“มิจฉาชีพมันมีนะลูกหลานนะ เปิดบัญชีขึ้นมาอีก ในนามของวัดป่านาคำน้อย ฝ่ายตำรวจผู้ติดตาม YouTube Facebook สื่อเขาก็ติดตาม ที่ไหนก็ได้ ผลที่สุดก็เป็นพระอีกต่างหาก นี่แหละอันนี้ก็คือเป็นมิจฉาชีพส่วนหนึ่ง คล้าย ๆ กับปลอมแปลง ไม่น่าจะเกิดขึ้นในพุทธศาสนาของเรา โกหกพกลมต้มตุ๋น
หลวงพ่อก็พูดแล้วพูดอีก ศีลข้อที่ ๔ อย่าไปโกหกต้มตุ๋นหลอกลวงคนอื่นเขา เปิดบัญชีในนามของวัดป่านาคำน้อยเพื่อซื้อที่ดิน เพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือ หลวงพ่อได้ยิน
อืม.. ลูกหลานไม่น่าจะทำอย่างนั้น เราไม่เคยคิด ไม่เคยทำ แต่มาแอบอ้าง สิ่งเหล่านี้ก็อย่าให้เกิดให้มีนะลูกหลานนะ เพราะทุกวันนี้มันสันติบาลเขาติดตาม เขาก็ล็อกได้แล้วนะ เขาจะมาถามตามตัวละ ถ้าหากว่าไม่ยอมก็ คงจะเอาเข้าห้องขังนะ มันผิดกฎหมายโทษอาญา
แต่หลวงพ่อก็ไม่เอาโทษเอากรรมอะไรหรอก แต่ให้บอกประกาศ ตัวเองทำไว้ก็ประกาศประจานตัวเองซะ ข้าพเจ้าจะไม่ทำอีก ถ้าไม่ประจานตัวเองไม่บอกกล่าวนะ เอาดำเนินตามกฎหมาย แต่อย่ามายุ่งกับหลวงพ่อนะ หลวงพ่อไม่ได้เกี่ยวยุ่ง กฎหมายบ้านเมืองเขาว่ายังไง ใครทำผิดก็ต้องผิดนะว่าอย่างนั้น จะถูกได้ยังไง มันทำผิด แต่หลวงพ่อไม่ถือโทษโกรธเคืองกับใครหรอก แต่ก็ว่ามันผิด หลวงพ่อจะไม่ทำอย่างนั้น
หลวงพ่อบอกแล้วบอกอีก อย่าต้มตุ๋นหลอกลวงคนอื่นเขานะ อันนี้ปลอมแปลงอ้างอิงเปิดบัญชีเพื่อเข้าบัญชีตัวเอง ทำได้ยังไง มันคิดได้ยังไง มันเป็นมิจฉาชีพนะลูกหลานนะ ทำลักษณะอย่างนั้น กรรมชั่วอย่าทำเสียเลยดีกว่า เมื่อทำกรรมชั่วลงไปแล้วนะ กรรมชั่วนั้นจะตามให้ผล ตนเองนั่นแลจะเดือดร้อนเมื่อภายหลัง
หลวงพ่อพูดแล้วกล่าวอีก อะกะตัง ทุกกะฏัง เสยโย ปัจฉา ตัปปะติ ทุกกะฏัง กรรมชั่ว คิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว อย่าทำเสียเลยดีกว่า เมื่อเราทำลงไปแล้วนะ กรรมชั่วที่ทำลงไปนั้น จะตามให้ผล ตนเองนั่นแลจะเดือดร้อนเมื่อภายหลัง”
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “อย่าหากินกับวัดวาศาสนา”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓
