นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลสนับสนุนภาคการเกษตรและช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ได้แก่ การประกันรายได้ การลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการการตลาดและการประกันภัยสินค้าเกษตร เพื่อเป้าหมายหลักคือยกระดับภาคการเกษตร เพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีรายได้อย่างเพียงพอในการดำรงชีวิต เช่นเดียวกับการประกอบอาชีพอื่น ๆ
สำหรับภาระงบประมาณที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หารือแนวทางปฏิรูป ขับเคลื่อนภาคการเกษตรเน้นสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรกรโดยตรง แทนตัวสินค้าเกษตร มีแนวทางการพัฒนาอาชีพ โดยต้องมี Roadmap และ Action Plan ที่ชัดเจน
นายกรัฐมนตรียังหารือถึงแนวทางการส่งออกข้าวไทยที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญว่า ให้ดูปัจจัยที่ทำให้ราคาข้าวผกผันเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกวิธี กำหนดกรอบข้าวแต่ละประเภทเพื่อไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด ทั้งประเภทพันธุ์ ราคา สัดส่วนชนิดข้าวที่ผลิต
ขณะที่ตลาดส่งออกข้าวไทยทั้งทวิภาคีและการขายตรงไปแต่ละประเทศ ให้พิจารณาเพิ่มตลาดกลางในกลุ่มประเทศต่าง ๆ เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคอื่น ๆ เรื่องการปัญหาการขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า ได้สั่งการทั้งกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ให้แก้ปัญหาเรื่องตู้ขนส่งสินค้า
ขณะนี้ปลดล็อกหลายอย่างแล้ว จึงขอให้ติดตามด้วยว่ามีจำนวนเพียงพอหรือไม่ โดยในส่วนของข้าวตลาดหลัก ข้าวตลาดเฉพาะในประเทศ ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์ ข้าวพื้นนุ่ม ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน
นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงผลผลิตข้าวไทยปี 64 ซึ่งมีแนวโน้มมากกว่าปี 63 ว่า ขอให้เป็นข้าวที่มีราคาที่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ซึ่งฝากให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวและสภาเกษตรกรร่วมขับเคลื่อนช่วยคิดในเรื่องการปลูกข้าวให้ตรงกับตลาด ลดต้นทุนการเพาะปลูก ให้การปลูกข้าวพันธุ์ใหม่สอดคล้องกับพื้นที่ น้ำ และความต้องการของผู้บริโภคและการค้าระหว่างประเทศ
โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ ทุกคนต้องรับรู้ร่วมกันเพื่อคิดในรายละเอียด เพื่อหาอุปสงค์ อุปทาน และหาตลาด ให้สอดคล้องกัน
ที่ประชุมเห็นชอบปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 จาก 46,807.35 ล้านบาท โดยเห็นชอบปรับเพิ่มอีก 3,838.92 ล้านบาท รวมเป็น 50,646.27 ล้านบาท และมอบหมาย ธ.ก.ส. และกระทรวงพาณิชย์ จัดทำรายละเอียด และงบประมาณตาม พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 และมอบหมายกระทรวงการคลังนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป โดยโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 64 กระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาแนวทางการดำเนินโครงการเช่นเดียวกับปี 59 – 63 โดยปรับปรุงรูปแบบอัตราค่าเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้สอดคล้องกับอัตราส่วนความเสียหาย และปรับปรุงเป้าหมายการเอาประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีที่มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติต่ำ จำนวน 577 อำเภอ คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูก 16 ล้านไร่