22 ธ.ค. 63 เวลา 09.45 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารว่าเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนปล่อยปะละเลยให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ มีการจ่ายเงินค่าหัว จนทำให้แรงงานที่เข้ามาเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยขอชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทย โดย ศบค.มท. ได้กำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบเดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณพื้นที่ชายแดน โดยแบ่งพื้นที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ได้แก่
1) จังหวัดชายแดน แบ่งการปฏิบัติเป็น 3 ระดับ คือ
(1) การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ประสานการปฏิบัติ วางมาตรการร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ตำรวจตระเวนชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน ให้เข้มงวด ควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ โดยตั้งเครื่องกีดขวาง เพิ่มการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณพื้นที่ชายแดน หากพบการลักลอบเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น
(2) การปฏิบัติในพื้นที่ตอนใน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรค เพื่อคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าเมือง คัดกรองรถขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกำหนดให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Commander : IC) ประจำช่องทางผ่านแดนทุกแห่งที่มีการอนุญาตให้ใช้ในการผ่านเข้า-ออก ของบุคคล สินค้าและยานพาหนะที่ชัดเจน สามารถปฏิบัติงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ
(3) การปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน/ชุมชน หากพบแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ประสานหน่วยงานความมั่นคงดำเนินการตามกฎหมายทันที
2) จังหวัดชั้นใน ให้ดำเนินการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองโรค โดยให้ประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธรจังหวัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้าออกและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
และในกรณีจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ ให้ตรวจสอบสถานประกอบการทุกแห่งในพื้นที่ที่จ้างแรงงานต่างด้าว โดยให้ตรวจคัดกรองโรคและตรวจหาเชื้อโดยการสุ่มตรวจ รวมทั้ง ให้สถานประกอบการจัดทำแผนความปลอดภัยด้านสาธารณสุข และดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
กรณีพบผู้ติดเชื้อให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข และหากพบแรงงานลักลอบเดินทางเข้าประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายสมคิด จันทมฤก เน้นย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจและเน้นย้ำกับข้าราชการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ห้ามมิให้ปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจในพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และไม่สอดคล้องกับนโยบายและมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
หากฝ่าฝืนอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางวินัยหรืออาญา สำหรับการดำเนินการในระยะต่อไป กระทรวงมหาดไทยจะดำรงความเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการตรวจสอบและเฝ้าระวังในระดับพื้นที่