2 ก.ย.63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ลงพื้นที่ติดตามแนวทางการพัฒนาฟื้นฟูคลองแสนแสบ ในพื้นที่เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปยัง สนง.เขตบางกะปิ เพื่อรับทราบความคืบหน้า แนวทางการพัฒนาฟื้นฟูคลองแสนแสบ จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคลองแสนแสบเป็นคลองที่อยู่ในความดูแล ของกรมธนารักษ์มีความยาวตลอดสาย 72 ก.ม. ลำน้ำเริ่มต้นจากคลองมหานาคไปสุดเขตกรุงเทพฯ เชื่อมกับคลองบางขวาก และไหลลงแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
คลองแสนแสบในพื้นที่กรุงเทพฯ มีความยาว 45.5 ก.ม. กว้าง 20-30 ม. ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีแนวโน้ม ของชุมชนเมืองเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้คลองแสนแสบ กลายเป็นแหล่งรับน้ำทิ้ง จากบ้านเรือน ชุมชนและสถานประกอบการ ที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ และคลองสาขา ทำให้คุณภาพน้ำมีค่าความสกปรกสูง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองแสนแสบ
ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย มาโดยตลอด ตามแผนงานระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว ได้แก่ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน และกรมธนารักษ์ ทั้งการบังคับใช้กม. การให้ความรู้ การขุดลอกตะกอน การเก็บขยะและวัชพืช การปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดระเบียบทางเดินริมฝั่งคลอง การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบาย ที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม อย่างเร่งด่วน โดยกำชับ กรมธนารักษ์ เร่งส่งมอบการดูแลคลองแสนแสบให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ และกำชับกทม. กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเจ้าท่า ให้ร่วมฟื้นฟูคลองแสนแสบ ในระยะเร่งด่วน
เพื่อลดผลกระทบแก่พี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมคลองได้แก่ การขุดลอกดินเลน การควบคุมคุณภาพน้ำ การตรวจจับความเร็วเรือโดยสารขนาดเล็ก และการแก้ปัญหาการรุกล้ำริมคลอง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมชลประทาน และ สนทช. เร่งบริหารจัดการน้ำ ตามแผนงาน/โครงการให้เกิดประสิทธิภาพ ตลอดแนวคลองแสนแสบ และคลองสาขา
พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งบูรณาการทำงานร่วมกัน กับภาคประชาชน จิตอาสา สร้างการรับรู้ และทำเป็นต้นแบบการพัฒนา ให้กับคลองอื่นๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขอนามัยที่ดี ของประชาชน/ชุมชนริมคลองแสนแสบ อย่างยั่งยืน ตลอดไป