เปลว สีเงิน
บ่ายวาน…
ไอ้เราก็รีบมาทำงาน เพื่อรีบกลับก่อนเคอร์ฟิว แต่..เอ๊ะทำไมวันนี้รถมันติดจัง (วะ)?
อ้อ…พวกสามนิ้วเขา “คาร์ม็อบ” เป็นอันสธพาลครองเมืองกัน จุดพลุ จุดมินิระเบิดกันแล้ว
ขั้นต่อไป คงยกระดับเป็น “คาร์บอมบ์”!
ก็คอยดูเขาละกัน
เขาอาจใช้ “วันเสียงปืนแตก” ที่คอมมิวนิสต์ใช้กองกำลังติดอาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นครั้งแรกที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เมื่อ ๗-๘ สิงหาคม ๒๕๐๘ ทำอะไรอย่างนั้นบ้างก็ได้
เพราะเห็นใช้ “สัญลักษณ์วัน” ต่างๆ ก่อกรรม-ทำเข็ญกับสังคมบ้านเมืองแบบเบิร์ดๆ มาตลอด
ก็ไปกันให้สุดหางก็แล้วกัน……
อยากดูเหมือนกัน ว่าบ้านเมืองในยุค “ตำรวจ-อัยการ-ศาล” ใช้เมตตาธรรม, เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ นำหน้ากฎหมายบ้านเมือง
เมื่อถึงที่สุดแล้ว ปฏิบัติการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ของพวกแดง-ส้ม “สามนิ้ว” จะหยุดลง ณ จุดไหน และอย่างไร?
ฉะนั้น วันนี้ก็คุยเรื่อยเปื่อย หาความสนุกใส่ตัวไปวันๆ ดีกว่า
ตอนนี้เห็นเขาคุยกันเรื่อง I Roam Alone ของมิ้นท์ “นางสาวมณฑล กสานติกุล”
เธอเดินทางทำคอนเทนต์ท่องเที่ยวจนกลายเป็นอาชีพ คนติดตามเป็นแสนๆ-ล้านๆ
ตอนนี้เธอบอก อยู่ในอัฟกานิสถาน เข้าไปที่นั่น นัยว่า อยากเข้าไปสัมผัสบรรยากาศบ้านเมืองกลางสงครามแบบเท่ๆ ว่างั้นเถอะ
แต่กลายเป็นเรื่องวิพากษ์ใหญ่โต ด้วยเหตุการณ์ตามที่เธอโพสต์ ว่า….
“อัปเดต ตาลีบันโจมตีใกล้ๆ สนามบินในเมืองที่อยู่ ตอนนี้ไฟลต์แคนเซิลหมดละค่ะ พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ยังไง น้องๆ ไกด์ผู้หญิงที่อยู่กับมิ้นท์กังวลมาก
เพราะตาลีบันใกล้เข้ามาเเล้ว ถ้ามาเมื่อไหร่เธอบอกว่า ‘ฉันฆ่าตัวตายดีกว่า’……”
เนี่ย ก็ประมาณนี้ แต่เรื่องราวข่าวละเอียดไปอีกมาก หาอ่านกันเองตามสื่อทุกแขนง
สรุปว่า เธอเดินทางเข้าไปอัฟกาฯ พักอยู่บ้านไกด์สาวอ่านตามที่เธอโพสต์ ก็ดูเธอชิลล์ๆ เหมือนเที่ยวอยู่ในนิวยอร์คหรือกลางราชประสงค์
แถมระบุสถานที่ อยู่ไหน ไปไหน ไปกับใคร ไกด์ชื่ออะไร หน้าตาอย่างไร เธอบอกหมด
ยืนถ่ายรูปหน้าสุเหร่าบ้าง สวมชุดแต่งงานสีชมพูถ่ายรูปคู่ไกด์สาวแล้วโพสต์บ้าง โชว์หน้าด้วยแบ็กกราวน์อาคารร้านค้าบ้าง
สร้างบรรยากาศให้เข้าใจว่า อัฟกานิสถาน ไม่มีอะไรเข้มข้นอย่างที่เข้าใจกัน ทัวร์ได้ทั่วกรุงคาบูลสบายๆ ตามใจชอบ
ประเด็นที่เป็นปัญหาถกกันมากตอนนี้ คือ
เธอเข้าไปได้อย่างไร ไปทำไม ไปแบบนักท่องเที่ยวตามปกติ และได้หรือ หรือมีองค์กรใดสนับสนุนในการเข้าไป?
