เปลว สีเงิน
“เสือก” เรื่องชาวบ้านละก็ ยกให้เขาเลย
แต่กับเรื่องของตัวเอง “ผมจำไม่ได้” ซักเรื่อง!
อย่างวันก่อน คุณบุญเกื้อ ปุสสเทโว “จำเลย” คดีเมย์เดย์..เมย์เดย์ นำหมายเรียก “พยานเอกสาร” ไปส่งให้ “โจทก์” ที่ตึกไทยซัมมิท
ปรากฏว่าโจทก์ “ธนาธร, ปิยบุตร, พรรณิการ์” ปิดสำนักงาน “มุดเงียบ”
เคยเห็นแต่จำเลยหนีโจทก์ แต่นี่โจทก์ไม่กล้าเผชิญหน้าจำเลย พิลึกดี!
แต่พอเมียนมาเกิดเหตุการณ์ภายใน กองทัพ โดยนายพลมิน อ่อง หล่าย ก่อการ “รัฐประหารตามรัฐธรรมนูญ”
เรื่องของตัวเอง ใครถาม บอก “เป็นเรื่องของครอบครัว”
แต่กับเรื่อง “คนอื่น-เมืองอื่น”
ตี๋กลับตาตื่น ไปเป็น “ประชาธิปไตยเสือก” ถึงหน้าบ้านเขา คือที่หน้าสถานทูตเมียนมา สาธร
บอกช่อด้วยนะ….
“เสื้อคอกระเช้า” แบบที่ใส่ตามตูดไปต้อยๆนั่นน่ะ เหมาะใส่อยู่ในบ้าน ในห้อง-ในหอ
ไม่เหมาะใส่เดินเทิ่งๆ ตามถนนรนแคม จะบอกว่าเป็นแฟชั่นเซ็กซี่ ก็ขวยปาก เพราะหุ่นมันใกล้ “มนุษย์ป้า” แล้ว!
โซเชียลมีเดีย ประจานกันขรมวานซืน นึกว่าจะเขินกับการโหนประชาธิปไตยเสร่อๆ
แต่กลับหนาพอ ถึงขั้นคณะก้าวหน้าออกแถลงการณ์อีกเมื่อวาน ประณามการรัฐประหาร เอามัน ๓ ภาษา ทั้ง พม่า-ไทย-อังกฤษ
ประชาธิปไตย ๓ นิ้ว ต้องมีเกี๊ยะและจิ้งจกน้ำตะกายทับ จึงจะเป็นของแท้
แต่ของทอน “ก้าวหน้า” ไม่รู้ประทับตราเดียวกันหรือเปล่า แต่ระวังเหอะ จะถูกเพจพม่าตอกกลับ “มึงอย่าเสือกเรื่องในบ้านกู” อีกหรอก!
ความจริง ไม่มีอะไรผิด ที่ใครจะแอกชั่นในเรื่องนี้ แต่ทีนี้ คนที่แอกชั่นเป็นทอน-เป็นคณะก้าวหน้า ซึ่ง “ไม่มีเครดิต” เหลือแต่ภาพ “นักโหนประชาธิปไตย” ที่หลอกเด็กไปติดคุกแทน
ภาพนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ระหว่าง “ทอน-ก้าวหน้า” กับ “วรัญชัย โชคชนะ”
จึงไม่ต่างกันในโลก “ประชาธิปไตยขำขัน”!
สดับตรับฟังจากคนบ้านเขาดีกว่า เมื่อวาน มีคนนำข้อเขียนคุณ “นิภัทร์พร เพ็งแก้ว” เพื่อนผม ลูกสาวอาจารย์ “ล้อม เพ็งแก้ว” มาโพสต์ อยากลอกมาให้อ่าน
เพราะนี่เป็น “ข้อมูลดิบ” ขอดจากคนในพม่าแท้วินาทีนี้ จะตัดไปที่ตอน “ทัศนะคนเมียนมา” ต่อการรัฐประหารเลย
ต่อจากนี้ เป็นข้อเขียนคุณ “นิภัทร์พร เพ็งแก้ว”
ข่าวแต่เช้าของวันนี้ เริ่มด้วยเพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์ติดต่อส่งข่าวจาก Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | 1 Feb 2021 7:02 ว่า
“อองซาน ซูจี” ถูกทหารเมียนมาควบคุมตัวเช้านี้ พร้อมจนท.ระดับสูงพรรค NLD
………………..
