ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
นี่..ถ้าคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังอยู่ร่วมคณะรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คงไม่โดนสื่อใหญ่คอยกระทุ้งกระแทกไม่เว้นวันเช่นในตอนนี้ ซึ่งคุณสมคิดจะมี “ลิ้นสาลิกา” หรือเวทย์มนต์อะไรนั้น ผมก็ไม่รู้..
ที่รู้..ลาออกจากรองนายกฯปุ๊บ สื่อใหญ่หันปากกาเสียบนายกฯ ลุงตู่ปั๊บ ถ้านับถึงวันนี้น่าจะเกิน 100 รู!
เอ้า..มาทำความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อน..ผมพูด-อธิบายอาจสับสน ฟังจากคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เองจะดีกว่า..
“กราบสวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนๆทุกๆ ท่านครับ ผมขอชี้แจงเรื่อง เฝ้ารับเสด็จ ในหลวงและพระราชินี
ในโอกาสที่เสด็จไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
ในวันอาทิตยที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.00 น. พระองค์ท่านจะเสด็จ เวลา 17.00 น.
พวกเราจะได้มาเจอกันก่อน มาพูดคุยถึงวัตถุประสงค์ ระเบียบในการเข้าเฝ้ารับเสด็จ เราทุกคนจะไปด้วยหัวใจจงรักภักดี ให้ทั่วโลกได้เห็นความสามัคคีที่มีความรักต่อชาติศาสน์กษัตริย์
และเข้าใจว่าพสกนิกรทั้งแผ่นดินไทยที่แท้จริง ยังภาคภูมิใจที่เกิดบนผืนแผ่นดินไทยใต้ร่มพระบารมี
เราคนไทยยังรู้ว่า เราโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลกทุกรัชกาลสืบราชสันตติวงศ์ เราเทิดทูนทั้งสามสถาบันด้วยปัญญาตัวเอง
เราเทิดทูนรัชกาลที่ 10 จากพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงทำเพื่อพสกนิกรเยอะมากๆ มาตลอด ตั้งแต่ยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
ได้เข้าใจว่าการเป็นพระองค์ท่านซึ่งทรงเป็นรัชทายาทนั้น ต้องเจอกับอะไรรอบด้านไม่ง่ายเลย
เพื่อน้อมถวายกำลังพระราชหฤทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จะก้มลงกราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มากล้นด้วยบุญญาธิการ มากล้นด้วยฤทธิ์เดชและพระบารมี
กระผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วนะครับ ที่เราต้องแสดงให้อีกฝ่ายเห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของพวกเราอย่ากลัวครับ เราจะไปอย่างสงบเรียบร้อย
เรื่องเสื้อในการสวมใส่บางท่านไม่มีเสื้อสีเหลืองไม่มีสีชมพู ผมคิดว่าท่านจะใส่สีอะไรก็ได้ครับ ยกเว้นสีดำ
เพราะการรักและ และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องมีสีเสื้อ สีอะไรก็ได้ครับ ขอให้เป็นสีแห่งความจงรักภักดี
ต่อไปนี้เราจะไม่แบ่งสีเสื้อนะครับ ทุกสีคือคนไทยและเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
กราบขอบคุณ ด้วยดวงใจอันบริสุทธิ์ของผม หัวใจของผมคือ ชาติศาสนาและองค์พระมหากษัตริย์ ผมมิได้ทำเพื่อผู้หนึ่งผู้ใด”
ครับ..ตามนี้ ไม่มีการเมือง ไม่มีฝ่าย ไม่มีสี ดังที่คุณพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง ได้เคยกล่าว..
“พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน”