15 ธันวาคม 2564 เวลา 09.40 น. ณ อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมฟังรายงานผลสำเร็จการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบพันธุ์กล้าไม้ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน 3 ราย ได้แก่ พันธุ์ทุเรียนหมอนทอง ราชาผลไม้ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้พื้นที่ พันธุ์กาแฟโรบัสต้าที่เหมาะกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพันธุ์ไผ่พื้นเมือง
โดยมีคณะรัฐมนตรี อาทิ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมตรวจเยี่ยมครั้งนี้ด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวคิดถึงและห่วงใยประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่อ่อนไหวที่ทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญที่จะเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมายโดยเร็ว รวมทั้งจะดำเนินการใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและพื้นที่ด้วย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ Agri-Map
ซึ่งเป็นแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกในการปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งแก้ปัญหาหนี้สิน จัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเกิดขึ้น โดยขอให้ ศอ.บต. ช่วยขับเคลื่อนเรื่องการค้าขายออนไลน์ด้วย และให้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และภาคส่วนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรียัง พอใจต่อการดำเนินการเรื่องการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่พบว่า สถิติลดลงแม้ยังมีความรุนแรงอยู่ จึงฝากประชาชนทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาช่วยกันเฝ้าระมัดระวังร่วมกับเจ้าหน้าที่ โดยยกตัวอย่างการดำเนินแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของรัฐบาล ด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและทุกภาคส่วนในพื้นที่
เช่น กรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ก้าวหน้าแห่งอนาคต” ที่ให้จัดทำ SEA หรือผลการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) โดยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบการดำเนินการด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลอยากเห็นประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุข สามารถลดความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดความเท่าเทียมกัน เกิดสังคมที่เป็นธรรม มีพหุวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์และมีคุณค่า ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และได้รับโอกาสจากการพัฒนาของรัฐบนฐานศักยภาพของตนเอง ต่อยอดไปสู่การมีชุมชนที่เข้มแข็ง สังคมที่แข็งแรงและประเทศชาติที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมความก้าวหน้าในการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” ให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้จากการเลี้ยงปูทะเล การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็น “เมืองแห่งพืชพลัง” เป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานและโรงไฟฟ้าในพื้นที่ เป็น “เมืองแห่งปศุสัตว์ฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้” และ “เมืองแห่งผลไม้” อีกด้วย
โอกาศนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ศอ.บต. ทำงานร่วมกับส่วนราชการให้เป็นรูปธรรม อย่างน้อย 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1. จัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ตามแนวทางโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย 2. จัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. การจัดสร้าง “หอเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รวมไปถึงการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดจนส่งเสริมการจัดการแข่งขันระดับโลก อาทิ การวิ่งเทรล ณ พื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และการวิ่งมาราธอนระดับโลกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในตอนท้าย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานของกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำให้ประชาชนเปิดใจและเปิดตาให้กว้าง หาความรู้จากเทคโนโลยีสมัยใหม่และดิจิทัล หรือสื่อออนไลน์ เพื่อนำกลับมาพัฒนาศักยภาพตนเองให้ดียิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีจะติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด ซึ่งทุกอย่างจะสำเร็จได้ ทุกคนต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐบาล หน่วยงานในพื้นที่ และภาคประชาชน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรมในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ 1) การขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “เก้าอี้สุขใจสู่รองเท้าสั่งตัด” และการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการวินิจฉัยความพิการ 2) นายกรัฐมนตรีเปิดปฏิบัติการ “การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ภายใต้กรอบแนวทาง “1 ข้าราชการ ศอ.บต. 1 ครัวเรือนยากจน”
และ 3) การส่งเสริมการเรียนรู้การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร “การสอนภาษาไทยในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” และ “การใช้สื่อสร้างสรรค์ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยควบคู่ภาษาพื้นถิ่น”พร้อมชมนิทรรศการการดำเนินงานต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle Trail” ก่อนตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้