นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (24 พฤษภาคม 2564) เวลา 08.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 เข็มที่ 2 ณ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี โดยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวให้ความมั่นใจว่า ประชาชนทุกจังหวัดจะได้รับฉีดวัคซีนโดยปรับให้สอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่เข้ามาและสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้รัฐบาลได้มีการเตรียมแผนรองรับในการดูแลรักษาประชาชน ให้เพียงพอ ทั้งแพทย์ พยาบาลบุคลากรสาธารณสุข โรงพยาบาลสนาม เตียง อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ด้วย
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ทั้งแอสตร้าซิเนกาและซิโนแวค รวมถึงวัคซีนยี่ห้ออื่นๆที่จะมีเข้ามาเพราะมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดและรัดกุมให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานทางด้านสาธารณสุข แม้อาจจะมีผลข้างเคียงบ้างแต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งวันนี้ ตนเองก็มารับการฉีดวัคซีนเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพและประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของวัคซีน ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอทั้งก่อนและหลังการฉีดวัคซีน ซึ่งสิ่งสำคัญขณะนี้คือการกระจายสถานที่ในการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง โดยมีทั้งของภาครัฐและเอกชนและภาคธุรกิจที่ได้มีการเตรียมสถานที่การฉีดวัคซีนไว้แล้ว
นายกรัฐมนตรียังขอบคุณประชาชนที่มาลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมมากขึ้น ขอยืนยันว่าประชาชนทุกคนจะได้ฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน พื้นที่ใดที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือได้รับการฉีดวัคซีนน้อยขอให้เข้มงวดกับตนเองเรื่องของการปฏิบัติตาม มาตรการด้านสาธารณสุขสวมใส่หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างและการเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
สำหรับสถานการณ์สำคัญในขณะนี้มี 2 อย่างด้วยกัน คือ ปริมาณวัคซีนที่มีอยู่ และขีดความสามารถในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ซึ่งหลายจังหวัดเป็นพื้นที่สีแดง โดยเฉพาะประเด็นแรงงานทั้งแรงงานก่อสร้างและแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่มบุคลากรครูที่ต้องเตรียมเปิดภาคเรียนในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันว่าสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจและไม่เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน เพราะอาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้การทำงานอาจมีปัญหาบ้างแต่เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทุกวัน
ส่วนกรณีที่มีข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์แอฟริกา ที่เข้ามาในประทศไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า วัคซีนที่มีอยู่สามารถดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคล ดังนั้น ขอทุกคนอย่าได้ประมาทและตื่นตระหนก แต่ขอให้ฟังคำแนะนำของแพทย์และให้คำนึงถึงปฏิบัติตนเอง ครอบครัวสังคมและประเทศชาติ
สำหรับเป้าหมายของรัฐบาล คือ การดูแลคนทั้งประเทศ รวมทั้งบริหารจัดการวัคซีนตามสถานการณ์ความรุนแรงในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจการดำเนินการของรัฐบาลและระบบสาธารณสุขในการดูแลประชาชนทุกคน
ขณะที่พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนเองได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกก็ไม่มีอาการแต่อย่างใดรวมถึงเข็มที่ 2 ก็ไม่มีอาการอะไรเช่นกัน จึงอยากเชิญชวนให้ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนผ่านทางระบบหมอพร้อม สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องกังวลเพราะรัฐบาลจะมีการกระจายวัคซีนฉีดตามยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มในประเทศเข้าถึงวัคซีนโดยเร็วที่สุด ขณะนี้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีกำลังเร่งรัดที่จะให้มีการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันมูลได้มากขึ้นและเป็นการดีกับตนเองด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังการฉีดวัคซีนระหว่างพักรอ ดูอาการ 30 นาที อธิบดีกรมควบคุมโรคได้มอบวัคซีนพาสปอร์ตให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งวัคซีนพาสปอร์ตเป็นเอกสารที่ ได้รับการยืนยันว่าได้รับวัคซีนครบแล้ว เพื่อใช้เป็นเอกสารสำหรับบุคคลที่จะเดินทางไปต่างประเทศใช้แนบกับหนังสือเดินทาง เพื่อเดินทางไปต่างประเทศได้