แต่สำหรับผม อ่านที่เธอโพสต์ เกิดคำถามแหกคอกขึ้นว่า
“ตกลงเธอเข้าไปอัฟกาฯจริงหรือ หรือคุยเล่นสนุกๆ แล้วแฟนๆ ทึกทักกันเป็นตุ-เป็นตะไปเอง?”
โม้นิด เมื่อ ๕๐ ปีก่อน สมัยอัฟกาฯอยู่ในมือรัสเซีย ผมนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย เลยเมืองคีร์คุตสค์ กลางไซบีเรียไป
ผ่านทะเลสาบไบคาลไม่นาน ก็เข้าเขตอัฟกานิสถาน เขาไม่ให้ลง สองข้างทางเห็นแต่รถถังเต็มไปหมด
และตามที่ศึกษาเรื่องราว………
แม้วันนี้ สหรัฐฯ ถลกตูดหนีแล้วก็ตาม แต่อัฟกาฯ ก็ใช่ว่าบ้านเมืองสงบสุข
แม้ตาลีบันยังยึดประเทศไม่ได้ ยังไงๆ ก็ยังไม่ปลอดภัยไม่ใช่เมืองที่เขาจะปล่อยให้ใครก็ได้ ในสภาพนักท่องเที่ยวเข้าไปฉุยฉายพราหมณ์ได้
ยิ่งเป็นประเทศมุสลิม “เคร่งศาสนา” ด้วยแล้ว มิ้นท์จะ I Roam Alone อย่างที่โพสต์
แอคท่าถ่ายรูปหน้าสุเหร่า ไปสวมชุดแต่งงานถ่ายคู่กับไกด์ เปิดหน้า-เปิดตาหมดมาโพสต์ ไปถ่ายรูปบ้านเมืองมาทำแบกกราวน์
การทำแบบนั้นได้ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความเป็นไปได้เกือบ -๐!?
ยิ่งบอกไกด์ชื่ออะไร พักที่ไหน แถมบอกตำแหน่งเสร็จแบบนั้น ทั้งไกด์ ทั้งบ้าน เผลอๆ เจอวี๊ดดดบึ๊ม
หรือไม่ก็ถูกจับไปสอบเค้นหาเบื้องหน้า-เบื้องหลังในความสัมพันธ์กับคนต่างประเทศ!
ยิ่งอ่านมิ้นท์โพสต์ โทรศัพท์คุยกับแม่ในเมืองไทยอย่างนั้น-อย่างนี้ ผมชักไม่แน่ใจ ….
ว่าเธอโทรจากอัฟกาฯ มาเมืองไทย หรือจากสหรัฐฯ หรือที่ไหนซักแห่งที่ไม่ใช่อัฟกาฯ?
เพราะจากประสบการณ์นิดๆ หน่อยๆ ช่วงผมไปทำข่าวในกรุงพนมเปญกำลังจะแตก เขมรแดงบุกเข้ามาทุกทิศ-ทุกทาง
อย่าว่าแต่ให้ใช้โทรศัพท์เลย จะจุดเทียนซักเล่มในห้อง เขายังไม่ยอม ไปขอส้มเตียน…สัมเตียน ที่เคาน์เตอร์ ทหารได้ยิน ซัดผมด้วยพานท้ายปืนเข้ากลางหลัง บุญแล้วที่มันไม่ยิงทิ้ง
นี่แค่ศึกเขมร….
กับอัฟกาฯ ในขณะที่ตอลิบันเป็นคีมบีบกรุงคาบูล เป็นไปได้หรือ ที่รัฐบาลจะปล่อยให้ใช้สื่อสารได้สบายตามใจชอบแบบนั้น
จับสัญญานคลื่นได้ วี๊ดดดบึ๊มละก็ตายกันเรียบ!
ทั้งหมดนี้ เป็นผมเข้าใจเอานะครับ ผิดได้ ฉะนั้น อย่าเชื่อผม ให้ยึดตามที่ I Roam Alone โพสต์ไว้ก่อน
ผมเพียงตงิดใจ อะไรมันจะง่ายปานนั้น กับการเข้าไปอัฟกาฯ ยามนี้เท่านั้น?
ที่จริงก็เป็น fc เธออยู่ ล่าสุด เห็นไปเป็นพรีเซนตอร์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์โปรโมทให้อเมริกา บอกจะอยู่เป็นเดือน จู่ๆ ไหงไปโผล่อัฟากาฯ ก็ไม่รู้
ไม่แค่ผมที่เป็น fc “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ก็เป็น เห็นโพสต์คอมเม้นท์น่าสนใจ ลองอ่านกันดู
…………………….
“เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค”
“น้องมิ้นท์ นาย?? มณฑล กับดราม่าอาฟกานิสถาน”
อย่างที่เคยบอก ผมเป็น fc ของของมิ้นท์ ชอบติดตามดูเธอท่องเที่ยว โดยเฉพาะไปในดินแดนที่แปลกๆ avenger discovery amazing
แต่รู้สึกว่าช่วงนี้น้องท่องเที่ยวแบบมีนัยยะอะไรแอบแฝงซ่อนเร้น รึป่าว!!! ???
ผมไม่ได้ฟันธง แค่รู้สึกแปลกๆ
แล้วบังเอิญ ไม่ได้มีผมคนเดียวที่รู้สึกแปลกๆ
มีคนมากมายรู้สึกเหมือนกัน
วันนี้มีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง แล้วลองคิดตามกันดู และพิจารณากันเอาเองว่า อะไร อย่างไร!!!
………………
ผมมีเพื่อนเป็นผู้หญิงที่เคยทำงานสายการบิน ซึ่งไปใช้ชีวิต และท่องเที่ยวอยู่แถวตะวันออกกลางนานหลายปี เล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวในดินแดนอาหรับให้ฟังมานานแล้ว ว่าเป็นดินแดนที่มีการเหยียดเพศ และมีการกีดกันทางเพศสูงมาก
ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้หญิง จะไปเดินดุ่มๆ ท่องเที่ยวอย่างเสรีในดินแดนแถบนั้น เป็นไปได้ยากมากกกกก
ยกเว้น….
มีคนจัดให้ !!!
พอมีข่าวน้องมิ้นท์ท่องอัฟกานิสถาน ที่เป็นกระแสโด่งดัง เพื่อนผมก็กลับมาเล่าซ้ำอีกครั้ง พร้อมตั้งข้อสังเกต!!!
เพื่อนผมเคยเดินทางเข้าซีเรีย โดยผ่านทางเลบานอน ซึ่งเธอต้องใช้เส้นสายระดับบิ๊กบึ้มสุดๆ จัดการให้
เธอตั้งข้อสังเกตกับผมว่า
“น้องมิ้นท์เข้าไปในอัฟกานิสถานโดยไม่มีวีซ่าเขตสงครามแบบนี้ ผิดปกติมาก”
“การบุกไปเขตสงครามมา ไม่ใช่ไปง่ายๆ อัฟกานิสถานยิ่งเป็นไปได้ยากมาก ยิ่งตอนนี้สหรัฐฯ ถอนตัว ตาลีบันยึดครองไปหลายเมือง คนอัฟกันที่มีเงินหาทางหนีอพยพเข้ายุโรป”
“น้องมิ้นท์เข้าไม่ได้ ยกเว้นทางนั้นอาจจะชุ่ย หรือมีคนเอาเข้าไป” !!!
