ถ้าบอกว่า “นักเรียน-นักศึกษา” ขณะนี้ เปรียบเหมือนดอกไม้ที่กำลังบาน
ก็ต้องเสริม ว่า……
เป็นการบานในแปลงบ่มเพาะของจักรวรรดินิยมตะวันตก “สหรัฐฯ-ยุโรป”
ที่หว่านปุ๋ยผ่าน เอ็นจีโอ, องค์กรช่วยเหลือทางสังคมและทางการศึกษา ที่แทรกไปตาม ชุมชน โรงเรียน มหา’ลัย วัด ในคราบนักบุญทางสังคมกระทั่งในพรรคการเมือง ในสภา ในรัฐบาล ในวงการข้าราชการ สื่อ ก็มีซึมแทรกอยู่ทั่ว
ไม่ใช่เพิ่งมีปี-สองปี แต่มีมายาวนาน ทั้งตัวตน ทั้งวิธีการให้ทุน เหมือนให้เพ็ด ดีกรี ในรูปแบบต่างๆ
ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจ………
ที่เห็นนักเรียน-นักศึกษา “พรึ่บ” ได้พร้อมกัน เหมือนว่าใจตรงกัน ใจจึงสั่งมาร่วมกันเอง โดยไม่มีใครนัดหมาย
มารวมกันชูป้าย มาตะโกนหาประชาธิปไตย “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ของปิยบุตร
และไปไกลถึงขั้น…….
ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน เดินหน้าล้มล้าง!
ถามกันว่า มารูปแบบเดียวกับที่สหรัฐ-ยุโรปใช้ “ปฏิวัติฮ่องกง” ใช่หรือไม่?
ก็ไม่รู้….
สังเกตเอาละกัน การบานของดอกไม้นักเรียน-นักศึกษา มันเป็นการบานแบบมี “เชียร์ ลีดเดอร์” กำกับระบบ-ขั้นตอน
แล้วใครคุมระบบและจัดขั้นตอนเคลื่อนไหว-สั่งการ?
คนนั้นชื่อ “ทวิตเตอร์” ไง!
นักเรียน-นักศึกษาคนไหนไม่มีมือถือบ้างล่ะ ๒๔ ชั่วโมง เว้นนอนหลับ ไม่เพียงนักเรียน-นักศึกษาเท่านั้น เกือบทุกคน ไม่ก้มหัวให้ใคร………
นอกจาก “จอมือถือ”!
ดังนั้น ใครที่บอกว่า “ผมไม่เกี่ยว-ผมไม่ไปชุมนุม” กับการชุมนุมของนักเรียน-นักศึกษา
ไอ้คนนั่นแหละ “ตัวการ” ที่คอยสั่งการ นัดแนะ แต่ละขั้นตอน แต่ละมูฟเม้นท์ ผ่านทวิตเตอร์ ในม็อบ “ล้มประเทศ-ล้มสถาบัน”
เข้าใจตรงกันแล้วนะ!
ปฏิบัติการขั้นต่อไปของ “โจชัว หว่อง เมืองไทย” จะตามสเต็ปที่ฮ่องกงหรือไม่ ก็คอยตามดู
ถ้านักเรียน-นักศึกษา ชูป้าย “Liberate Thailand” วันไหน เอาธงชาติสหรัฐ, ธงชาติอังกฤษมาโบก กระชากฉีกธงชาติไทยกระทืบ
แบบนั้น-วันนั้น ต้องไปถามผู้รู้ อย่าง “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” ในฐานะผู้ชำนาญการประชาธิปไตย ว่ารุ่นใหม่ มาถึงจุดนี้ได้เพราะใคร?
และแบบนี้ สไตล์ฮ่องกงโมเดลมั้ย? ก็ให้เขาช่วยอธิบายเป็นวิทยาทาน!
นักข่าวอังกฤษเสือกกะโหลกให้เห็นเป็นหน่อ-เป็นแนวนำร่องแล้วมั้ยล่ะ นายกฯ ถีบหน้าด้วยปิยวาจากลับไปแบบผู้ดีไทยนวลๆวานซืน
ถ้าจริงใจต่อคำถามในหน้าที่สื่อ นักข่าวอังกฤษคนนั้นต้องไม่ทำตัวและตั้งคำถามกับนายกฯ หรือกับใครอย่างนั้น คือ อย่างที่มันตะโกนถามนายกฯว่า
-“มีเด็กๆ เรียกว่าท่านเป็นนายกฯ เผด็จการ รู้สึกอย่างไร?”
