เหตุจาก “เลือดนอง” กลางจอ

เปลว สีเงิน

“รุ้ง” ศิษย์เอก “สามสัส” นี่…..

สมที่ “สำนักข่าว BBC” ยกเป็น ๑ ใน ๑๐๐ หญิงผู้ทรงอิทธิพลของโลก
“คำเดียว” แท้ๆ ทำให้เธอทรงอิทธิพล
คือ ให้ “…..” ประธานรัฐสภา!ในทัศนคติคนไทย เถื่อน-ดิบ ต่ำช้า เธอไม่ใช่หญิงแพศยา แค่ส่อว่าใฝ่ต่ำ

แต่สร้างความประทับใจให้ BBC มาก ยิ่งตะโกนเร้าหื่นม็อบ ๓ นิ้ว ถ่ายทอดตัณหาดิบ เป็นคำสามานย์ ลามก เขียนเปรอะตามผนัง กำแพง และพื้นถนน

BBC ปีติซาบซ่านมาก….

ว่านี่คือการเบ่งบานของประชาธิปไตยในหมู่นักเรียน-นักศึกษาและพวกสับสนทางเพศ เป็นรุ่นใหม่ต้นแบบผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดและการกระทำ ที่จะนำสังคมประเทศสู่อนาคต

มาตรฐานรุ้ง…..
จึงเป็นมาตรฐาน BBC ด้วยในทางกลับกัน!
สะท้อนความเป็น “สถาบันข่าว” ของสังคมอารยะประชาธิปไตยอังกฤษ ว่าที่โลกให้เครดิตทางความเชื่อถือ “สูง” นั้น
สูงระดับ “ต่ำสะเอว”!

ยิ่งวานซืน รุ้งออกรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” ไทยรัฐ ช่อง ๓๒ แสดงภูมินักศึกษารุ่นใหม่ เป็นวิสัยทัศน์แกนนำเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ กับอาจารย์นิด้า “อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์”
ในประเด็น “พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ๒๕๖๑”
ผมคงไม่คุยฉาก “ฮาราคีรีกลางจอ”

เพราะจากคืนนั้น ยันวินาทีนี้ ฉาก ๒ รุม ๑ “จอมขวัญ-รุ้ง” รุมเย่อ “ดร.อานนท์” แต่กลับถูก ๑ จับ ๒ เปลือยล่อนจ้อน ถูกนำมาเมาธ์กระจายโซเชียล มีเดีย จนไม่เหลือซากให้เก็บแล้ว

ทั้งสงสารทั้งเห็นใจ แต่อยากบอกด้วยหวังดี จะทำอะไรก็ตาม “การบ้าน” และการ “วางตัว” ให้ถูกตามสถานะ คือปีก ที่จะทำให้ร่อนถลาลม
ไม่ “ร่วง”ชนิดเสียทรง!

แต่กับรุ้ง ผมชมว่าเก่งที่กล้าเผชิญ เพราะหัวข้อดีเบตนั้น คนออกจอ นอกจากรู้จริงแล้ว ต้องคิด-วิเคราะห์ ด้วยภูมิปัญญาและเหตุผลเป็นสังคมทัศน์ได้ด้วย

แค่กล้าขึ้นเวที-กล้าออกจอ เป็นผีรุ่นใหม่โม่แป้งให้พวกสามสัส ในสภาพรุ่นใหม่กระโหลกกลวง กลับหลงเป็นวีรสตรีอาจหาญ มันน่าสมเพชนัก

เขาเขียนโพยให้อ่านแทนในเกมล้มล้างสถาบัน แทนที่จะมีสมองคิดวิเคราะห์เยี่ยงคนมีการศึกษา ว่าประเทศไทย นั้น สถาบันพระมหากษัตริย์ คือราก

กลับแปลงสมองเป็นไขมันชั้นต่ำ เชื่อคำล้างสมองสามสัส ว่าประเทศจะเป็นไท ต้องตัดรากทิ้ง

หาคิดซักนิดไม่ว่า ถ้าตัด “สถาบันกษัตริย์” ทิ้ง ไทยที่เป็นไทอยู่แล้วนั่นหละ จะล้มไปเป็นทาสทันที

ถ้าประเทศล้มไปจริงๆ …….
อย่างรุ่นใหม่ ๓ นิ้ว ที่มีความคิดแค่ปิดถนน กินหมูกระทะ เต้นระบำ โดยไม่สนความเดือดร้อนชาวบ้านไปวันๆ น่ะ

ด้วยคุณภาพคนระดับนี้…..
เมื่อเสร็จนา อำนาจใหม่เข้าครอง เขาจะเลี้ยงควาย ๒ ขาไว้ให้เปลืองหญ้าหรือ?

