเรา อนาคตไปโลดแน่!