ครัวไทยโพสต์
สันติ อิ่มใจจิตต์
ผมไปเที่ยวงานตลาดวิถีไทย ตลาดเที่ยวได้สไตล์ไทยๆ จัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่อิมแพHค เอ็กซิบิชั่นฮอลล์ 9-10 เมืองทองธานีมาครับ ได้เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะต้องมาชักชวนให้ทุกท่านไปเที่ยวในงานนี้
งานนี้มีท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานจัดได้อย่างยิ่งใหญ่มากครับ โดยทางกรมการค้าภายในได้รวบรวมกิจการต่างๆ ที่ทางกรมได้ส่งเสริมและพัฒนาความรู้มาไว้ที่งานนี้
ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รวบรวมกิจการทุกอย่างมาจัดไว้ในงานเดียว เพราะทุกครั้งที่ทางกรมจัดงานก็จะแยกกันจัดงานแต่ละกิจการ ในเมื่อนำมารวมกันจึงทำให้งานนี้ใหญ่โตชนิดที่ว่าเดินเที่ยวแทบจะไม่ทั่วเชียวครับ ยังไม่นับรวมที่มีของดีๆ ให้หาซื้อกลับบ้านอีกมากมาย เพราะอดใจไว้ไม่ไหว ซึ่งเป็นการเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น
ภายในงานมีทั้งตลาดต้องชม ตลาดวิถีไทย ตลาดริมทาง ฯลฯ ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมืองราชบุรี ต่างก็นำสินค้าคัดชนิดเกรด A มาออกร้านขายในราคาที่ไม่แพง ถูกกว่าขายที่ตลาดขายด้วยซ้ำ เพราะมาขายที่นี่ไม่เสียค่าเช่าที่ครับ
ผ่านจุดคัดกรองเดินเข้าภายในงานก็จะละลานตากับสินค้าต่างๆ ที่มีมากมายโดยแบ่งเป็นโซนๆ แต่ละโซนแต่ละที่ก็ตกแต่งกันอย่างสวยงาม มีทั้งผ้าสวยๆ ให้คุณผู้หญิงได้เลือกซื้อ ทั้งผ้าผืนและผ้าสำเร็จรูปที่ทอด้วยมือ รวมทั้งอาหารต่างๆ จากทุกภาค แล้วแต่ท่านจะชื่นชอบแบบไหน เช่น หมูย่างจากเมืองตรังแท้ๆ ยกทั้งตัวมาให้ชมถึงกรรมวิธีการแล่รวมทั้งน้ำจิ้มรสเด็ด ยืนดูก็น้ำลายสอออกมาแล้วครับ ยังมียำต่างๆ เช่น ยำเห็ดมีให้เลือกว่าจะให้ยำด้วยเห็ดอะไร
มีขนมแปลกๆ ที่ผมเชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยเห็น เช่น ขนมไข่ปลา ซึ่งเป็นขนมไทยพื้นบ้านในแถบจังหวัดที่มีการปลูกต้นตาล จุดเด่นของขนม คือ รูปทรงขนมที่มีเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอมของน้ำตาล ประกอบกับความเหนียว นุ่มหวาน มันเค็ม กำลังดี ขนมไข่ปลาจึงอร่อยติดลิ้นของผู้ที่ได้ลิ้มลอง
ซึ่งขั้นตอนของการทำขนมนั้นง่ายไม่ยุ่งยาก โดยนำเนื้อของลูกตาลล้วนๆ ไปต้มในน้ำเชื่อมร้อนๆ แล้วนำไปคลุกกับมะพร้าวขูด ขนมนี้เหมาะสำหรับทำเลี้ยงรับรองแขก ใช้เป็นขนมถวายพระในงานบุญ หรือทำเป็นอาชีพก็ได้ ปัจจุบันนี้ทราบว่าผู้ที่ทำขนมไข่ปลานี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผักผลไม้ออแกนิกต่างๆ ให้ได้เลือกชมเลือกชิม และซื้อกลับบ้านอย่างมากมาย มีทั้ง อะโวคาโด มังคุด ลำใย เงาะ บวบหวาน ถั่วฝักยาว ฟักทอง มะเขือต่างๆ ฯลฯ
เดินเที่ยวงานจนเหนื่อยแล้ว ขอแนะนำให้แวะไปที่ฮอลล์ 10 ด้านในสุด ทางสมาคมภัตตาคารไทยได้จัดบูธอาหารรวมทั้งที่นั่งกินไว้รับรองอย่างมากมาย โดยคัดร้านอาหารฝีมือเด็ดๆ มาให้ได้เลือกชิม เช่น ร้านเจ๊ญาส้มตำเมืองทอง ยกร้านของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆ งานมาไว้ที่นี่ โดยตัวเจ๊ญามาบัญชางานเอง มีเมนูอร่อยๆ ให้ได้เลือกชิม เช่น แกงส้มปลากะพงสามน้ำยอดมะพร้าวอ่อน ปลากะพงสามน้ำทอดราดพริก ปลากะพงสามน้ำทอดน้ำจิ้มซีฟู้ด แกงผักหวานไข่มดแดง แกงเปรอะไข่มดแดง รวมทั้งไก่บ้านย่าง
ร้านครัวมัณฑนา ที่แม่ครัวฝีไม้ลายมือระดับชั้นครูนำเมนูอาหารง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยมาให้บริการ เช่น เย็นตาโฟรสเด็ด ธรรมดาราคา 50 บาท เย็นตาโฟปลากะพงสามน้ำ 70 บาท และเย็นตาโฟรวมมิตรทะเล ราคา 90 บาท
ร้านมังกรหลวง ที่โด่งดังนำเมนูราดหน้ามาให้ได้ลิ้มลอง เช่น ราดหน้าหมู 50 บาท ราดหน้าเนื้อ 60 บาท ราดหน้าปลากะพง 70 บาท ราดหน้ารวมมิตรทะเล 90 บาท ครับ
ที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ของผู้ที่อยากจะรู้รสชาติความอร่อยของปลากะพงสามน้ำจากจังหวัดสงขลาที่ทางสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน นำปลากะพงสดๆ ตัวโตๆ ที่ขอดเกล็ดแล้วมาขายในราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ คือ ก.ก.ละ 109 บาท เท่านั้น
งานเที่ยวตลาดวิถีไทย ตลาดเที่ยวได้สไตล์ไทยๆ นี้ นักช็อปนักชิมจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาดครับ เพราะสินค้าบางอย่าง เช่น ปลากะพงสามน้ำนั้นไม่แน่ใจว่าจะมีให้ชาวกรุงเทพฯ ได้ชิมอีกหรือเปล่า ถ้าไม่เกิดโควิด-19 ก็คงจะไม่มีโอกาสได้ชิม เพราะแค่ขายกันเฉพาะในภาคใต้ก็ผลิตแทบจะไม่ทันแล้ว และต้องอย่าลืมว่างานนี้มีถึงเพียงแค่วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม นี้ เท่านั้นครับ