รุ้งกับพวกแกนนำรุ่นใหม่ กำลังสร้างกรรมหนักให้ตัวเองรู้มั้ย ลำพังตัวเองเป็นควายให้คณะสามสัสสนตะพาย ก็เวรกรรมเฉพาะตัว

แต่การเอา “รู้จำ” จากสคริปต์และโพยที่เขาครอบไปอวดเป็น “รู้จริง” ขึ้นเวทีด่าเจ้า-ด่าสถาบันทุกวันๆ นอกจากฆ่าตัวเองแล้ว ยังฆ่ารุ่นใหม่-รุ่นเก่าในวงจร “สมองอ่อน-อุปาทานหมู่” ไปด้วย

การทำอย่างนั้น พวกเธอได้อะไร?
ได้มีระยำตัวแม่มากอด หอมซ้าย-หอมขวา แล้วยัดเงินพัน-ครึ่งพัน มีล็อบสเตอร์อบเนยฉ่ำๆ มีไวน์ มีหมูกระทะ มีเสื้อเป็ด มีคำประโลมลี้ภัยให้ไปเป็นผู้จัดการบริษัทอะไหล่ยนต์ในสหรัฐฯ

ชนชั้น “นิสิต-นักศึกษา” มีปัญญาคิด-วิเคราะห์ ไม่ต่างแมวหลงกลิ่นปลาย่างทาจมูก แค่นี้น่ะหรือ?

อยากบอกว่า อนาคตสำหรับรุ่นใหม่…..
ถ้าไม่ตายก่อนวัย อย่างน้อย แต่ละคน ยังเหลือไม่ต่ำกว่า คนละ ๕๐-๖๐ ปี สำหรับหายใจ

แล้วพวกเธอจะเอา ๕๐-๖๐ ปี นั้น แลกกับเศษเงินอีซิ้ม เศษอาหารหมา และคำลวงลมๆ แล้งๆ เพื่อล้มล้างสถาบันให้เขา
จะเป็น “บัณฑิตเขลา” กันขนาดนั้นเชียวหรือ?

รุ้ง……
เก็บคุณสมบัติ “กล้าพูด-กล้านำ” ไว้ใช้ในทางถูก-ทางควรเถอะ แล้วเธอจะมีมากกว่าล็อบสเตอร์ทาจมูก ถ้าผมมีความกล้าอย่างรุ้งซักครึ่ง

ป่านนี้ ต่ำๆ ผมเป็นคณะบดี คณะที่เธอเรียนไปแล้ว! เพราะความเป็นคนไม่กล้าพูด-กล้านำอย่างเธอนั่นแหละ ผมจึงดักดานอยู่แค่นักข่าวแก่ๆ รอปลดระวาง แต่ไม่ตกต่ำ เพราะไม่เนรคุณสถาบัน

กลับไปพูดถึงรายการจอมขวัญคืนนั้นอีกนิด ความจริงหัวข้อที่ถกกัน “พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ๒๕๖๑”
มันว่าด้วยตัวบท-กฎเกณฑ์ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พูดกว้างๆ ครอบคลุมถึงการเงิน-การคลัง นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ว่าด้วยตลาดทุน มันมีทั้ง fact และ truth อยู่ในกันและกัน
ไม่ใช่ระดับศิษย์ หรือสักแต่ว่าใครโม้เก่งซักคน ตั้งธงอัดเจ้า ก็จะไปขยายขี้เท่อกับระดับ “ดร.อานนท์” ซึ่งรู้จริง ไม่ใช่รู้จำอย่างรุ้ง

อย่างนี้ต้องระดับเจ้าสำนักผู้มีความคิด “ปฏิรูประบบกษัตริย์” อย่าง ธนาธร, ปิยบุตร, พรรณิการ์ หรือนายธิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เจ้าสำนักก้าวไกล ไปดีเบตกับดร.อานนท์

ต่ำสุด ระดับ “นายอานนท์ นำภา” พอจะได้ซักเพลง-สองเพลง ก่อนตกม้าตาย
แต่พวกเจ้าสำนักนกรู้ ถ้าไป..จะไปพูดพลิกแพลงให้เป็นลบกับสถาบัน หลอกคนฟังที่ไม่รู้ความให้เชื่อตาม ก็จะถูกดร.อานนท์จับไก่

ฉะนั้น เมื่อเจอของจริง หลบเอาเชิงดีกว่า
รุ้ง “ตีตั๋วเด็ก” ออกจอแทน เลยเป็นพังแป้นแบนแต๊ดแต๋คาจอ!

