ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เซ็งเป็ด!
นึกว่าจะเป็นหนังแอ็คชั่น-บู๊ระห่ำ ยิงกันสนั่นจอตามคำโฆษณา ที่ไหนได้..เปิดฉาก พระเอกสะพายเป้ลงจะรถสองแถว..
ย่างก้าวแรกก็เหยียบเปลือกกล้วยถลาพรืดดหน้าคะมำลงบนกองขี้ควายซะงั้น!
ผมนั้น ขำจนจุก ก่อนที่จะค่อยๆ ลุกออกจากโรง และพลางนึกด่าตัวเองในใจ ไม่เข็ด ไม่หลาบ ไม่จำกับหนังของผู้สร้าง-ผู้กำกับ “นายห้างดูไบ”..
กี่เรื่องแล้วที่โดนมันหลอก “เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน” จะเลียนแบบ “เสี่ยเจียง” จอมยุทธ์หนังไทย แต่สุดท้าย “ขี้หมาทั้งเพ”!
นี่..ขนาดข้างนอก (โรง) จ้างคาราวานโดยทีม “มือเผา” มาขย่ม-เขย่าปลุกเร้าอารมณ์ ผู้คนก็เฉยๆ พากันเมิน ส่วนพวกที่ทนดูจนหนังอวสาน เห็นต่างออกมาพูดคล้ายๆกัน..
หนังบู๊แบบตลกโปกฮาบ้าๆ บอๆ ไร้สาระ และท้ายเรื่องดูเหมือนผู้กำกับฯจะควบคุมนักแสดงไม่อยู่ หลายฉากจึงมีการบู๊ผิดคิว สาวหมัดยัดเท้าใส่หน้าพวกกันเองจนชุลมุนวุ่นวาย
บางคนฟันธง..นายห้างขาดทุนยับเหมือนทุกเรื่องที่ผ่านมาตลอด 6-7 ปี ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะตั้งแต่หนังลาโรง-4 กันยา.
นายทุน-ผู้สร้างก็หายหน้า ไม่โผล่มาโม้-มาเห่าให้ได้ยินสักแอะ!
เฮ้อ..อนาจใจกับผู้สร้างหนัง “แรงแค้นแย่งบัลลังก์” รายนี้ซะจริงๆ คุยโอ้อวด ยกตนข่มท่านฉลาดปราดเปรื่องทุกเรื่องทุกด้าน..
แต่เอาเข้าจริงโง่บรมโง่ ให้เขาหลอกแดกอยู่ได้ซ้ำๆ ซากๆ ก็ควรแล้วที่ตัวประกอบข้างๆจะกระซิบ.. “จบแล้วครับนาย”!
ครับ..นั่นเรื่องของหนัง คราวนี้มาคุยเรื่องจริงกันบ้าง ได้ยินว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่เพิ่งจบลงไป ทำให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียฟอร์มไปหน่อย..
ด้วยคะแนนเสียงไว้วางใจไม่ค่อยสง่างามสักเท่าไร!
ซึ่งนั่นก็ช่าง ปล่อยให้เป็นความรู้สึกของนายกฯ ลุงตู่ท่านเถอะ แต่ที่ไม่อยากให้ช่าง หรือปล่อยเลยตามเลยก็เรื่องของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย
ที่ได้โพ้นทะนากลางสภากล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีได้จ่ายเงินให้ส.ส.หัวละ 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการโหวต!
“เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ ที่จะพูดโดยไม่รับผิดชอบ โดยอ้างเอกสิทธิ์ หาได้ไม่ เพราะกระทบความน่าเชื่อถือทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงตามมาได้
เรื่องนี้ย่อมมีผลกระทบและเสียหายมาก หากไม่มีการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริง ซึ่งแม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังต้องรีบตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อกล่าวหาของนายวิสาร”
ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่กล่าวนี้ จะได้เกาะติดเรื่องใหญ่นี้จนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏให้สังคมได้ประจักษ์
เพราะหากมีข้อเท็จจริงตามที่นายวิสารกล่าวหา ตัวนายกรัฐมนตรีก็จะมีความผิดทางอาญา แต่ถ้าเป็นการพูดพล่อยๆ ไม่ได้มีหลักฐาน ก็จะได้รู้-ได้เห็นกันเสียทีว่า..
บทลงโทษส.ส.ปากหมา-ขี้หกกลางสภา เป็นอย่างไร?
