เปลว สีเงิน
ถึงตอนนี้……..
“ม็อบรุ่นใหม่” ก็หนังกลับ “คืนสภาพจริง”
“นักเรียน-นักศึกษา” แค่ผักชี
นปช.ทักษิณ “เสื้อแดงแจ๋ “เนื้อแท้ ชัดเจน!
แรกๆ แฝงเด็ก พอนานไป เด็กยืนระยะไม่ไหว และเริ่มรู้สึก แก๊งสามสัสผสมอาจารย์ “หลอกใช้” เกินที่ตกลง จึงถอยห่าง
“ม็อบชั่วคราว” ก็โหรงเหรง แล้วจะทำไง ในเมื่อมาครึ่งทางแล้ว ถอยก็อายหมา
แต่นั่นไม่เท่าไหร่ พวกจานที่นำหน้าและซุกตูด ทั้งจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรฯ และฯลฯ จะพลอยเสียหมาไปทั้งหมดนี่ซี
“แดงแท้” ระบอบทักษิณ มีเกี๊ยะทับรับประกันคุณภาพ จึงต้องโผล่ออกยืนโรง ประกาศตัวชัดเจน ที่ถนนอักษะ เมื่อวาน (๒๕ พย.๖๓) ที่หน้า SCB PARK รัชโยธิน
และ ต่อๆไป ที่เพนกวินประกาศ ๕ นัด ๕ วัน ๕ คืน จะชุมนุมต่อเนื่องต่อจากเมื่อวาน
ป้ามุด “นิสิตแดง” สายอาชีพ ต้องยืนหน้าเวทีโดดเด่นเป็น “รุ่นใหม่” เต็มตัว ให้ธนาธรได้ปลื้มแน่
ธนาธรตะโกนปลุกใจ…..
รุ่นใหม่ “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส”
แต่เมื่อรุ่นใหม่ “ลายลอก” คืนสภาพแดงระบอบทักษิณเช่นนี้ ธนาธรจะเปลี่ยนม็อตโตเป็นไรดีเอ่ย?
“สู้เป็นเพื่อไทย ถอยเป็นอนาคตใหม่” ผมว่าเก๋นะ เอาไปใช้ได้เลย ผมไม่คิดเงิน เหมือนเอเจนซีที่ใช้อยู่หรอก
นึกย้อน แล้วนำแต่ละช็อตมาลำดับความ จะเห็นชัด ปฏิบัติการ “ล้มล้างสถาบัน” มาจาก
“แอบหวัง” แล้วผิดหวังก็ “ฝังเป็นแค้น”
ไม่แค้นเฉยๆ…….
แต่ถึงขั้น “อาฆาตแค้น”!
ฉะนั้น จะเห็นว่า แต่ละครั้งชุมนุมของม็อบรุ่นใหม่ จะมีธีมแตกต่างกันไปไม่ซ้ำ ซึ่งไม่ต่างกับการจัดอีเวนท์ นั่นหมายถึงว่า
๑.ชุมนุมแต่ละครั้ง ต้องใช้ทุนเป็นล้านขึ้น
๒.แกนนำ แค่แสดงตามสคริปต์ที่ฝ่าย “ออกแผน” จัดทำให้แต่ละครั้งบนเวที
๓.พ่อยก-แม่ยก ที่บริการอาหารและอุปกรณ์ เป็นตัวออกหน้าแทนนายทุน ไม่ได้เป็นตัวออกเงินเอง
๔.กิจกรรมหน้าเวที พร็อพต่างๆ อย่างเป็ด อย่างไดโนเสาว์ กระทั่งดรามา “นักเรียนข่มขืน” นั่นไม่ได้มาเอง
หากแต่มีตัวการ “คิด-ออกแบบ-นำแสดง” คือ เป็น “ขบวนการร่วม” ในปฏิบัติการล้มล้างนี้
๕.แต่ละครั้งนัดหมายและการกำหนดรูปแบบ จะมีฝ่ายครีเอทโหมประโคมผ่านโซเชียลมีเดีย พวกแกนนำเพียง “ซ้ายหัน-ขวาหัน” ตามเท่านั้น
เหล่านี้ บ่งถึงคนอยู่เบื้องหลังม็อบ “ทุ่มทุน” สุดตัว จะเรียกว่า “เดิมพันสุดท้าย” เหมือนสงคราม ๙ ทัพก็ไม่ผิด
เป็นม็อบไฮเทค…..
วางตำแหน่งเป็นสินค้าบุกตลาดตัวหนึ่ง จ้างเอเจนซีมืออาชีพวางแผนทางการตลาดในทุกขั้นตอน ชนิด ฉิบหายเท่าไหร่ไม่ว่า ขออย่างเดียว “ล้มเจ้า” ต้องสำเร็จ!
