นายนรมิต สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 12.30 น. คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแห่งชาติแม่วงก์เดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ระหว่างวันที่ 6 – 10 พฤศจิกายน 2564 บริเวณป่าห้วยเขาแหลม ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
ผลจากการลาดตระเวนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 ราย คือ นายหลัด (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ ความยาวลำกล้อง 30 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกกรดติดลำกล้อง SNIPER 1.5-4X30 จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกกรดติดลำกล้อง BSA3-9X40EG ติดกระบอกเก็บเสียง 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน
ประกอบด้วย ลูกกระสุนปืนลูกซอง RIO AMMO เบอร์ 12 จำนวน 8 นัด ลูกกระสุนปืนลูกซอง WINCHESTER เบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ CCi STANDARD VELOCITY 22LR จำนวน 52 นัด ปลอกกระสุนปืน ขนาด .22 ยี่ห้อ Aguila Super Extra จำนวน 1 นัด ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 ยี่ห้อ Aguila Super Extra จำนวน 105 นัด และอุปกรณ์ประกอบการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับการเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามพฤติกรรมบุคคลที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากการที่เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูลจากสายข่าว ว่ามีบุคคลเข้าไปล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าห้วยเขาแหลม ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่ได้กลิ่นควันไฟ
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนโอบล้อมตามหาต้นตอของกลิ่นควันไฟ หลังจากนั้นเวลา 14.30 น. ได้พบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 3 ราย กำลังก่อไฟนั่งต้มกาแฟอยู่ในปางพัก คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดและได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ขอตรวจสอบและตรวจค้น กลุ่มคนดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีไปได้ 2 ราย ถูกจับกุมได้ 1 ราย พร้อมอาวุธปืนมีเครื่องกระสุนบรรจุในรังเพลิงพร้อมยิงทุกกระบอก
ผู้ถูกจับกุมให้ข้อมูลกับคณะเจ้าหน้าที่ว่า เข้ามาล่าสัตว์ในป่า โดยมีแผนเข้ามา 7 วัน โดยเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้สอบถามและแจ้งว่าป่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มิได้อนุญาตให้บุคคลใดนำอาวุธสำหรับล่าสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ชายคนดังกล่าว ตอบว่า ทราบดีว่าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ หลังจากนั้นได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณโดยรอบพบอุปกรณ์ยังชีพของผู้ต้องหาจึงได้ทำลายทิ้งบางส่วน และพบร่องรอยการตัดต้นต่าวและถางพื้นที่เพื่อตั้งปางพัก
จากการลาดตระเวนจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการวางแผนลาดตระเวนพื้นที่ไม้กฤษณารอยต่อระหว่าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ซึ่งกลุ่มพรานล่าสัตว์จะเป็นชุดสำรวจไม้กฤษณา เมื่อเปิดการท่องเที่ยว จะรับจ้างนำทางชุดล่าไม้กฤษณ เข้าพื้นที่อีกครั้ง
พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 รวม 4 ข้อหา
1) ฐานเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 และมาตรา 47 ประกอบกับประมวลกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 80
2) ฐานล่อหรือนำสัตว์ออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (3) และมาตรา 43 ประกอบกับประมวลกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 80
3) ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใด ๆ เข้าไป พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ตามมาตรา 19 (7) และมาตรา 45 ประกอบกับประมวลกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 80
4) ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ตามมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 ประกอบกับประมวลกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 80
และตามพระราชบัญญัติป่าสงวน พ.ศ. 2507 1 ข้อหา
ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 35 ประกอบกับประมวลกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490
สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ขอให้พนักงานสอบสอบเป็นผู้กล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดด้วย ทั้งนี้จะได้มีการติดตามผู้หลบหนีอีก 2 รายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช