เว้นวรรคเรื่องหลุมดำในโรงพยาบาลขอนแก่นที่พยายามกลบกันซักวัน
เพื่อ “ดูเขา” บ้าง
“เขาในที่นี้ ก็ทุกฝ่ายในระบบ ตั้งแต่ระดับบริหารในกระทรวงยันระดับพื้นที่ ว่าด้วยเงินทอน ๕% บริษัทยานั่นแหละ
เพราะเมื่อพินิจตามวงจรสัมพันธ์แล้ว หัว-คือระดับกระทรวง หาง-คือระดับโรงพยาบาล
“ไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่”
ยังไง ก็ยังงั้น!
ดังนั้น ถ้าคนในวงจร เพียงแต่พูด ไม่เป็นโจทย์นำเรื่องเข้าระบบ ทอดเวลาซักระยะ เมื่อเรื่องคลายร้อน มีการประนี-ประนอมกันภายใน
ถ้า “สมประโยชน์” กันทั้งสองฝ่าย
ทุกอย่างก็ “คัท ลอส”
คือจบตรงขั้นตอนกล่าวหาตามบัตรสนเท่ห์แค่นั้น
ประเด็น “หลุมดำ” ในโรงพยาบาล …….
ปล่อยร้างเป็น “หลุมดำ” ศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่มีใครกล้าแตะต่อไป
เหตุอันควรสงสัยว่า บริหารกันด้วยกลไกแบบไหนจึงขาดทุนต่อเนื่องร่วมสิบปี กว่า ๒๐๐ ล้าน ซ้ำคนระดับบริหาร ไม่มีใครอินังขังขอบกันเลย?
แทนที่ระบบธรรมาภิบาลจะมีคำตอบตรงนี้
ระบบเสื้อกาวน์ขาวก็จะปิดคลุม “หลุมดำ” เป็นเสน่ห์ร้ายกาจ ให้คนภายนอกตะกายหาความจริงในวงจรเงินทอน ๕% และเงินบริจาคโรงพยาบาลต่อไป!
เมื่อวาน (๙ มิย.) เห็นปลัดฯ ยกคณะทนายสาธยายยุติธรรมบริหารเป็นฉากๆ
ก็กางตำราว่ากล่าวกันไป แต่อย่าลืม ยุคนี้ เป็นยุคเทคโนโลยีสื่อสาร ซึ่งมันเร็ว
กรรม คือ ทุกการทำของมนุษย์ มันก็พลอย “เร็ว” ในทางส่ง “ผล” ไปด้วย
ฉะนั้น ก็คอยดูกัน ใครจะกลบอะไร ก็กลบกันเร็วๆ เน้อ!
เรื่องเงินในการคอรัปชั่น นั้น อยากบอกไว้นิด ใครจะทำ ก็รีบทำๆ กันซะ
เพราะอีกสอง-สามปี โลกการเงินจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี “บล็อกเชน” จะเปลี่ยนรูปแบบธุรกรรมการเงินหมด
ไม่ใช่โกงยาก…..
โกงได้ แต่ระบบบล็อกเชนไม่แค่โปร่งใส หากแต่มันโปร่งแสงขนาดนั้น คือทุกขั้นตอนการเดินของเงิน เห็นได้หมด
นั่นคือ เงินโกง-เงินคอรัปชั่น ไม่มีทางหลบซ่อนเลย เว้นอย่างเดียว ขนเงินกระดาษจ่ายกันเป็นกระสอบๆ แล้วสร้างห้องเก็บ อาจรอด (ชั่วคราว)
แต่ถ้าเงินนั้น เข้าระบบวันไหน ถูกจับได้วันนั้น!
นักกินเมืองทั้งหลาย เตรียมคิดหาวิธีเอาชนะระบบบล็อกเชนไว้เถอะ เพราะโลกจะใช้เงินกระดาษน้อย หนักไปทางเงินเหรียญดิจิทัล
จีน โดยรัฐบาลออก “หยวน ดิจิทัล” สหรัฐฯโดยเฟซบุ๊กส์ ออก “ลิบรา ดิจิทัล”
กระทั่งไทยเราเอง ……
แบงก์ชาติเตรียมเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ เทคโนโลยีบล็อกเชน ใช้ชื่อ “อินทนนท์” ออกใช้แทนธนบัตรกระดาษเช่นกัน ไปถึงขั้นทดลองใช้ระหว่างสถาบันแล้ว
ก็บอกให้รู้ไว้ …..
เพราะหมู่นี้ วงการเสือหิว-เสือโหย ในระบบเลือกตั้งซีกพรรครัฐบาล ตะกุยเล็บกันเลือดสาด
“บล็อกเชน” แปลว่าอะไร?
ไม่ต้องบอกหรอก เดี๋ยวคนรุ่นใหม่หัวเราะ แต่ทั้งรุ่นใหม่-รุ่นเก่า อาจยังไม่รู้ “คำแปลเฉพาะ” ก็ได้
บล็อกเชน ในวงการทุจริต-คอรัปชั่น เขาแปลว่า โซ่ตรวนแห่งตะราง!
บล็อก กล่อง ๔ เหลี่ยม คือห้องขัง
เชน คือ โซ่ตรวนพร้อมลูกตุ้ม ติดขาสองข้าง
นักเล่นแร่แปรธาตุจำไว้เลย อีกสอง-สามปี ด้วยโซ่ร้อยกล่องข้อมูลในระบบบล็อกเชน
โกงปุ๊บ-ถูกจับปั๊บ ทั้งคนรับ-คนให้ เพราะเงินคริปโตฯ มันโปร่งแสง เห็นกันหมดทุกคน!
เมื่อวาน (๙ มิย.) ดูข่าวพรรคพลังประชารัฐ เห็นชัดถึงความแตกแยกเป็น “ซีก ๔ กุมาร” กับ “ซีกอวตาร”
ตอนนี้ ความอยากได้ ทำให้หมดความอาย ออกมาใส่กันหมัดลุ่นๆ แบบมวยพม่า!
คอยเก้าอี้รัฐมนตรีเวียนเทียนมาครบปีแล้ว
เอ็งลุกซี ให้ข้ามั่ง …..
ตอนเลือกตั้ง ข้าลงทุนไปตั้งเท่าไหร่ ฉะนั้น เทคโนแครตลุกต้องลุก ให้มันนี่แครตนั่ง!
คนดูส่ายหัว กำลังชื่นชมพระเอกของคณะ “นายกฯ ประยุทธ์” ว่ารำสวย ร้องเพราะ เสียงใส
แต่ตัวตลก ตัวร้าย ดันพรวดพราดออกมา รบรา-ด่าทอ ทำลายบรรยากาศเพริด ทำเอาแฟนๆ พระเอกบอกว่า
แบบนี้ “-รมณ์เสีย”!
เรื่องอย่างนี้ พระเอกของคณะ “นายกฯประยุทธ์” ว่ายังไงบ้าง คือเรื่องที่คนพปชร. ทนรอให้เก้าอี้ลอยมาหาก้นไม่ไหว ต้องออกไปยื้อแย่งหน้าฉาก
นายกฯ กับนักข่าวเล่นเพลงยาว “ถาม-ตอบ” กันหลายกระบวนท่าเมื่อวาน เท่าที่ตามอ่านดู มีประเด็นบอกนัยได้อยู่ จะขยุ้มๆ มาให้อ่านกัน
ประเด็นปรับครม.นายกฯ ตอบว่า…….
“ในส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องของผม ผมจะรู้เองว่าควรจะพิจารณาเมื่อไหร่ อย่างไร แต่คงไม่ใช่ตอนนี้
เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเสนอตัวกันมาเยอะแยะในขณะนี้
“พรรคร่วม” ก็เป็นเรื่องพรรคร่วม มีหลายพรรค เพราะฉะนั้น ใครจะเป็นหรือไม่เป็น ผมยังไม่ได้คิด
อย่าเพิ่งมาถามว่า ผมจะปรับครม.หรือยัง ถ้าปรับเมื่อไหร่ ผมจะบอกเอง บางทีไม่ต้องบอก ผมก็ปรับเอง มันเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวในการที่จะปรับ ครม.
ซึ่งก็มีสัดส่วนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะว่ากันมา”
ประเด็นรองนายกฯ “พลเอกประวิตร” จะเป็นหัวหน้าพรรคพปชร.นักข่าวถามนายกฯว่า
“หากพลเอกประวิตร รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร.จะกระทบต่อการทำงานในส่วนของรองนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารหรือไม่? “
นายกฯก็ย้อนจักรวาล ว่า……..
“ทำไมล่ะ ถ้าท่านรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็ต้องบริหารของท่านให้ได้
ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ต้องทำงานทั้งสองด้านให้ได้ ถ้าท่านจะรับงานตรงโน้นก่อน ท่านก็ต้องทำงานตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม”
“ถ้ามติที่ประชุมพรรคพปชร.เลือก พลเอกประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค นายกฯ ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่?” นักข่าวแยง นายกฯก็ย้อน……
“ให้เป็นเรื่องของพรรคพปชร.เขา ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค”
“นายกฯเป็นห่วงสุขภาพพลเอกประวิตรมั้ย เพราะมีอายุมากแล้ว หากต้องรับ ๒ ตำแหน่ง อาจจะมีปัญหา?”
นักข่าวหยอดต่อ นายกฯ ก็โย้ไว้
“ก็ไปถามท่านดู สื่อเองก็รู้ว่าพรรคการเมืองก็เป็นแบบยิบย่อย ซึ่งทุกพรรคก็เป็นแบบนี้ เพียงแต่จะออกสื่อหรือไม่ออกผ่านสื่อเท่านั้นเอง
วันนี้ก็เป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ กันอยู่ เป็นเรื่องสำคัญที่สื่อคุ้ยกันทุกวันอยู่แล้ว”
มาดูท่าทีนายกฯ ต่อการที่พปชร.จะเปลี่ยนหัวหน้าเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรคบ้าง ว่าท่านมีทัศนคติตอบสนองไปทางใด?
“…….คนตัดสินใจเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ก็คือผม เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค
ในส่วนพรรคของท่านก็ไปเตรียมการคนของท่านไว้ เมื่อไหร่ที่ผมปรับก็นำมาพิจารณา และเมื่อผมพิจารณาแล้ว หากเห็นว่าไม่เหมาะสม ผมก็เปลี่ยนคนเท่านั้นเอง อำนาจผมมีอยู่แล้ว”
ประเด็น ๓ กุมาร “สมคิด-อุตตม-สุวิทย์” จะให้อยู่หรือให้ออก?
คำตอบจากนายกฯ คือ………
“ผมยังไม่เห็นว่า จะมีใครหลุดหรือไม่หลุดเลย ใครจะหลุดใครจะเข้า ผมยังไม่ได้ดูเลยทั้งสิ้น ผมเอางานวันนี้ให้ได้ก่อน ก็ทำงานไป คนที่อยู่ในตำแหน่งวันนี้ ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน”
เมื่อถามว่านายกฯ จะเข้าไปสยบปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า
“ผมจะไปสยบอะไรเล่า ก็เพียงแต่ขอร้องว่าอย่าพูดกัน ให้ข่าวกันแล้วคนตัดสินใจเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็คือผม เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค
ในส่วนพรรคของท่านก็ไปเตรียมการคนของท่านไว้ เมื่อไหร่ที่ผมปรับก็นำมาพิจารณา และเมื่อผมพิจารณาแล้วหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ผมก็เปลี่ยนคนเท่านั้นเอง อำนาจผมมีอยู่แล้ว”
สรุป……..
รอให้พรบ.งบประมาณแผ่นดินประจำปี ๒๕๖๔ ผ่านสภาเรียบร้อยตอนปลายเดือนนี้ก่อน
“ปรับครม” หรือ “ยุบสภา” ๕๐-๕๐!