ดิฉันจึงเริ่มประสานงานตรวจเช็คจากเพื่อนๆ แหล่งข่าวกลุ่มชาติพันธุ์หลายคนที่ทำงานอยู่ชายแดนไทยและในเมียนมาร์
ในยามสาย ได้มีข่าวจากกลุ่มชาติพันธุ์ ชัดเจนแล้วว่า นายพลมินอ่องหล่ายเป็นผู้นำรัฐประหาร ตอนนี้ทหารพม่าได้เข้าจับกุม นักการเมืองท้องถิ่นที่รัฐบาลซูจี ของพรรค NLD แต่งตั้ง ให้ทำงานอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ
ดังที่ท่าขี้เหล็ก ผู้นำท้องถิ่นสังกัดพรรค NLD ของซูจีโดนรวบแล้ว และตามเมืองต่างๆ ทหารได้เข้าล็อกตัวผู้นำที่รัฐบาลซูจีแต่งตั้งไว้แล้ว
แต่ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ทำงานทางการเมืองโดยตรง ยังไม่โดนอะไร
สำหรับในประเทศเมียนมาร์ ดิฉันได้ประสานงานกับเพื่อนสัญชาติพม่าที่อยู่ในเมียนมาร์ เขาบอกชีวิตชาวบ้านทุกอย่างยังสงบ
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เพิ่งมีประกาศเป็นทางการในทีวีพม่า ว่ามีการแต่งตั้งอูมินส่วย รองประธานาธิบดีพม่าคนที่ 1 ขึ้นรักษาการประธานาธิบดีชั่วคราว
ทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ 1 ปี ก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ ให้โปร่งใสกว่านี้
และนี่ เป็นข้อมูลที่ดิฉันรวบรวมจากเพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์ และติดต่อทางสื่อออนไลน์คุยกับเพื่อนในเมียนมาร์
โดยรับทราบมาตลอดหลายปี และรวบรวมเหตุการณ์รัฐประหารวันนี้ มีดังนี้
1.การรัฐประหารครั้งนี้ ทั้งประชาชนพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก เป็นส่วนใหญ่ก็ว่าได้
เห็นด้วยกับทหาร ประชาชนไม่เอาด้วยกับซูจี และนักการเมืองพรรค NLD
2.สำหรับทางกลุ่มชาติพันธุ์แล้ว แม้หลายปีมานี้ ในช่วงรัฐบาลซูจี ทางซูจีจะช่วยชนกลุ่มน้อยหลายอย่าง แต่ก็เหยียบย่ำบีบคั้นชนกลุ่มน้อยมาก
บังคับให้ผู้นำทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องพูดภาษาพม่าในรัฐสภา, กระทั่งนักการเมืองพรรค NLD เอง จะเสนอแนวคิดใดในสภา
ก็ต้องนำเสนอประเด็นที่จะพูดในรัฐสภากับซูจีก่อน จึงจะได้รับโอกาสให้เสนอความเห็นในสภาได้
3.นักการเมืองเมียนมาร์จำนวนมาก และกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มเจอเรื่องสุดแสบจากซูจีมาตลอด 5 ปี จนเข็ดขี้อ่อนขี้แก่
จนกระทั่งมีนักการเมืองรุ่นใหม่ทั้งของเมียนมาร์และชนกลุ่มน้อย ไม่เอากับNLD และเข้ารวมตัวกันกับทหารรุ่นใหม่ เข้าสู่สนามเลือกตั้งในช่วงการเลือกตั้งปลายปีที่ผ่านมา
4.เช้าวันนี้ เพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์บอกกำลังตรวจเช็ค จะเป็นการรัฐประหารยาวหรือทำแค่ควบคุมระยะสั้น
เพราะตอนนี้เป็นช่วงเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ เหลือเวลาให้ต้องเปิดรัฐสภาให้ได้ภายใน 10 วัน ถ้าเปิดสภาไม่ได้ ผลเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ
ทหารต้องการให้ผลเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะโกงมาก และทางซูจีจะต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่แน่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเอื้อกับการใช้อำนาจของทหารมาก
ดังนั้น ทหารต้องยึดอำนาจ ตรงนี้กลุ่มชาติพันธุ์ก็ต้องการที่สุดในการแก้ รธน.
แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มชาติพันธุ์ก็ถูกบีบบังคับอย่างที่สุดจากซูจีด้วย และกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก เมินเฉย ไม่เอากับรัฐบาลซูจีไปมากแล้วด้วย
5.ดิฉันได้สัมภาษณ์ออนไลน์กับเพื่อนสัญชาติเมียนมาร์เมื่อเที่ยงครึ่งวันนี้ เขาอยู่กลางเมืองใหญ่ในเมียนมาร์ เขาให้รายละเอียดว่า
ขณะนี้ ทั้งประเทศไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแต่ WIFI ธนาคารก็หยุดชั่วคราว
-เมื่อเช้านักการเมืองถูกคุมตัวที่เนปีดอ 31 คน ทั้งหมดเป็นคน NLD ของซูจี และพรรคอื่นๆ ซูจีก็โดนด้วย นักการเมืองมาชุมนุมกันที่เนปีดอตอนเช้า เพราะวันนี้เป็นวันเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎร
-ตอนนี้ในประเทศเมียนมายังไม่มีประกาศอะไร ทีวีช่องต่างๆในเมียนมาร์ไม่เปิด มีแต่ทีวีช่องทหารอันเดียว ซึ่งที่ออกอากาศให้ประชาชนดูกันอยู่ก็ไม่มีข่าวปัจจุบัน ไม่มีข่าวใหม่ มีแต่ข่าวเมื่อ 2-3 วันก่อน
-ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเมียนมาร์และผู้ใหญ่ในกลุ่มชาติพันธุ์ที่พบปะติดต่อกัน มีความเห็นว่า ดีที่มีการรัฐประหาร
เพราะ NLD ของซูจี โกงเลือกตั้งมาก คนตายแล้วยังมีชื่อไปเลือกตั้ง บางคนชื่อมีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ถึง 3-4 เมือง และมีการไปเลือกตั้งทุกเมือง, คนไม่มีบัตรประชาชน คนอายุไม่ถึงเกณฑ์ ยังเข้าไปเลือกตั้งได้
หลายเมืองมาก ที่เสียงคนลงคะแนนเกินจำนวนคนมีสิทธิ์จริง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในพม่า มีการโกงอย่างโจ่งแจ้ง เละเทะมาก
กระทั่งทหารเอง นายพลมินอ่องหล่าย ออกมาบอกหลายครั้ง ให้ตรวจสอบการโกงเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมก่อนเปิดสภา เพราะไม่เป็นประชาธิปไตยจริง ไม่สะอาด ไม่ถูกต้อง มินอ่องหล่ายออกมาบอกหลายครั้ง ซูจีและ NLD ก็ไม่ฟัง จะเปิดสภาให้ได้
จนเมื่อ 3-4 วันก่อน ทหารกับ NLD ประชุมกันที่เนปีดอ ทหารขอให้มีการตรวจสอบการเลือกตั้งก่อน ให้ประชาชนได้เห็นความยุติธรรม ความสะอาดโปร่งใสก่อนค่อยเปิดสภา แต่ซูจี และ NLD ไม่ยอม ยืนยันจะเปิดสภาให้ได้
6.การรัฐประหารครั้งนี้ คนเมียนมาร์และผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วย
เพื่อนดิฉันที่เคยถูกทหารพม่าจับติดคุก และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด ยืนยันว่า ดีที่มีการรัฐประหาร เขาเห็นด้วยกับการรัฐประหาร
เพราะทหารไม่ได้มายึดอำนาจเหมือนครั้งก่อน แต่ทหารมาเป็นนายกสภา อูมินส่วยมารักษาการประธานาธิบดี ภายใน 1 ปี จะมีการเลือกตั้งใหม่
ที่คนจำนวนมาก ผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากเห็นด้วยกับการยึดอำนาจของทหารครั้งนี้ เพราะตลอดหลายปีในการปกครองของซูจีและรัฐบาลพรรค NLD ซูจีได้ทำในหลายสิ่งที่ประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย เป็นการกระทำที่แย่มากๆ ตัวอย่างเช่น ซูจี ไปเอาคนยุโรป ฝรั่งต่างประเทศมาเป็นที่ปรึกษาประเทศจำนวนถึงประมาณ 90 กว่าคน
แต่ละคน ต้องจ่ายเงินเดือนเขาอย่างน้อยเดือนละ 2,000 US(60,000บาท)ทั้งที่ประเทศเมียนมาร์ยากจนมาก ประชาชนยากจนมาก ไม่มีเงิน
แต่ซูจีเอางบประมาณชาติมาผลาญ ตลอด 5 ปีของรัฐบาลซูจีเสียเงินไปมาก ทั้งที่คนพม่าเองที่เก่งๆ มีความรู้ในเมืองก็มีมาก ซูจีไม่เอาไปปรึกษา
เธอเห็นแก่ชาติตะวันตก ประเทศเมียนมาร์ของเราจะเอาแบบตะวันตกไม่ได้ เราไม่เหมือนกัน ชนกลุ่มน้อยก็มีมาก คนไม่มีการศึกษาก็มาก
ตลอด 5 ปี ของการปกครองของซูจี บ้านเมืองไม่ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเลย งบประมาณที่ซูจีเอาไปให้ที่ปรึกษาฝรั่ง เอามาช่วยการศึกษาดีกว่า แต่ซูจี และ NLD ไม่ทำ
ที่สำคัญ ซูจีไม่เห็นหัวชนกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากร่วมมือกับกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากเอาคนของกลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วมทำงานการเมืองในสภา
ซูจีไม่เอาอย่างชัดเจนมาก ดังนั้นรัฐประหารครั้งนี้ น่าจะดีกับประเทศของเรา มากกว่าปล่อยให้ซูจีเปิดสภาแล้วตั้งรัฐบาลปกครองประเทศต่อไป
ทั้งหมดนี้ ดิฉันรวบรวมจากการสัมภาษณ์เพื่อนสัญชาติพม่า และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ในช่วงครึ่งวันที่ผ่านมา
ครับ…..
เป็น “อีกด้าน” ในการเมืองเมียนมาที่หาฟังไม่ได้ในสังคมข่าวสารจากสำนักข่าวตะวันตก
ก็บอกให้รู้ ไม่ใช่ให้เชื่อหรือไม่ให้เชื่อนะครับ!