เพราะนี่คือ “อาฆาตแค้น” ของคนๆ หนึ่ง ที่หวังแล้วผิดหวัง เกือบพังทั้งโคตร
๓-๔ เดือนมานี้ “พันล้าน” วางไว้เลย ในเกมไขลานแกนนำม็อบเพื่อให้แค้นนี้สมหวังดังอาฆาต
ก็คิดแล้วกัน ลำพัง อานนท์-เพนกวิน กเฬวรากทั้งหลาย มีปัญญามั้ย
ลำพังสามสัสก็เถอะ ใจถึงขนาดนั้นมั้ย ถ้าไม่ใช่มีนายทุนซุกอยู่ข้างหลัง ยอมสู้เป็นพัน-เป็นหมื่นล้าน แลกกับ “ล้มเจ้า-ล้มประเทศ”
ซึ่งถ้าสำเร็จ ทั้งคุ้ม-ทั้งหายแค้น แผ่นดินนี้ผลัดกันเป็นประธานาธิบดี ๒ ตระกูล เพลินไปเลย!
ในขณะที่ตัวการจ่ายพันล้าน เรานึกกันบ้างมั้ย ว่าในเกมนี้ เรา-ประชาชนทั้งหลาย ต้องจ่ายค่าความระยำของพวกนี้ไปแล้วมากกว่ากี่สิบ-กี่ร้อยเท่า?
ม็อบมาแต่ละครั้ง ต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยงตำรวจเฉียดหมื่นนาย ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ ค่าน้ำมัน ยังไม่นับค่าเสียหายจากถูกทุบทำลาย
และการปิดถนนแต่ละครั้ง สูญเสียทางเศรษฐกิจเท่าไหร่ ชาวบ้านเดือดร้อนเท่าไหร่ คิดเป็นตัวเงิน รวมๆ แล้ว พันล้านยังไม่พอ
แล้วเงินใคร?
นี่แหละ “เงินภาษีกู” โดยตรงละ ไอ้สัสทั้งหลาย!
และจะต้องจ่ายไปเพื่อความระยำหมาพวกนี้อีกนาน จนกว่าพวกแกนนำ-แกนหนุน ตายโดยธรรมชาติ หรือตายโหง ไม่ก็ตายห่าไปเอง
เอาส่วนต้องจ่ายไปกับม็อบ ขั้นต้นวางไว้พันล้าน ไปรวมกับที่พวกสส.เขาตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ วางไว้เลย ๑๕,๐๐๐ ล้าน
รวมแล้ว “เงินภาษีกู” ต้องถูกพวกจัญไรสร้างเหตุผลาญไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ในยามที่ประเทศลำบาก ไม่หนี ๒ หมื่นล้าน!
เห็นจะไปสำนักงานทรัพย์สินฯ และเที่ยวตะโกน เที่ยวทวีตโง่ๆ นั่นภาษีกู นี่ภาษีกู
หมั่นไส้ อยากถามเหมือนกันว่า รุ่นใหม่ แบมือขอตังค์มาเรียนน่ะ เคยต้องจ่ายภาษีอะไร?
พวก NGOs ปากดีทั้งหลายนั่นเหมือนกัน สรรพากรไปตรวจดูทีเถอะว่า พวกนี้ไปขอเงิน-ขอทุนที่โน่น ที่นี่ได้กันมาปีละเป็นล้านๆ เป็นสิบๆ ล้านก็มี
ตรวจดูที ว่าเสียภาษีกันดีอยู่หรือ?
ถ้าเสียสมกับที่เที่ยวตะโกนถามคนอื่น จะได้เอาชื่อมาช่วยกันสรรเสริญ ว่า NGOs เป็นคนดี ไม่ใช่พวก “เสแสร้งดี” ชังชาติ!
จำกันได้มั้ย…….
ท้ายๆ ของอวสานเสื้อแดง พวกไพร่ทำเป็นสวมเสื้อ “เรารักพระบรม” ท่านรับสั่งให้เลิก ก็เลิกทันที นั่นทำเพื่ออะไร?
เด็กอมมือมันก็รู้
ตื้นๆ โง่ๆ นึกว่าทำเป็น “ลิ่ม” ตอนนั้นแล้ว เมื่อแผ่นดินเปลี่ยนรัชกาล แผนที่หวังกลับมาเป็นโจโฉ จะสำเร็จ?!