นี่….
ยิ่งตอกย้ำการคัด 100 Women 2020 ของ BBC ว่าคัดจาก “เนื้อหา” ในกะโหลก หรือคัดจากความเป็น “แนวร่วม” ในด้านสินค้าข่าวล้มเจ้า?

ถ้าสังคมโลกถาม “นอกจากให้อวัยวะเพศประธานรัฐสภาแล้ว”
รุ้ง-นักศึกษาปี ๓ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ธรรมศาสตร์ ผู้อ่านประกาศ “กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฉบับที่ ๑”

เสนอ ๑๐ ข้อเรียกร้อง บนเวทีธรรมศาสตร์ เมื่อ ๑๐ สค.๖๓ ให้ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์”

และยื่นจดหมายเปิดผนึก ผ่านผบช.น.ถึง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ด้วยข้อเรียกร้องนั้น
ทั้งให้ “นายกฯประยุทธ์” ลาออกจากตำแหน่ง โดยบอกไม่ได้ว่า บริหารผิดพลาด-บกพร่อง ให้อยู่ต่อแล้วจะเสียหายต่อประเทศ ชนิดร้ายแรงตรงไหน อย่างไร?

ทั้งพูด “ตามที่ถูกครอบ” ให้เขาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมถึง “หมวดพระมหากษัตริย์” ด้วย
การเรียกร้องแบบเถื่อน ไร้เหตุผล เพียงคนกลุ่มหนึ่ง แพ้ในระบบสภา ก็ใช้ระบบลงถนน กระทำการเข้าข่าย “กบฏ-ล้มล้าง” โง่ๆ อย่างนี้น่ะหรือ
“ได้มาตรฐาน BBC”
ถึงขั้นจัดเข้าทำเนียบ 100 Women 2020 ของโลก?

ผู้บริหาร BBC มีคำอธิบายใดเป็นเหตุผลที่รับฟังได้ ลองบอกให้สังคมโลกได้ฟังซิ
ไม่อย่างนั้น จะชวนให้เข้าใจว่า…..

ที่ยกรุ้งซึ่งตันไม่ต่างครกขึ้นเป่าแทนแตร เพราะ BBC ร่วมเครือข่ายล้มเจ้าด้วย จึงใช้ยี่ห้อ BBC สร้างกระแสปั่นครก?

พูดถึงสำนักข่าว BBC เฉยๆ เป็นนามธรรม ไม่มีตัวตน ความจริงมี คือนายโจนาธาน เฮด (Jonathan Head)

นายคนนี้ เป็นหัวหน้าข่าว BBC ประจำไทย รากงอกอยู่ในไทยมานาน สุมกันอยู่ที่ “สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ” แถวเพลินจิต

เคยถูกดำเนินคดีฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตาม ป.อาญา มาตรา ๑๑๒ มาแล้ว เมื่อปี ๒๕๕๐

จากการเป็นพิธีกรรายการให้ “จักรภพ เพ็ญแข” พูดเรื่องประชาธิปไตยกับราชาธิปไตย เป็นพิธีกรดำเนินรายการให้พวกจานมหา’ลัยพูดเรื่อง Coup, Capital and Crown

ทั้งเขียนลงเว็บบีบีซีนิวส์ หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ต่ำกว่า ๒ ครั้ง
ก็ไม่ทราบว่าคดีไปถึงไหน เพราะเห็นนายเฮดยังกร่างใช้ BBC บ่อนไส้ไทยเป็นระยะ

วานซืน นายเฮดยังไปสัมภาษณ์หมอวรงค์ ประธานกลุ่มไทยภักดี หมอโพสต์เล่าการให้สัมภาษณ์ BBC ถึงม็อบคณะราษฏร ว่า

“วันนี้ มีโอกาสให้สัมภาษณ์ คุณ Jonathan Head จาก BBC ในหลายๆ มุมมอง กรณีผู้ชุมนุม พอสรุปประเด็นคร่าวๆ ผมคิดว่า มีโอกาสอธิบายให้เขาเข้าใจในหลายๆ ประเด็น เกี่ยวกับสังคมไทย วิถีไทย การเมืองไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์

สิ่งที่ผมยืนยันคือ เราเข้าใจน้องๆ ที่มาชุมนุม เพราะบางอย่าง เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่พวกเราต้องอธิบาย

ประกอบกับธรรมชาติของวัย ……
วันหนึ่ง เมื่อเขามีประสบการณ์มากขึ้น เขาจะเข้าใจเองว่า ทำไมประเทศไทยต้องมีสถาบันฯ



สิ่งที่ผมยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ข้อเรียกร้องที่อ้างต้องการแค่ปฏิรูปสถาบันฯ นั้น ไม่ใช่ เพราะเป็นแค่วาทกรรม ทั้งท่าที พฤติกรรม ความหยาบคาย การแสดงออก การสาดสีน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงสถาบันฯ
การถือธงในที่ชุมนุม มีแต่สีแดง-ขาว และสามนิ้วกลางธง แต่ไม่มีสีน้ำเงิน การถือธงที่มีคำว่า Republic of Thailand รวมทั้งการปราศรัยที่ถนนอักษะ

ที่บอกว่า จะรัฐประหารโดยประชาชน และมีคำพูดว่าจะราชประหารว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การปฏิรูป แต่คือการล้มล้าง
ผมยังย้ำว่า ถ้าต้องการปฏิรูป มันต้องมีท่าทีที่เป็นมิตร เพราะการปฏิรูปต้องการทำให้ดี เอาแค่ ๑๐ ข้อที่เรียกร้องก็ไม่ใช่การปฏิรูป เพราะสถานะของสถาบันฯ ในแง่สิทธิ และเสรีภาพ ยังต่ำกว่าประชาชน
และผมย้ำอีกว่า การใช้คำหยาบของม็อบ สังคมไทยรับไม่ได้ แม้คำพูดเหล่านี้ เกิดขึ้นที่อังกฤษ ก็ต้องถูกดำเนินคดี เพียงแต่กฏหมายประเทศไทยยังอ่อนในการบังคับใช้

ผมยังเชื่อด้วยว่า…..
การชุมนุมครั้งนี้ มีการแทรกแซงจากต่างชาติ ไม่ใช่แค่เงินบริจาค ผ่าน NGOs ของต่างประเทศ แต่รวมถึงหลายๆปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การที่นักการทูตต้องมาสังเกตการณ์หลายๆ ครั้ง
การที่นักศึกษาต้องถือธงชาติอุยกูร์ ทิเบต ไต้หวัน และฮ่องกง รวมถึงการที่นักศึกษาไปประท้วงหน้าสถานทูตจีนเรื่องต่อต้านจีนเดียว



รวมถึงการประชุมทูต ๕ ประเทศ ที่สถานทูตอเมริกา ภาพโดยรวมเหล่านี้ บ่งบอกว่า “มีการแทรกแซงเกิดขึ้น”

เขาบอกว่า ผมมองว่า “น้องได้รับข้อมูลด้านเดียว จนเหมือนถูกล้าง” ในมุมกลับ เขามองว่า “ผมก็ถูกล้างสมอง”
ผมก็เลยถามกลับไปว่า….
อย่างผมเหรอที่จะถูกล้าง เพราะทุกอย่าง ผมยืนหลักความจริง ทั้งเหตุและผล และทุกอย่าง มาจากจิตวิญญาณ ตลอดจนข้อมูลที่มีเอกสารอ้างอิง

ที่สำคัญ ……
ผมย้ำว่า ถ้าต้องการแก้ปัญหาประเทศ เพื่อความอยู่ดีกินดี ต้องแก้ที่นักการเมือง ไม่ใช่สถาบัน เพราะอำนาจงบประมาณ ทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาล และนักการเมือง

ผมยืนยันว่า….
ประชาชนชาวไทยไม่รู้สึกว่า “สถาบันท่านเป็นปัญหาต่อประชาชนเหมือนนักการเมือง” นี่คือบทสรุปคร่าวๆ ครับ”

ฮื่อ….
ยาวแล้ว จบดีกว่า จะมาคุยใหม่สัปดาห์หน้าโน่น.

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกน สแกน QR Code


Written By
More from plew
ว่าด้วย “ล้วงลูก” ของรัฐมนตรี
พูดเรื่องย้ายผอ.รพ.ขอนแก่น “นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล” มา ๒ ครั้ง วันนี้ คงต้องอีกสักครั้ง เป็น “บทพิสูจน์” ในทางบริหาร-จัดการของรัฐบาล ที่ประกาศ...
Read More
0 replies on “เหตุจาก “เลือดนอง” กลางจอ”