22 กันยายน 2563 เวลา 13.20 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เผยถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบโครงการ/แผนงานการใช้จ่ายงบประมาณจาก พ.ร.ก. กู้เงินฯ เพื่อนำมาดูแลประชาชนซึ่งจะทยอยใช้ตามโครงการต่าง ๆ เป็นระยะ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย และโครงการคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะใช้วิธีร่วมจ่าย (Co-pay) เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอยให้ได้รับประโยชน์
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายย่อยจะต้องได้รับ QR Code เพื่อที่รัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินดังกล่าวผ่านระบบ E-Wallet ได้โดยตรง เพราะเมื่อมีคนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นก็จะเป็นการเพิ่มรายได้แก่ พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้ารายย่อยในตลาด สามารถนำไปต่อยอดและก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบมากขึ้น
จากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความจำเป็นในการคง พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เนื่องจากกฎหมายสาธารณสุขในปัจจุบัน ไม่เพียงพอที่จะบูรณาการทำงานของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการเดินทางเข้า – ออก ประเทศไทย รวมทั้งกฎหมายหลายฉบับยังไม่ครอบคลุมให้เกิดการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีกำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษในเดือนพฤศจิกายน คือวันที่ 19-20 พฤศจิกายน นี้ เป็นช่วงเวลาเดียวกับการปิดเทอมของนักเรียน จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบครอบครัว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าแม้จะเป็นช่วงวันหยุดแต่ในส่วนงานบริการของภาครัฐก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน