เปลว สีเงิน
“นายประเสริฐ จันทร์รวงทอง” เลขาฯพรรคเพื่อไทยนี่ ไม่ใช่ขี้ไก่นะ
เป็นถึง “มหาบัณฑิต” รัฐประศาสนศาสตร์ เชียวแหละ!
แต่เมื่อวาน (๑๑ กพ.๖๕) ท่านบอกถึงเหตุเพื่อไทยจงใจทำให้ “สภาล่ม” ถึง ๑๗ ครั้ง ด้วย “วิสัยทัศน์มหาบัณฑิต” น่าทึ่ง
“…….รัฐบาลมีความเชื่อมโยงกับสภาฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องช่วยกันประคับประคองให้สภาฯ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จะอ้างว่าสภาฯ ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไม่ได้
ส่วนที่อ้างว่า เป็นเกมการเมืองของฝ่ายค้านที่ไม่อยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมให้นั้น ก็ “เป็นกลไกหนึ่งในระบอบรัฐสภา” ที่สามารถกระทำได้
เราไม่เคยขาดประชุมสักครั้ง
มาเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง
การ “ไม่แสดงตน” เป็นหนึ่งในวิธีการปฏิบัติที่เป็นเครื่องมือของฝ่ายค้านในการกดดันรัฐบาลอีกทางหนึ่ง
หลังจากนี้ เราจะยึดวิธีการนี้ต่อไป แต่ต้องยึดถึงผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นอันดับแรก”
ตามนัยนี้ เท่ากับว่า……
มหาบัณฑิตประเสริฐ “แยกกรอบ” สส.ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ขาดออกจากกัน เป็นว่า
-สส.รัฐบาล มีหน้าที่ทำให้ “สภาไม่ล่ม”
-สส.ฝ่ายค้าน มีหน้าที่ทำให้ “สภาล่ม”
ก็ “วิตถารศาสตร์” ดี!
ท่านยืนยัน สส.เพื่อไทย ไม่เคยขาด เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง โดยเซ็นชื่อประชุม แต่ “ไม่แสดงตน”!?
การเซ็นชื่อประชุม แต่ไม่แสดงตน ก็เท่ากับเซ็นชื่อมาทำงาน รับผลประโยชน์จากการทำงานเต็มๆ แต่ว่าไม่ได้ทำงานเลย
เซ็นชื่อแล้ว “โดดร่ม” ก็เท่ากับ “หนีงาน” โดยตรง เหมือนข้าราชการบางคน ชื่อทำงานอยู่ใต้ ตัวอยู่กรุงเทพฯ แต่ได้รับขั้น รับเงินเดือนเพิ่ม ในฐานะ “เสี่ยงภัยอยู่ใต้”
ท่านประเสริฐว่าคนแบบนี้ มันน่ารังเกียจ และต่ำทรามทางจิตสำนึกมั้ย?
จะว่าไป มันเข้าข่าย “ฉ้อราษฏร์บังหลวง” ด้วยซ้ำ ท่านเห็นด้วยมั้ย?
ก็คิดดูซี อย่างสส.มาสภาแล้ว ก็มาใช้สิทธิประโยชน์จากสภา กินข้าว กินน้ำ กินของว่าง ฟรี ใช้สถานที่ ใช้เครื่องอำนวยความสะดวก ฟรี
ฟรีทุกอย่าง…….
กระทั่งเงินเดือนฟรี บำนาญฟรี โทรศัพท์ฟรี เน็ตฟรี เข้าห้องน้ำฟรี เบี้ยประชุมฟรี จอดรถฟรี มีคนเช็ดขี้ตีนให้ฟรี
แต่…ที่มา ไม่ได้มาทำหน้าที่สส.
มาถ่วงความเจริญประเทศชาติและสังคม ด้วยการ “แดกแล้ว” ล่มสภา!
แบบนี้ น่าจะเข้าข่าย “เนรคุณ” ด้วยนะ
มาสภา อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน ฟังแล้วสะเอียน จงใจทำให้สภาล่ม แบบนี้ ไม่ต้องมาสภา อ้างโน่นนี่ไปเสียเลยยังจะทรงเกียรติกว่า มาผลาญงบสภาเต็มคราบ
แล้ว “ทำให้สภาล่ม” คือหน้าที่!?
“การทำให้องค์ประชุมไม่ครบ” แบบจงใจ จะด้วยวิธีการใดก็ตาม นั่นคือ การ “ไม่ทำงาน” คือ “การไม่ทำหน้าที่” ตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน
มันผิดทั้งมโนธรรม ผิดทั้งเจตนารมณ์ระบบรัฐสภา…..
ยิ่งบอกว่า “การจงใจทำอย่างนี้ เป็นเครื่องมือฝ่ายค้านในการกดดันรัฐบาลให้ยุบสภา หรือให้นายกฯ อยู่ไม่ได้”
นั่นมัน “วิถีอันธพาล” ชัดๆ
ไม่ใช่วิถีท่านผู้ทรงเกียรติ ตามปรัชญาประชาธิปไตยแต่อย่างใด!
ก็ถือเป็นความรู้ใหม่ในยุค “จักรวาลนฤมิต” คือ แรกๆ ผมก็เข้าใจว่า ……..
