วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “พิทักษ์นิบง” ภายหลังเจ้าหน้าที่ ประสานกำลัง 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตลอดจนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด DSI และ สรรพากร เข้าติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ ขยายผล จับกุม ยึดทรัพย์ เครือข่ายยาเสพติด รายใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สงขลา และยะลา รวม 19 จุด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 6 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
จากการปฏิบัติตามแผนยุทธการ พิทักษ์นิบง เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ถือเป็นการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้าขายยาเสพติดทุกระดับ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการและกำชับให้กำลังทั้ง 3 ฝ่าย สืบสวนติดตามจับกุมขยายผล ยึดทรัพย์เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ที่สร้างปัญหาและสร้างความเดือดร้อนทุกข์ใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้ายาเสพติดในทุกระดับ
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวว่า “การแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของการดำเนินการกับขบวนการค้ายาเสพติด ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แบบครบวงจรในทุกมิติ ทั้งจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย บำบัดรักษา ฟื้นฟู มีสถิติการสืบสวนขยายผลจนจับกุมได้เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งยาเสพติดถือว่าเป็นทุกข์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยบูรณาการประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนเกิดเป็นผลสำเร็จ ตามแผนยุทธการ ขยายผลจนทำลายเครือข่ายได้หลายราย ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จมาก เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถจะปลดทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนได้ ความหวังในการสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะกลับมาโดยเร็ว”
สำหรับปฏิบัติการพิทักษ์นิบง ได้ขยายผลจากการจับกุม นางสาวสุธิตา แสนสุด, นายหายอ ลือมูซอ และนายสุนทรี แวลาเตะ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563
ผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การซัดทอดถึง นายแบมะ หรือ นายธีระรักษ์ จันทรรังษี เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายแบมะ จนสามารถออกหมายจับ นายธีระรักษ์ ฯ พร้อมพวก ได้รวม 6 คน ประกอบด้วย
- นายธีระรักษ์ จันทรรังษี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/6 หมู่ที่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- นายอัสซานุสซี สามะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/3 หมู่ที่ 4 ต.เปาะเส้ง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
- นางสาวสุนิตา กูโน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 344 หมู่ที่ 1 ถ.ยะลา-โกตา ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา
- นางสาวมชิมา นามสมมติ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 4 ต./อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- นางสาวซอฟียา กิ้มเกี้ยว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/17 หมู่ที่ 1 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
- นางสาวพัชรินทร์ เหมโก อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ซอย 5 กาญจนวณิช์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
โดยได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นใน พื้นที่ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร 1 จุด, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 8 จุด, อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จำนวน 6 จุด, อ.เทพา จ.สงขลา จำนวน 1 จุด, อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 2 จุด และ อ.รามัน จ.ยะลา 1 จุด รวม ทั้งสิ้น 19 จุด โดยควบคุมตัวผู้ต้องหาได้อีกจำนวน 6 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,000 เม็ด พืชกระท่อมและยาแก้ไอ คือ
- นางสาวมชิมา แสนสุด อายุ 17 ปี ที่อยู่ 24 หมู่ที่ 4 ต./อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- นายอนัส นามสมมติ อายุ 17 ปี ที่อยู่ 44 หมู่ที่ 7 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- เด็กชายลือชัย นามสมมติ อายุ 14 ปี ที่อยู่ 34 หมู่ที่ 8 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา
- นายอนุชา สาและ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 122/8 หมู่ที่ 2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- นายอิรฟาล ตอลอ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 107/4 หมู่ที่ 1 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
- นายอิสมาแอล เต็นหัด อายุ 22 ปี ที่อยู่ 54/38 หมู่ที่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งยังสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้หลายรายการดังนี้
- รถบัส 1 คัน, รถยนต์ 12 คัน, รถจักรยานยนต์ 15 คัน
- อาวุธปืนยาว 2 กระบอก, อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก
- เงินสด 180,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 29 เล่ม, ตู้เซฟ 2 ตู้, ทองรูปพรรณ หลายรายการ
- วัว 14 ตัว
- ไอแพด 2 เครื่อง และโทรศัพท์
- โฉนดที่ดิน 22 ชุด และอุปกรณ์การเกษตร อีกจำนวนหนึ่ง
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 40 ล้านบาทเศษ
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค4ส่วนหน้า