-“ที่ผ่านมา นายกฯ ยืนยันว่า มีการรับฟังเสียงของเด็กๆ มาตลอด แต่บนเวทีการชุมนุมยังยืนยันว่านายกฯ ไม่ได้รับฟังเสียงเรียกร้องจากพวกเขาที่มีหลายประเด็น
โดยเฉพาะข้อเรียกร้องเรื่องการ “ปฏิรูปสถาบัน” จะสามารถตอบสนองได้มากน้อยเพียงใด?”
ประเทศไทย ในสถานการณ์โลก มีประเด็นที่สังคมโลกหรือสังคมอังกฤษสมควรได้รับรู้มากมาย
เช่น ทำไมการสาธารณสุขไทยจึงดีที่สุดในโลก ในขณะที่อังกฤษ เจริญด้วยวิทยาการแพทย์ กลับป่วย ๓ แสนกว่า ตาย ๔ หมื่นกว่า แต่ไทย เคยป่วยแค่ ๓ พันกว่า ตายแค่ ๕๐ กว่าเท่านั้นเอง?
และมีวิธีการอย่างไร ทำให้ไทยเป็นประเทศ “ปลอดโควิด” ในขณะที่ทั้งโลก แม้ชาติที่ก้าวหน้าทางวิทยาการแพทย์, การวิจัย และยา อย่างสหรัฐ-อังกฤษ-ยุโรป กลับไร้วิธีรับมือและรักษา ปล่อยตายทับถมทุกวันถึงขณะนี้?
แต่นี่ นักข่าว Channel 4 กลับถามเรื่องยิบย่อยเฉพาะส่วน “สังคมภายใน” พุ่งเน้นเรื่อง “ปฏิรูปสถาบัน” ตั้งคำถามเจาะจงใช้ศัพท์ “นายกฯ เผด็จการ”
เหล่านี้ “นักเลงข่าว” รู้ดี ผู้ถามไม่ต้องการคำตอบ ที่ต้องการ คือ เจตนาใช้คำถามนั้น “ชี้นำ-ชี้แง่” ให้ผู้ฟัง-ผู้ชม “คล้อยตามข่าว” เชื่อและเกิดทัศนคติลบต่อสถาบันและนายกฯ
สันดานจิ้งจอกหัวแดง ออกโรงชักใยปฏิบัติการร่วมขบวนการกับแก๊งสามสัสชัดๆ
ถ้านักข่าวไทยไปตะโกนถามนายกฯอังกฤษ “บอริส จอห์นสัน” บ้างว่า
“เด็กๆ อังกฤษเรียกท่านว่า “นายกฯ ติ๊งต๊อง” เชื่อถือไม่ได้ หลอกต้มกระทั่ง “ควีนเอลิซาเบธ” ท่านรู้สึกอย่างไร?”
เนี่ย…..
แบบนี้ ที่อังกฤษจะให้นักข่าวและช่างกล้อง ๓-๔ คน เข้าไปยืนตะโกนถามกับบอริส จอห์สัน เอาคำถามมาเป็นหัวข่าวประจานบ้าง จะได้มั้ย?
และคิดว่า แบบนั้น คนอังกฤษจะยินดีมั้ย?
การเรียกร้อง เอะอะอ้าง “ประชาธิปไตย” ก็แค่ข้ออ้างบังหน้า ถามตรงๆ รัฐบาลที่เป็นอยู่ ไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตยหรือ?
ก็เลือกตั้งมาด้วยกัน เพียงแต่เขาได้เป็นรัฐบาล แต่กูไม่ได้เป็น ก็อ้างเหตุ ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องล้ม ต้องเลือกตั้งใหม่
ปลุกปั่น-ชักใย ใช้เด็กเป็นเครื่องมือบังหน้า เพื่อให้ดูสมเหตุ-สมผล ก็ให้นักเรียนไปล้อมกรอบ อัดรัฐมนตรี “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” ที่กระทรวงศึกษา
เมื่อวาน (๒๐ สค.๖๓) Taya Teepsuwan โพสต์ภาพและเรื่อง ว่า
“เมื่อวานช่วงเช้าได้มีโอกาสไปฟังธรรม เนื่องในโอกาสเปิดอาคาร “มุ่งวิชชา” โรงเรียนปัญญาประทีป เป็นโรงเรียนวิถีพุทธ ที่ปลูกฝังเรื่องวิชาชีวิตควบคู่ไปกับวิชาการ
เสร็จแล้ว ได้สนทนาธรรมกับท่านอาจารย์ชยสาโรอีกครู่ใหญ่ ท่านได้ให้แนวทางในการส่งเสริมโรงเรียนวิถีพุทธ การนำหลักอริยสัจ 4 สอดแทรกไปในการเรียน ผสมผสานระหว่างพุทธศาสน์ และวิทยาศาสตร์
การให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงและได้ฝึกกระบวนการคิด วิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นเหตุเป็นผล ที่สำคัญท่านได้ให้ “สติ” ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการรับมือกับปัญหาต่างๆ
ท่านบอกว่า การเปิดรับฟังความคิดของคนทุกฝ่ายไม่ว่าเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล และหาทางออกร่วมกัน จริงใจต่อสิ่งที่พูด และสิ่งที่ทำ จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
ถือเป็นบุญของเรา 2 คน ที่ได้ไปกราบท่านอาจารย์ในช่วงเวลาอย่างนี้ และจะนำคำสอนของท่านไปปฏิบัติตลอดไป”
ในภาพก็เป็นรัฐมนตรีณัฏฐพลและคุณทยาภริยาท่าน กำลังรับโอวาทธรรมจาก “พระราชพัชรมานิต” หรือ “พระฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร”
ตามที่คุณทยาโพสต์ กล่าวถึงการนำวิถีพุทธเสริมหลักสูตรการสอนในโรงเรียน ผมนึกขึ้นได้
นักเรียนมาร้องขอเสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ พ่วงด้วยให้ปฏิวัติการเรียน-การสอนเสียใหม่ ให้ถูกใจคนรุ่นใหม่
อยากบอกว่า ถูกต้องที่สุด…….
