กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด เพื่อทำให้มีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ขอให้ยังคงดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นและเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อ
วันนี้ (4 มกราคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีประกาศยกระดับให้พื้นที่ 28 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่
กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ระนอง ระยอง ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สระแก้ว สระบุรี และอ่างทอง
โดยพื้นที่ดังกล่าวมีการดำเนินมาตรการควบคุมสูงสุด เช่น ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ หรือการฝึกอบรม การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค (อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ) สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
ผู้ว่าราชการฯ พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด เป็นต้น เพื่อควบคุมและลดการติดเชื้อโควิด 19
โดยแนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชน มีดังนี้
1.ขอความร่วมมือหยุดอยู่บ้าน หรือ work from home
2.สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยให้ได้ 100%
3.รับประทานอาหารคนเดียว หรือรับประทานเฉพาะในครอบครัว
4.งดไปสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง หรือทำกิจกรรมรวมตัวในที่สาธารณะ
สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดต่างๆ (อาทิ วัณโรค) โรคเบาหวาน โรคที่ภูมิคุ้มกันต่ำ (อาทิ โรคพุ่มพวง) โรคอ้วน หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขอให้อยู่บ้าน หากมีผู้มาเยี่ยมให้สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง หากมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือโรงพยาบาล
สำหรับหน่วยงานต่างๆ ให้งดจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อและเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบ work from home ให้มากที่สุด ส่วนโรงงานต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคและคัดกรองก่อนเข้าทำงาน
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคโควิด 19 นั้น สามารถรักษาได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมด้านการรักษา ยาเวชภัณฑ์ และการเข้ารับบริการในโรงพยาบาล ทั้งนี้ ในพื้นที่ที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 ขอให้ยังคงดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น และเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
โดยขอให้ทุกคน สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการไปที่ชุมชน งดการรวมกลุ่มในกิจกรรมที่ไม่มีมาตรการป้องกัน และเคร่งครัดการสแกนแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เมื่อเข้าไปในสถานที่ต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422