สส.คือคนที่ประชาชนเลือกเป็นตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ คือทำงาน ออกกฎหมาย และคอยถ่วงดุล ตรวจสอบรัฐบาล
ที่เป็น “ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล” นั่นกลไกรัฐสภา แยกกันทำหน้าที่ “ฝ่ายบริหาร-ฝ่ายตรวจสอบ” โดยใช้สภาเป็นที่ทำงาน “ตรวจสอบ-ถ่วงดุล”
ฝ่ายค้านจ้องล้มรัฐบาลน่ะ ไม่ผิดหรอก
แต่การจ้องล้มนั้น ต้องล้มด้วยการตรวจสอบการทำงานรัฐบาลในสภา ไม่ใช่ล้มด้วยวิธีการ “ไม่เข้าประชุม” ซึ่งนั่น เท่ากับ “ไม่ทำหน้าที่” แต่กลับชูหน้า-ชูคอ อวดว่าเป็นผลงาน
ท่านมหาบัณฑิต ลองพลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๑๔ ดูซิ กฎหมายหลักของประเทศบัญญัติไว้ว่า อย่างไร?
มาตรา ๑๑๔…….
“สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุขของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์”
แล้วที่ฝ่ายค้านทำนี่ …….
-ปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์มั้ย?
-ซื่อสัตย์สุจริตมั้ย?
-ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของใครมั้ย? และ
-เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุขของประชาชนโดยรวมมั้ย?
ใครก็ไม่ต้องตอบออกมาดังๆ ตอบในใจ ให้แต่ละจิตใต้สำนึกมันสะท้อน “คุณภาพความเป็นคน” ออกมาทางละอาย
พรรคร่วมรัฐบาล หากเขาจะเล่นเกมเพื่อโค่นล้มนายกฯ นั่นเป็นเรื่องให้เขาเล่นกันไป “ในทำเนียบรัฐบาล”
ฝ่ายค้านไม่ต้องเสือกสั้น-เสือกยาวเข้าไปยุ่งกะเขา
แต่เมื่อเกมล้มมาถึงสภา นั่นแหละ ฝ่ายค้านเข้าไปเกี่ยวตามระบบสภาได้เต็มลูก-เต็มตีน
เอาให้นายกฯ ประยุทธ์ร้องเหมือนตอนซีซาร์ถูก “บรูตุส” คนข้างตัวสังหาร จนร้อง “เจ้าเองหรือ?” ไปเลย
แบบนั้น มันเป็นเวทีการประชุมสภา โลกไม่ติฉิน เพราะเป็นการสังหาร “ตามกฎ-ตามกติกา” ประชาธิปไตย มันแฟร์!
แต่การมาประชุม แต่ไม่กดบัตรแสดงตน
นั่นมัน “ลอบกัด” ทีเผลอ นักเลงจริง ที่ไหนเขาก็ไม่ทำกัน มันเสียศักดิ์ศรี เว้นแต่พวกที่ศักดิ์ศรี “อยู่ในชายกระโปรง” เท่านั้น!
๑๗-๑๘ กุมภา.นี่ ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายทั่วไป พูดตรงๆ ก็คือ เปิดเวทีสภา เพื่อจิกกระบาล “ด่ารัฐบาล-ด่านายกฯ” โชว์ออกโทรทัศน์ฟรีๆ
นวดให้น่วม “อุ่นเครื่อง” เป็นการ “เผาหลอก” ไว้ก่อน ไว้ตอนเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป ปลายเดือนพฤษภา.
ถึงตอนนั้น……
จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี เป็นการ “เผาจริง”
เรียกว่า จากวันนี้ไป จนถึงวันนั้น
เป็นช่วงเวลา “วัดใจ” พรรคร่วม ว่าจะไม่มีรายการ “บรูตุส” เกิดขึ้นชัวร์นะ ในเสียงโหวต “ไว้วางใจนายกฯ”
เพราะถ้าได้ไม่ถึงครึ่ง คือประมาณ ๒๓๘ ขึ้นไป นายกฯ หงายท้องทันที!
เฉพาะเสียงรัฐบาลตอนนี้ มีเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ คร่าวๆ ว่ามากกว่าฝ่ายค้านไม่เกิน ๑๐ เสียงมั้ง?
ก็ “เสียวทวาร” พอสมควร
แต่ดูท่าทีนายกฯ ท่านมั่นใจในสุภาพบุรุษพรรคร่วมมาก มองข้ามไปถึงวันงานประชุมเอเปก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
จัดที่ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” ที่กล่าวขานกันอื้ออึงว่า “อลังการเหนือบรรยาย” ล้ำทันสมัยทุกด้าน ใกล้จะเสร็จแล้วขณะนี้
คนไทยทั้งประเทศ มีแต่ดีใจ ไทยเจ้าภาพเอเปก ผู้นำระดับโลกของพลโลก ๗ พันล้าน มาร่วมสามัคคีสโมสรในไทย
ก็แต่มีพรรคเพื่อไทย-ฝ่ายค้านนี่กระมัง คอยแต่แช่งชัก หักหน้ารัฐบาล วันๆจ้องแต่คว่ำพลเอกประยุทธ์จากตำแหน่งนายกฯ
คว่ำนายกฯ-คว่ำรัฐบาลตอนนี้ ก็เท่ากับ “คว่ำประชุมเอเปก”
และนั่นคือ “คว่ำประเทศไทย”
แต่ดูเหมือน “เพื่อไทย-เพื่อแม้ว” ออกอาการ “กูดีใจ” ซะเหลือเกิน!