……………………
นอกจากเพื่อนผมที่เคยคลุกคลีและเคยไปเดินดุ่มๆ โดยอาศัยพลังพิเศษและเส้นสายระดับบิ๊กบึ้มสุดๆ เพื่อท่องเที่ยวไปในดินแดนต้องห้ามสำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนเพศหญิง
ยังมีผู้ใหญ่ที่ทำงานเกี่ยวข้องการงานด้านความมั่งคงและงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังส่งข้อความมาให้ผม มีเนื้อหาดังต่อไปนี้….
ชักเป็นห่วง I roam alone ซึ่งไปทำคอนเท้นต์ท่องเที่ยวในสถานการณ์สงคราม แล้วติดอยู่ที่เมือง Herat เพราะ….
- ตาลีบันควบคุมเส้นทางไปสนามบินไว้ในเวลานี้
- ตาลีบันมีนโยบายยึดถืออิสลามมาก่อน ผู้ชายเป็นใหญ่ และกีดกันทางการศึกษา (ทางโลก) โดยเฉพาะการศึกษาของผู้หญิง
- ตาลีบัน IS จะถือหลัก ไม่ใช่มิตรคือศัตรู (Takfir) ซึ่งหลักการนี้มันทำให้ ‘ทุกคนมีราคา’ ซึ่งคนนอกศาสนาจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะแสวงประโยชน์ (exploit) ได้หลายด้าน
แต่ที่เป็นข่าวร้ายสำหรับผู้หญิงนอกศาสนานั้น เมื่อดูจากกรณีที่เกิดในอิรักและซีเรีย คือ ถ้าจับได้จะนำไปประมูลหรือแจกจ่ายเป็น sex slave ในกลุ่มนักรบ และถ้านักรบคนนั้นตายไป ทาสฯ ก็จะถูกส่งต่อให้คนอื่น - เรื่องการต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ และอนาคตของสันติภาพนั้น สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจว่าจะถอนกำลังทหารแล้ว ทำให้กำลังฝ่ายรัฐบาลอ่อนลงไปมาก
แค่รักษาพื้นที่ควบคุมให้ได้ก็ยากสุดๆ อย่าพูดถึงการรุกเข้ายึดพื้นที่คืนเลย
เพราะเมื่อจีนแสดงออกชัดเจนว่า จะเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพล ก็กลายเป็นจับมือกับฝั่งตาลีบัน
ซึ่งแม้จะมีสัญญาณว่าจะพูดคุยกับตาลีบันเป็นช่องทางและโอกาสยุติความขัดแย้งได้ แต่ในระหว่างทางในความเป็นจริงนั้น
มันเป็นช่วงที่เข้มข้นมากสำหรับการทำทุกอย่างที่จะฉวยโอกาสให้ฝ่ายตนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบกว่ามากๆในการเจรจาสันติภาพ
โดยเฉพาะเมื่อถูกมองเป็นฝ่ายผู้ร้ายในฉากใหญ่ มันต้องมีความได้เปรียบอย่างยิ่งจึงจะลดโอกาสถูกกวาดล้างหลังวางอาวุธได้
ดังนั้น เมื่อมองด้วยสายตาของคนที่อยู่กับเกมการเมืองระหว่างประเทศแล้ว โอกาสที่เมือง Herat จะถูกยึดมีอยู่มาก และ i roam alone ก็อยู่ที่นั่น….ฯลฯ……
………..
ครับ…
ไงก็ ขอให้มิ้นท์กลับออกมาได้ปลอดภัย แฟนๆ จะได้ไม่ Alone.
โม้นิด เมื่อ ๕๐ ปีก่อน สมัยอัฟกาฯอยู่ในมือรัสเซีย ผมนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย เลยเมืองคีร์คุตสค์ กลางไซบีเรียไป
ผ่านทะเลสาบไบคาลไม่นาน ก็เข้าเขตอัฟกานิสถาน เขาไม่ให้ลง สองข้างทางเห็นแต่รถถังเต็มไปหมด
จำเมืองผิดหรือเปล่าคะ อัฟกานิสถานอยู่ทางใต้ ไม่ได้อยู่บนเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเลยค่ะ ที่สงสัยเพราะไม่อยากให้เป็นข้อมูลผิด ไม่น่าเชื่อถือน่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะ #แอดมิน