คิดร้อยครั้ง ผิดร้อยครั้ง จึงต้องพังเกือบยกโคตร กระนั้น ก็ยังไม่สำนึก
จากทำเป็นรัก เพื่อลวง เมื่อไม่สมหวัง รักเปลี่ยนเป็นอาฆาตแค้น ทั้งสมคบนอก-สมคบใน ในยุทธการใหม่
ตีโจทย์แตกว่า……
ประเทศไทย จะทำการให้สำเร็จ ต้องใช้เด็ก “นิสิต-นักศึกษา” นำหน้า
เช่น ตอน ปี ๒๕๐๐ จอมพลสฤษดิ์โค่นจอมพลป.
ตอน ๑๔ ตุลา.นิสิต-นักศึกษา โค่นถนอม-ประภาส
ตอนนี้ ถึงรอบ ๓๐ ปี ……
ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสขี่กันในราศีมังกร “ภพดวงเมือง” สัญญานถึง “ประเทศลอกคราบครั้งใหญ่”
แผนการ จึงต้องใช้นักเรียน-นิสิต-นักศึกษาชูภาพ “คนรุ่นใหม่” กระหายอนาคตออกนำหน้า
แรกๆ นำร่องด้วย “คนกระหายเลือกตั้ง”
เมื่อเลือกตั้งแล้ว แตกพรรคแล้ว ก็ฉิบหาย เครือข่ายไม่ได้เป็นรัฐบาลคุมอำนาจประเทศ
แผน ๒ มาเลย……
นายกฯ ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลสืบต่ออำนาจเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องไล่ออกไป
ไม่มีใครรับลูก เพราะประยุทธ์เข้ามา ๔-๕ ปี โครงการพัฒนาประเทศเดินหน้า ถนนหนทาง รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ อีอีซี พึ่บพั่บ สวัสดิการประชาชน ถึงมือ-ถึงปาก ไม่มีใครชักหัวคิว
มาแผน ๓ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดี ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องฉีกทิ้ง ตั้งสสร.เขียนใหม่
ก็ทั้งนิสิต-นักศึกษา-จานมหา’ลัย กลุ่มจัดตั้ง เวียนกันตะโกน ต้องแก้-ต้องเขียนใหม่ทั้งฉบับ
ไม่มีใครรับลูก นอกจากเพื่อไทย-อนาคตใหม่ ที่สลายพันธุ์เป็นก้าวไกล เดิม ๑ แค้น ๑ อาฆาต พออนาคตใหม่ยุบพรรค กลายเป็น ๒ แค้น ๒ อาฆาต
เกม “ลงถนน” ตามด้วยเกม “ไฟลามทุ่ง” ก็ปะทุต่อเนื่องเรื่อยมา แรกๆ ก็ด่าประยุทธ์-ไล่ประยุทธ์ ต่อมา ก็พ่วงด้วย ฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่
ชักมันเขี้ยว ไฟจุดติด จากติดตาม มหา’ลัย ก็ลากออกมาติดข้างนอก จากไล่ประยุทธ์ ฉีกรัฐธรรมนูญ
๓ สิงหา-๑๐ สิงหา.๖๓ อานนท์ “เสิบสาน” หลุดแผน เอาโปมาเปิดกลางบ่อน “ก่อนถึงเวลา” ที่พวกเขากะการณ์
ยื่น ๑๐ ข้อเสนอ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์”!
ถึงวันนี้ รัฐมนตรีถาวร เสนเนียม ถอดรหัส ๑๐ ข้อเสนอนั้น ตามหลักกฎหมายออกมาชัดแล้วว่า
ปฏิรูป คือข้ออ้าง ล้มล้างคือ ความจริง!
ทั้งหมด-ทั้งมวล เข้าตามตำรา “คนคิดร้ายสถาบัน มันจะตายเอง”
ตอนนี้ ประยุทธ์อยู่หรือไป รัฐธรรมนูญเขียนใหม่หรือไม่เขียน ม็อบส้มแดง ๓ นิ้ว ไม่สนใจแล้ว
มุ่งหน้า “ล้มล้างสถาบัน” อย่างเดียว!
คนไม่ซื่อ ทำอะไรก็ย่อมไม่ซื่อ เมื่อไม่ซื่อ ถือว่า “ผิดฟ้า-ผิดดิน” ย่อมเป็นโทษ
ปี ๒๕๐๐ นิสิต-นักศึกษาที่ออกมา ออกด้วยซื่อและสัตย์ต่อแผ่นดิน ต่อสถาบัน
ปี ๒๕๑๔ นิสิต-นักศึกษาออกมา ออกด้วยซื่อและสัตย์ต่อแผ่นดิน ต่อสถาบัน
แต่ปีนี้ ปี ๒๕๖๓…….
นิสิต-นักศึกษาที่ออกมา เป็นนิสิต-นักศึกษา “สามสัส” ปลุกเสก ไม่ซื่อ ซ้ำอสัตย์ต่อแผ่นดิน ต่อสถาบัน
ฉะนั้น จะจบที่คุก!