ท่านรัฐมนตรีโปรดนำคำที่ท่าน ชยสาโร ภิกขุ ชี้แนะที่ว่า……..
“การเปิดรับฟังความคิดของคนทุกฝ่ายไม่ว่าเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล และหาทางออกร่วมกัน จริงใจต่อสิ่งที่พูด และสิ่งที่ทำ จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้”
นั่นแหละ นำไปใช้เป็น “สะเก็ดไฟปัญญา” ถือโอกาสรื้อหลักสูตรการเรียน-การสอนปัจจุบันซะเลย
นักวิชาการทางการศึกษาในกระทรวง มีเป็นร้อย-เป็นพัน ทุกคนรอบรู้วิชาการทั้งสิ้น แต่เป็นฝ่ายเดินตามนโยบาย
ดังนั้น ท่านต้องเชื่อฟังเด็ก ไม่งั้นจะถูกเด็กให้ยืนคาบไม่บรรทัด ยืนขาเดียวหน้ากระทรวง
รีบรื้อเก่าทิ้ง ระดมปัญญาวิชาการ ให้ออกแบบตำราเรียน-ตำราสอนใหม่เลย
พูดกว้างๆ ว่า “เขียนหลักสูตรใหม่” มันง่าย แต่จะเขียนแบบไหน อย่างไร นี่ซิมันยาก
“ทันโลก-ทันยุคสมัย” อย่างเดียว ไม่พอ ต้องให้ “รู้ทันโลก- รู้ทันยุคสมัย” ด้วย น่าจะถูกใจว่าที่ “ผู้นำโลก-ผู้นำไทย” ในยุคอนาคตกาล
ผมขอแนะนำให้ท่านรัฐมนตรีและคณะนักการศึกษาในกระทรวง ไปกราบนมัสการ ขอคำแนะนำจาก
“พระเทพศากยวงศ์บัณฑิต” (อนิลมาน ธัมมสากิโย) วัดบวรนิเวศวิหาร ทั้งขอเมตตาจากท่าน ช่วยออกแบบหลักการการเรียน-การสอนให้ด้วย
พอบอกว่าพระ จะให้พระเขียนตำราแปลงโรงเรียนเป็นวัด เรียนจบให้บวชพระ-บวชชี หรืออย่างไร
อยางนี้ รุ่นใหม่เน็ตไอดอล ไม่ชุมนุมฉีกอกรัฐมนตรีหรือ?
พระระดับท่านอนิลมาน จะออกแบบหลักสตรได้หรือไม่ นั้น….ไม่รู้?
ผมรู้แต่ว่า……
ท่านอนิลมาน ตระเวณสอน ออกซ์ฟอร์ด, เคมบริดจ์ อังกฤษ, ฮาร์วาร์ด, แคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์, สแตนฟอร์ด, มิชิแกน, เพนซิลเวเนีย, ซานตาคาลา สหรัฐฯ และ ฯลฯ
ไม่แค่สอนตามมหา’ลัยระดับโลก……
ด้วยการสอนของท่าน มีนักศึกษาสนใจจนล้นเกินมากมาย หลายมหา’ลัย จึงให้ท่านจัดคอร์ส กำหนดหลักสูตรการเรียน-การสอนได้เอง ในหลายๆ มหา’ลัย
คุณสมบัติคร่าวๆ นี้ ………
พอจะช่วยชี้แนะหลักสูตรการเรียน-การสอนให้กระทรวงศึกษาฯ ได้มั้ยครับ?
เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกนQR Code