วันที่ 23 ธันวาคม 2563 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยนายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง)
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีซากสัตว์ป่าหลายชนิดประดับตกแต่งภายในโรงแรมดังกล่าว
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นและตรวจสอบพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นซากเต่า กระดองเต่า และหนังเสือ และกะโหลกเสือ กว่า 12 ชนิด จำนวน 32 ซาก ประกอบไปด้วย เต่ากระ เต่านา เต่าหญ้า เต่าบัว เต่าตะนุ เต่าเดือย เต่าหับ หนังเสือลายเมฆ 2 ซาก หนังเสือดาว 3 ซาก และหนังเสือโคร่ง 2 ซาก
ซึ่งถูกประดับตกแต่งบริเวณทางเดินและโดยรอบภายในโรงแรม ซึ่งไม่มีเอกสารหลักฐานการได้มาของทางราชการแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดซากสัตว์ป่าดังกล่าวไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนทราบว่าเจ้าของโรงแรมดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติและชาวไทยทำธุรกิจร่วมกันอยู่ ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นไม่พบตัวแต่อย่างใด จึงได้นำของกลางทั้งหมดแจ้งความกล่าวโทษกับเจ้าของโรงแรมดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเรียกตัวเจ้าของโรงแรมมาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ของกลางดังกล่าวจะได้ขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำไปเก็บรักษาที่กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จนกว่าคดีถึงที่สุด